เมื่อกล่าวถึงแบรนด์ “วอลโว่” ภาพแรกในใจของคนส่วนใหญ่คือ “ความปลอดภัย” อย่างไม่ต้องสงสัย และวอลโว่ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังในหัวข้อนี้ ไม่ว่าจะออกรถมากี่รุ่นก็ตาม แต่ถ้าถามว่า หากให้เลือกรถยนต์ 1 รุ่นของวอลโว่ ไว้เป็นพาหนะคู่ใจ คำตอบคงมีความหลากหลาย แต่ถ้าให้เราเลือก “เอ็กซ์ซี60” คือคำตอบสุดท้ายในใจเรา

วอลโว่ เอ็กซ์ซี60 จัดเป็นรถในระดับ คอมแพคต์ เอสยูวี พรีเมี่ยม ที่มีคู่แข่งอยู่มากมายในตลาดเวลานี้ แต่หากมองเฉพาะในแบรนด์ของวอลโว่เอง เอ็กซ์ซี60 คือพระเอกอันดับหนึ่งด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 1 ล้านคันทั่วโลกในช่วงเวลา 8 ปีที่เริ่มทำตลาดมา อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่มีสัดส่วนยอดขายมากที่สุดของแบรนด์ด้วย สำหรับเมืองไทย วอลโว่ ทำตลาดเจ้า เอ็กซ์ซี60 ด้วยการบอกเราว่า “จะครองอันดับหนึ่งในคลาสนี้” ส่วนจะเป็นไปได้แค่ไหน เราไปทดลองขับมาเรียบร้อยแล้ว


PHEV หนึ่งเดียวในคลาส
วอลโว่ เอ็กซ์ซี60 มากับ 2 ทางเลือกเครื่องยนต์ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริดหรือ PHEV เป็นตัวหลักมี 2 รุ่นย่อย และรุ่นเครื่องยนต์ ดีเซล ยังมาเสริมทัพเป็นอีกหนึ่งทางเลือกด้วยราคาที่ย่อมเยากว่า แต่ตัดออพชั่นออกไปหลายรายการและเมื่อพิจารณาถึงส่วนต่างราคา ทำให้เรารู้สึกว่า เลือกคบกับรุ่น PHEV คุ้มค่ากว่าแน่นอน
วอลโว่ เอ็กซ์ซี60 ถือว่าเป็นรายแรกและรายเดียวในตลาดเมืองไทยของรถยนต์ในเซกเมนต์เดียวกันนี้ เครื่องยนต์แบบ T8 Twin Engine AWD พละกำลังสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร แค่เห็นสเปคกำลังขนาดนี้คือ น้องๆ ซุปเปอร์คาร์เราดีๆ นี่เอง แต่แตกต่างอย่างชัดเจนตรงเรื่องของ อัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ยที่ 47.6 กม./ลิตร (เขียนไม่ผิด สี่สิบเจ็ดจุดหก) ตามมาตรฐานอีโคสติกเกอร์ แค่เห็นสเปคเครื่องยนต์ก็แทบจะไม่ต้องไปมองคู่แข่งเปรียบเทียบเลย

ขณะที่หัวใจสำคัญอีกประการของวอลโว่ คือความโดดเด่นในเรื่องของระบบความปลอดภัย เอ็กซ์ซี60 มากับ 3 ระบบหลักใหม่ ได้แก่ ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (Blis) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอีกระดับ ไม่ใช่แค่เตือนแต่ดึงพวงมาลัยกลับมาได้เองหากตรวจพบว่าจะชนรถที่อยู่ในจุดอับสายตา, ระบบOncoming Lane Mitigation ช่วยเตือนและดึงพวงมาลัยกลับหากตรวจพบว่าจะชนกับรถที่วิ่งสวนมาทางด้านหน้า โดยทำงานที่ความเร็ว 60-140 กม./ชม. และระบบCity Safety ที่ระบบควบคุมการเลี้ยว เพื่อหลีกเลี่ยงการชนไม่ว่าจะรถหรือคนเดินถนน โดยช่วยปรับองศาการเลี้ยวได้เอง ส่วนระบบความปลอดภัยอื่นๆ ยังคงมีครบตามมาตรฐานรถหรู

