แมคลาเรน เปิดตัว “แมคลาเรน เซนนา” ในงานมหกรรมยานยนต์นานาชาติเจนีวาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยถือเป็นรุ่นล่าสุดของแมคลาเรนในตระกูลอัลติเมท ซีรีส์ (Ultimate Series) ยังคงดีเอ็นเอของความเป็นรถแข่ง เพื่อนำเสนอสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ
“แมคลาเรน เซนนา คือรถยนต์ที่ไม่เหมือนใคร นำเสนอรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ตตามแบบฉบับของแมคลาเรน มีประสิทธิภาพที่พัฒนาขึ้นเพื่อการพุ่งทะยานเช่นเดียวกับรถในสนามแข่ง แต่ถูกต้องกฎหมายเพื่อการขับขี่บนท้องถนน ทุกองค์ประกอบของยานยนต์ในตระกูล Ultimate Series มุ่งเน้นที่ประสิทธิภาพการทำงานขั้นสูงสุดเป็นสำคัญ เชื่อมโยงนักขับกับรถยนต์ให้เป็นหนึ่งเดียวอย่างแท้จริง” ไมค์ เฟลวิทท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร แมคลาเรน ออโตโมทีฟ กล่าว
ชื่อรุ่น “เซนนา” มีที่มาจากนักแข่งรถระดับตำนาน โดยได้รับการออกแบบ วางแผน และพัฒนาผสานคุณสมบัติของโครงสร้างน้ำหนักเบา, กำลังเครื่องยนต์, เทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์และระบบกันสะเทือนแบบแอ็คทีฟเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยมีน้ำหนักเพียง 1,198 กิโลกรัม
ขุมพลังเครื่องยนต์ ขนาด 4.0 ลิตร V8 Twin-turbocharged กำลังสูงสุด 800 แรงม้า และ แรงบิด 800 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที หรือจาก 0-200 กม./ชม. ในเวลาเพียง 6.8 วินาที และอัตราเร่งควอเตอร์ไมล์ (402 เมตร) เพียง 9.9 วินาที ความเร็วสูงสุดได้ถึง 340 กม./ชม.
ราคาจำหน่ายของ แมคลาเรน เซนนา อยู่ที่ 750,000 ปอนด์รวมภาษี โดยจะผลิตจำนวนจำกัดเพียง 500 คันเท่านั้น และทุกคันประกอบด้วยมือของช่างผู้เชียวชาญที่ศูนย์การผลิตแมคลาเรนในเมืองเซอร์เรย์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งถูกสั่งจองหมดแล้วในปัจจุบัน สำหรับในประเทศไทยมีผู้สั่งจองและพร้อมส่งมอบรถในเดือนสิงหาคม
ซึ่งคันสุดท้ายถูกประมูลไปเมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2017 ในงานประมูลส่วนบุคคลสำหรับลูกค้าแมคลาเรน โดย ราคาชนะการประมูลอยู่ที่ 2 ล้านปอนด์ โดยรายได้จะมอบให้แก่สถาบัน Ayrton Senna Institute ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร โดยมีภารกิจเพื่อมอบการศึกษาแก่เยาวชนและเด็กวัยรุ่นผู้ด้อยโอกาสกว่า 2 ล้านคนในประเทศบราซิล