เปิดตารางเทียบสเปก 4 Compact SUV ระดับหรู ในงบประมาณ 3 ล้านกว่าบาท “อาวดี้ คิว5” “บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3” “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี” และ “วอลโว่ เอ็กซ์ซี60” ที่นำมาด้วย PHEV เครื่องยนต์ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า 407 แรงม้า พร้อมอัตราประหยัดน้ำมันต่ำเพียง 47.6 กม./ลิตร ฟูลออปชันเคาะค่าตัวถูกสุด 3.59 ล้านบาท
ตลาดรถยนต์ เอนกประสงค์ขนาดคอมแพคต์ระดับหรู (Compact SUV Premium) นับเป็นเซ็กเมนท์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในตลาดโลกและเมืองไทย สังเกตุได้ง่ายจากรถยนต์รุ่นใหม่ของค่ายรถต่างๆ ที่ทยอยเปิดตัวออกมาจะมีรถในลักษณะแบบนี้เป็นแกนนำในการทำตลาด เรียกว่า มีกันครบทุกค่าย ไม่ว่าจะเป็นยุโรป หรือญี่ปุ่น แน่นอนอเมริกาคือตลาดใหญ่ของรถประเภทนี้อยู่แล้ว ดังนั้นค่ายอเมริกันย่อมไม่พลาด
อย่างไรก็ตามสำหรับประเทศไทย ตลาดนี้เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง ขอเรียกว่า เป็นตลาดสำหรับเศรษฐีรุ่นใหม่ ด้วยพิกัดราคาระดับ 3 ล้านกว่าบาท และเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าเจเนอเรชันใหม่ ดังจะเห็นได้จากการทำการตลาดของบรรดาค่ายรถต่างพุ่งเป้าหมายไปที่ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว
ซึ่งล่าสุดเซ็กเมนท์นี้ มีรถยนต์เปิดตัวมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ถึง 2 แบรนด์และอีกหนึ่งแบรนด์กำลังจะเปิดตัวในสัปดาห์หน้า เราจึงสำรวจรถยนต์รุ่นต่างๆ ในเซ็กเมนต์นี้ที่มีความน่าสนใจมานำเสนอ เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเลือกพาหนะคู่ใจให้ตรงกับความต้องการของท่านสักคัน
ขอเริ่มกันด้วยการไล่เรียงลำดับของรถยนต์ที่อยู่ในเซ็กเมนท์นี้และมีจำหน่ายในประเทศไทย ผ่านทางตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (ไม่นับรวมผู้นำเข้าอิสระ) “อาวดี้ คิว5, บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์3 , เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลซี, , แลนด์ โรเวอร์ เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค, วอลโว่ เอ็กซ์ซี60, เล็กซัส เอ็นเอ็กซ์, ปอร์เช่ มาคันน์ และ จากัวร์ อี-เพซ”
ในส่วนของการเปรียบเทียบสเปคข้อมูลและตารางของเราจะมีเพียง 4 แบรนด์ เท่านั้น ส่วนที่เหลือจำเป็นต้องละไว้เพื่อความกระชับในการนำเสนอ สำหรับ จากัวร์ อี-เพช จะเปิดตัวในสัปดาห์หน้า ข้อมูลอย่างเป็นทางการจึงยังไม่เปิดเผยออกมา ขณะที่ “ปอร์เช่ มาคันน์” ด้วยพิกัดขนาดตัวรถรวมอยู่ในเซกเมนท์นี้ แต่ระดับราคาสูงไปค่อนข้างมาก จึงขอกล่าวไว้แต่เพียงเท่านี้
ทั้ง 4 แบรนด์ดังกล่าว มีสเปกของรถที่เป็นเครื่องยนต์ ดีเซล ทำตลาดครบแต่เราไม่นำรุ่นดีเซลเพียงอย่างเดียวมาเทียบกัน ขอเปรียบเทียบรุ่นด้วยการใช้ ราคาเป็นตัวตั้งสำคัญ โดยนำรุ่นท้อปมาเปรียบเทียบกัน เนื่องจาก การตัดสินใจในมุมของคำว่า ความคุ้มค่าของบริโภคมักจะใช้ ราคาเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเลือก
ทั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับการที่ประเทศเยอรมนี อนุมัติให้มีการแบนหรือห้ามใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลวิ่งในเมืองบางเมือง ซึ่งหมายความว่า เจ้าของรถดีเซลทุกคันจะต้องจอดทิ้งที่บ้าน ส่งผลโดยตรงต่อค่ายรถยนต์ที่จะหยุดพัฒนาและเลิกจำหน่ายเครื่องยนต์ดีเซลในอนาคต โดยปอร์เช่เป็นค่ายแรกที่มีข่าวอย่างเป็นทางการ ในการเริ่มยุติจำหน่ายรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ในรุ่น มาคันน์ เรียบร้อยแล้ว รวมถึงการยุติทุนสนับสนุนในการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลอีกด้วย (อ้างอิงจากรายงานข่าวของ autocar.co.uk)