ในแง่ของโครงสร้างพื้นฐาน วอลโว่ เอ็กซ์ซี60 ใช้แพลตฟอร์ม SPA (Scalable Product Architecture) ซึ่งทีมผู้บริหารวอลโว่บอกว่า มีความโดดเด่นในแง่ของการปรับใช้งานได้เหมาะสมกับรถหลายรุ่น โดยเฉพาะกับรถแบบ PHEV ที่ช่วยสร้างสมดุลด้านการกระจายน้ำหนักได้เป็นอย่างดี


PHEV แรงได้ใจ แต่ดีเซลช่วงล่างสปอร์ตกว่า
ในส่วนของการทดลองขับ เราเริ่มต้นด้วยการประจำการในรุ่น PHEV ตัวท้อปสุด สนราคา 3.59 ล้านบาท ซึ่งมีข้อแตกต่างจากรุ่นรองลงมาที่ราคา 3.29 ล้านบาท คือการตกแต่งด้วยชุดแพคเกจ R design ของวอลโว่ ทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงเบาะนั่ง ฟันธงแบบไม่เยิ่นเย้อ “คุ้มค่า” กับส่วนต่างราคาที่ 3 แสนบาทแน่นอน
ความรู้สึกแรกหลังพวงมาลัย คือ คันเร่งเบา เบรกก็เบา พวงมาลัยก็ยังเบา คุณผู้หญิงขับง่ายสบายหายห่วง เบากว่ารถซิตี้คาร์หรืออีโคคาร์บางรุ่นเสียด้วยซ้ำ ทัศนวิสัยมีมุมมองที่กว้างและชัดเจน เนื่องจากเป็นรถแบบเอสยูวีที่มีความสูงกว่ารถแบบซีดานทั่วไป ประกอบกับขนาดที่พอเหมาะในไซส์คอมแพค จึงมีความคล่องตัวแม้ใช้งานในเมืองที่มีการจราจรพลุกพล่าน



ออกจากโชว์รูมวอลโว่แถวหัวหมาก จุดหมายคือพัทยา มุ่งหน้าขึ้นทางด่วนใช้เส้นบูรพาวิถี ได้มีโอกาสลองกดคันเร่งแบบคิกดาวน์เต็มๆ หลายรอบ อาการหลังติดเบาะมาทุกรอบ ความเร็วสูงสุดที่เรารองขับคือ 160 กม./ชม. เสียงลมเริ่มดังแบบรบกวนที่ความเร็วดังกล่าวนั่นเอง แสดงให้เห็นถึงการเก็บเสียงที่ดีเยี่ยม ส่วนสื่อมวลชนอีกท่านที่ร่วมเดินทางกับเรา ช่วงที่เขาลองขับทำความเร็วได้ถึง 190 กม./ชม. โดยที่ผู้เขียนเป็นผู้โดยสารตอนหลัง แต่ไม่รู้สึกว่ารถวิ่งเร็วขนาดนั้นเลย

