ฐิติกร จำกัด รายงานผลประกอบการปี 2560 โดยมีกำไรสุทธิ 466.9 ล้านบาท โตขึ้น 8.7% จาก 429.7 ล้านเมื่อปีที่ผ่านมา ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.52 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 0.45 บาทต่อหุ้น ในปี 2559 พร้อมออกหุ้นกู้กว่า 600 ล้าน เตรียมพร้อมขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.27% ต่อปี เป็นเวลา 3 ปี
ปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน หรือ TK เผยว่า ปี 2560 ที่ผ่านมา TK มีผลประกอบการดีขึ้นตามเป้า โดยมีกำไรสุทธิรวม 466.9 ล้านบาท โต 8.7% รายได้รวม 3,653.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% จาก 3,371.3 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 10,018.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.3% จาก 8,611.4 ล้านบาทในปี 2559 ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลดำเนินงานในปี 2560 ในอัตราหุ้นละ 0.52 บาท รวมจำนวน 500 ล้านหุ้น เป็นเงิน 260 ล้านบาท โดยจะปิดสมุดพักการโอนหุ้น เพื่อรับเงินปันผลในวันที่ 7 มีนาคม 2561 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2561
“ตลอดปี 2560 ผลประกอบการของบริษัทฯ โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งมีปัจจัยบวกทางด้านเศรษฐกิจ นอกเหนือจากนโยบายการบริหารต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งการบริหารการจัดการการดำเนินธุรกิจในทุกขั้นตอน เพื่อบริการที่ดีสำหรับลูกค้าควบคู่ไปกับการควบคุม NPL ซึ่งในปีที่แล้ว NPL อยู่ที่ 4.7% ” ปฐมา พรประภา กล่าว
คณะกรรมการบริหาร TK ได้อนุมัติการออกหุ้นกู้มูลค่า 600 ล้านบาท อายุ 3 ปี ต่ออัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.27% เสนอขายแก่ผู้ลงทุนทุกสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยจะเสนอขายดังกล่าวในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 มีกำหนดไถ่ถอนวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งถือเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ TK นำมาใช้บริหารต้นทุนทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ในปีที่แล้วได้มีการออกหุ้นกู้ทั้งสิ้น 1,800 ล้านบาท และได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน เพราะความน่าเชื่อถือของ TK ที่ได้รับการจัดอันดับจาก Tris Rating ในระดับ A- ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 7 ตั้งแต่ปี 2553
วัตถุประสงค์ที่สำคัญของการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมในการขยายพอร์ต เพิ่มยอดการเช่าซื้อตามแผนที่บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ คือ เพิ่มสัดส่วนรายได้และจำนวนลูกค้าเช่าซื้อทั้งในและต่างประเทศ พร้อมๆกับ การเติบโตจากการเพิ่มรายได้ของลูกค้าที่เช่าซื้อในประเทศ โดยแผนการขยายในปีนี้จะเปิดที่กัมพูชาอีก 3 สาขา จากเดิม 6 สาขา และเพิ่มอีก 2 สาขา ในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จากเดิมมี 1 สาขา รวมถึงสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ที่อยู่ในระหว่างการจัดตั้งบริษัท อีกทั้ง TK ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาจัดตั้งบริษัทลูกเพิ่มเติมเพื่อลงทุนในประเทศใหม่ๆ อีกหลายประเทศ
“การลงทุน 600 ล้านบาทในครั้งนี้ นอกจากใช้ในการขยายแผนธุรกิจแล้วยังนับเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจสำคัญของ TK ที่ตอกย้ำความาสามารถในการแข่งขันในตลาดเซื้อรถจักรยานยนต์ในสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นด้วยการล็อคต้นทุนการเงิน ปิดความเสี่ยงและควบคุมต้นทุนในการทำธุรกิจ ปัจจุบัน TK มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 2.7% สัดส่วนอัตราเงินกู้ ดอกเบี้ยคงที่ ต่อเงินกู้ระยะสั้นเมื่อสิ้นปีที่แล้วอยู่ที่ 85:15 ภายหลังการออกหุ้นชุดใหม่ 600 ล้านบาทนี้ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยจะปรับเป็น 2.5% นอกจากนี้ สัดส่วนหนี้สินต่อทุนของ TK ยังต่ำมากคือ 1.1 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับ D/E Ratio ในธุรกิจนี้สูงถึง 7.7 เท่า” ปฐมา พรประภา กล่าวปิดท้าย
ปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน หรือ TK เผยว่า ปี 2560 ที่ผ่านมา TK มีผลประกอบการดีขึ้นตามเป้า โดยมีกำไรสุทธิรวม 466.9 ล้านบาท โต 8.7% รายได้รวม 3,653.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% จาก 3,371.3 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 10,018.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.3% จาก 8,611.4 ล้านบาทในปี 2559 ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลดำเนินงานในปี 2560 ในอัตราหุ้นละ 0.52 บาท รวมจำนวน 500 ล้านหุ้น เป็นเงิน 260 ล้านบาท โดยจะปิดสมุดพักการโอนหุ้น เพื่อรับเงินปันผลในวันที่ 7 มีนาคม 2561 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 พฤษภาคม 2561
“ตลอดปี 2560 ผลประกอบการของบริษัทฯ โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการขยายพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ ทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งมีปัจจัยบวกทางด้านเศรษฐกิจ นอกเหนือจากนโยบายการบริหารต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งการบริหารการจัดการการดำเนินธุรกิจในทุกขั้นตอน เพื่อบริการที่ดีสำหรับลูกค้าควบคู่ไปกับการควบคุม NPL ซึ่งในปีที่แล้ว NPL อยู่ที่ 4.7% ” ปฐมา พรประภา กล่าว
คณะกรรมการบริหาร TK ได้อนุมัติการออกหุ้นกู้มูลค่า 600 ล้านบาท อายุ 3 ปี ต่ออัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.27% เสนอขายแก่ผู้ลงทุนทุกสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยจะเสนอขายดังกล่าวในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 มีกำหนดไถ่ถอนวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งถือเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ TK นำมาใช้บริหารต้นทุนทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ในปีที่แล้วได้มีการออกหุ้นกู้ทั้งสิ้น 1,800 ล้านบาท และได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน เพราะความน่าเชื่อถือของ TK ที่ได้รับการจัดอันดับจาก Tris Rating ในระดับ A- ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 7 ตั้งแต่ปี 2553
วัตถุประสงค์ที่สำคัญของการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมในการขยายพอร์ต เพิ่มยอดการเช่าซื้อตามแผนที่บริษัทฯ ตั้งเป้าไว้ คือ เพิ่มสัดส่วนรายได้และจำนวนลูกค้าเช่าซื้อทั้งในและต่างประเทศ พร้อมๆกับ การเติบโตจากการเพิ่มรายได้ของลูกค้าที่เช่าซื้อในประเทศ โดยแผนการขยายในปีนี้จะเปิดที่กัมพูชาอีก 3 สาขา จากเดิม 6 สาขา และเพิ่มอีก 2 สาขา ในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จากเดิมมี 1 สาขา รวมถึงสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ที่อยู่ในระหว่างการจัดตั้งบริษัท อีกทั้ง TK ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาจัดตั้งบริษัทลูกเพิ่มเติมเพื่อลงทุนในประเทศใหม่ๆ อีกหลายประเทศ
“การลงทุน 600 ล้านบาทในครั้งนี้ นอกจากใช้ในการขยายแผนธุรกิจแล้วยังนับเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจสำคัญของ TK ที่ตอกย้ำความาสามารถในการแข่งขันในตลาดเซื้อรถจักรยานยนต์ในสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นด้วยการล็อคต้นทุนการเงิน ปิดความเสี่ยงและควบคุมต้นทุนในการทำธุรกิจ ปัจจุบัน TK มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 2.7% สัดส่วนอัตราเงินกู้ ดอกเบี้ยคงที่ ต่อเงินกู้ระยะสั้นเมื่อสิ้นปีที่แล้วอยู่ที่ 85:15 ภายหลังการออกหุ้นชุดใหม่ 600 ล้านบาทนี้ต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยจะปรับเป็น 2.5% นอกจากนี้ สัดส่วนหนี้สินต่อทุนของ TK ยังต่ำมากคือ 1.1 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับ D/E Ratio ในธุรกิจนี้สูงถึง 7.7 เท่า” ปฐมา พรประภา กล่าวปิดท้าย