ที่เรากล่าวมานี้เพื่อเตือนให้ท่านผู้อ่านรับรู้ และตะหนักถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ส่วนประเทศไทยจะมีการประกาศห้ามใช้รถเครื่องยนต์ดีเซล คงจะเป็นไปได้ยาก เพราะมากกว่าครึ่งของรถที่จำหน่ายในไทยแต่ละปีเป็นรถเครื่องยนต์ดีเซล ดังนั้นจึงวางใจได้ในจุดนี้ แต่คงจะห่วงเพียงเรื่องของอะไหล่ที่ค่ายรถจะสำรองไว้ 10 ปีหลังยุติการทำตลาด ตามมาตรฐานสากล
มาดูกันที่ตัวรถทั้ง 4 คัน ขอเรียกชื่อรุ่นแต่เพียงสั้นๆ เพราะถ้าเขียนเต็มจะยาวมาก (ดูชื่อเต็มได้ในตาราง) รถที่มีมิติตัวถังยาวที่สุด คือ เอ็กซ์3 ขณะที่กว้างที่สุดเป็นของ เอ็กซ์ซี60 ส่วนความสูงและระยะห่างฐานล้อถือว่าใกล้เคียงกันมาก ด้านความสวยงามของดีไซน์ภายนอกขึ้นกับความชอบของแต่ละบุคคล เราคงมิอาจตัดสินแทนได้
สเปกเครื่องยนต์ คือสิ่งที่นำมาเปรียบเทียบได้อย่างเห็นชัดที่สุด โดย เอ็กซ์ซี60 โดดเด่นที่สุดในหัวข้อนี้ ด้วยเครื่องยนต์เบนซินพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ผสานการทำงานได้กำลังสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิด 640 นิวตันเมตร พร้อมอัตราการบริโภคน้ำมันที่ต่ำถึงระดับ 47.6 กม./ลิตร ตามมาตรฐานอีโคสติกเกอร์ ทั้งยังปล่อยไอเสียต่ำเพียง 50 กรัม/กม.ด้วย รองลงมาเป็น คิว5 ที่เครื่องยนต์เบนซิน กับพละกำลัง 252 แรงม้า แรงบิด 370 นิวตันเมตร ลำดับที่ 3 เป็นของ จีแอลซี เครื่องยนต์ดีเซล กำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 500 นิวตันเมตร และสุดท้ายเป็นของ เอ็กซ์3 ดีเซล ที่มีกำลัง 190 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร ซึ่งตัวเลขกำลังสอดคล้องกับผลลัพท์ด้านอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่เรียงลำดับความแรงเหมือนกัน (ดูตารางประกอบ)
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกในการขับขี่ เป็นสิ่งที่ท่านต้องลองด้วยตัวเอง ว่าชอบความรู้สึกแบบใด เราทำได้เพียงเปรียบเทียบตัวเลขให้เห็นประกอบการตัดสินใจ
สำหรับอุปกรณ์มาตรฐาน ด้านความปลอดภัย เอ็กซ์ซี60 จัดให้เต็มพิกัดไม่เสียชื่อแบรนด์วอลโว่ ที่โดดเด่นในเรื่องของความปลอดภัยมาเป็นลำดับแรกมีมากกว่า จีแอลซี ราว 2-3 ฟังก์ชั่นสำคัญ ส่วนออปชั่นเสริมต่างๆ จีแอลซี และวอลโว่ อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน แต่รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จะแตกต่างไป
ซึ่งข้อได้เปรียบนี้มาจากการที่เมอร์เซดส-เบนซ์เป็นประกอบในประเทศ และวอลโว่เป็นรถนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย ที่ได้สิทธิ์ประโยชน์ภาษีนำเข้า 0% ตามเงื่อนไขเขตการค้าเสรี อาเซียน เหนืออื่นใด วอลโว่ ยังได้เปรียบในแง่ของ พิกัดอัตราภาษี สรรพษามิต ที่เสียเพียง 8% จาการเป็นรถ PHEV ทำให้สามารถทำราคาให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกันได้
คิว5 ประกอบที่เม็กซิโก ราคา 3.899 ล้านบาท เด่นด้วยระยะเวลาการรับประกันที่ยาวนานที่สุดคือ 5 ปีหรือ 150,000 กม. ส่วน เอ็กซ์3 ราคา 3.699 ล้านบาท ประกอบที่สหรัฐอเมริกา รับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมฟรีค่าบำรุง 3 ปีหรือ 60,000 กม. ขณะที่ จีแอลซี ประกอบในประเทศไทย ราคา 3.69 ล้านบาท รับประกัน 3 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และ เอ็กซ์ซี60 ราคา 3.59 ล้านบาท ถูกที่สุด ประกอบที่มาเลเซีย รับประกัน 3 ปีหรือ 100,000 กม.
ถึงบรรทัดนี้ เราคงไม่ต้องบอกว่า คันไหนคุ้มค่าที่สุด เมื่อมองเฉพาะตัวรถยนต์กับราคาที่เป็นตัวเลข ไม่นับความเชื่อในแบรนด์,บริการหลังการขายหรือส่วนอื่นๆ แล้วท่านจะตัดสินใจเลือกหรือไม่ ขึ้นกับตัวท่าน เพราะการซื้อรถบางครั้ง ความชอบอยู่เหนือ เหตุผล และตัวเลขใดๆ