ความเร็วที่เราขับส่วนมากจะอยู่ระดับ 100-120 กม./ชม. การทรงตัวให้ความรู้สึกเกาะถนนดี แม้จะวิ่งบนเส้นบูรพาวิถีที่ขึ้นชื่อเรื่องของลมพัดแรง วอลโว่ เอ็กซ์ซี60 ยังคงนิ่งแบบอุ่นใจได้ แต่จะมีที่เรารู้สึกไม่ชอบอยู่บ้างตรงเรื่องของการดูดซับแรงสะเทือน ที่เราจับความรู้สึกของถนนได้พอสมควร ยิ่งเมื่อเทียบกับการขับรุ่นดีเซลจะรู้สึกว่า ช่วงล่างของรุ่นดีเซล ดูดซับแรงสะเทือนได้ดีกว่า ซึ่งความต่างนี้เราถามทีมงานวอลโว่ๆ แอบกระซิบบอกว่า “ใช่ครับ ช่วงล่างของรุ่นดีเซลเซตอัพไว้แตกต่างกัน”
การขับบางช่วงบางตอนเราทดลองระบบความปลอดภัยทั้งหลายที่ให้มาพบว่า ใช้งานได้จริง และเป็นประโยชน์ต่อการขับขี่ โดยสามารถเปิดหรือปิดการใช้งานได้ด้วย หากรู้สึกรำคาญการเตือน ซึ่งก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายผ่านทางการกดหน้าจอขนาด 9 นิ้ว กลางคอนโซล ที่ใช้งานเหมือน ไอแพด เพียงนิ้วปัด นิ้วจิ้มแค่นั้น ไม่ยุ่งยากเลย


นอกจากนั้นยังได้ลองใช้งานระบบ Pilot Assist เทคโนโลยีการขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ประทับใจแบบไร้ข้อกังขา เพียงกดปุ่มบนพวงมาลัย รถจะควบคุมความเร็วและระยะห่าง รวมถึงเบรกแทนเราทั้งหมด แต่เราก็ยังต้องแตะพวงมาลัยเอาไว้เพื่อให้รถรับรู้ว่าเรายังมีความพร้อมในการขับขี่อยู่ตลอดเวลา


เหมาะกับใคร
ด้วยเนื้อที่จำกัด บรรยายสรรพคุณของ วอลโว่ เอ็กซ์ซี60 ได้เพียงเท่านี้ แต่สิ่งหนึ่งที่การันตีได้คือ การคว้ารางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปีของญี่ปุ่นและรางวัลรถปลอดภัยที่สุดในโลกจากสถานบันทดสอบการชนของยุโรปประจำปี 2017 มาได้ แค่ 2 รางวัลนี้บวกกับสิ่งที่เราบรรยายไป คงจะพอช่วยให้ใครที่กำลังมองหารถแบบเอนกประสงค์ระดับหรู ไว้ใช้งานในงบ 3 ล้านกว่าบาท หันมามอง เจ้าวอลโว่ เอ็กซ์ซี60 ไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกด้วย





















วอลโว่ เอ็กซ์ซี60 จัดเป็นรถในระดับ คอมแพคต์ เอสยูวี พรีเมี่ยม ที่มีคู่แข่งอยู่มากมายในตลาดเวลานี้ แต่หากมองเฉพาะในแบรนด์ของวอลโว่เอง เอ็กซ์ซี60 คือพระเอกอันดับหนึ่งด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 1 ล้านคันทั่วโลกในช่วงเวลา 8 ปีที่เริ่มทำตลาดมา อีกทั้งยังเป็นรุ่นที่มีสัดส่วนยอดขายมากที่สุดของแบรนด์ด้วย สำหรับเมืองไทย วอลโว่ ทำตลาดเจ้า เอ็กซ์ซี60 ด้วยการบอกเราว่า “จะครองอันดับหนึ่งในคลาสนี้” ส่วนจะเป็นไปได้แค่ไหน เราไปทดลองขับมาเรียบร้อยแล้ว
PHEV หนึ่งเดียวในคลาส
วอลโว่ เอ็กซ์ซี60 มากับ 2 ทางเลือกเครื่องยนต์ ได้แก่ ระบบขับเคลื่อนแบบปลั๊กอินไฮบริดหรือ PHEV เป็นตัวหลักมี 2 รุ่นย่อย และรุ่นเครื่องยนต์ ดีเซล ยังมาเสริมทัพเป็นอีกหนึ่งทางเลือกด้วยราคาที่ย่อมเยากว่า แต่ตัดออพชั่นออกไปหลายรายการและเมื่อพิจารณาถึงส่วนต่างราคา ทำให้เรารู้สึกว่า เลือกคบกับรุ่น PHEV คุ้มค่ากว่าแน่นอน
วอลโว่ เอ็กซ์ซี60 ถือว่าเป็นรายแรกและรายเดียวในตลาดเมืองไทยของรถยนต์ในเซกเมนต์เดียวกันนี้ เครื่องยนต์แบบ T8 Twin Engine AWD พละกำลังสูงสุด 407 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร แค่เห็นสเปคกำลังขนาดนี้คือ น้องๆ ซุปเปอร์คาร์เราดีๆ นี่เอง แต่แตกต่างอย่างชัดเจนตรงเรื่องของ อัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ยที่ 47.6 กม./ลิตร (เขียนไม่ผิด สี่สิบเจ็ดจุดหก) ตามมาตรฐานอีโคสติกเกอร์ แค่เห็นสเปคเครื่องยนต์ก็แทบจะไม่ต้องไปมองคู่แข่งเปรียบเทียบเลย
ขณะที่หัวใจสำคัญอีกประการของวอลโว่ คือความโดดเด่นในเรื่องของระบบความปลอดภัย เอ็กซ์ซี60 มากับ 3 ระบบหลักใหม่ ได้แก่ ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (Blis) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นอีกระดับ ไม่ใช่แค่เตือนแต่ดึงพวงมาลัยกลับมาได้เองหากตรวจพบว่าจะชนรถที่อยู่ในจุดอับสายตา, ระบบOncoming Lane Mitigation ช่วยเตือนและดึงพวงมาลัยกลับหากตรวจพบว่าจะชนกับรถที่วิ่งสวนมาทางด้านหน้า โดยทำงานที่ความเร็ว 60-140 กม./ชม. และระบบCity Safety ที่ระบบควบคุมการเลี้ยว เพื่อหลีกเลี่ยงการชนไม่ว่าจะรถหรือคนเดินถนน โดยช่วยปรับองศาการเลี้ยวได้เอง ส่วนระบบความปลอดภัยอื่นๆ ยังคงมีครบตามมาตรฐานรถหรู
ในแง่ของโครงสร้างพื้นฐาน วอลโว่ เอ็กซ์ซี60 ใช้แพลตฟอร์ม SPA (Scalable Product Architecture) ซึ่งทีมผู้บริหารวอลโว่บอกว่า มีความโดดเด่นในแง่ของการปรับใช้งานได้เหมาะสมกับรถหลายรุ่น โดยเฉพาะกับรถแบบ PHEV ที่ช่วยสร้างสมดุลด้านการกระจายน้ำหนักได้เป็นอย่างดี
PHEV แรงได้ใจ แต่ดีเซลช่วงล่างสปอร์ตกว่า
ในส่วนของการทดลองขับ เราเริ่มต้นด้วยการประจำการในรุ่น PHEV ตัวท้อปสุด สนราคา 3.59 ล้านบาท ซึ่งมีข้อแตกต่างจากรุ่นรองลงมาที่ราคา 3.29 ล้านบาท คือการตกแต่งด้วยชุดแพคเกจ R design ของวอลโว่ ทั้งภายนอกและภายใน รวมถึงเบาะนั่ง ฟันธงแบบไม่เยิ่นเย้อ “คุ้มค่า” กับส่วนต่างราคาที่ 3 แสนบาทแน่นอน
ความรู้สึกแรกหลังพวงมาลัย คือ คันเร่งเบา เบรกก็เบา พวงมาลัยก็ยังเบา คุณผู้หญิงขับง่ายสบายหายห่วง เบากว่ารถซิตี้คาร์หรืออีโคคาร์บางรุ่นเสียด้วยซ้ำ ทัศนวิสัยมีมุมมองที่กว้างและชัดเจน เนื่องจากเป็นรถแบบเอสยูวีที่มีความสูงกว่ารถแบบซีดานทั่วไป ประกอบกับขนาดที่พอเหมาะในไซส์คอมแพค จึงมีความคล่องตัวแม้ใช้งานในเมืองที่มีการจราจรพลุกพล่าน
ออกจากโชว์รูมวอลโว่แถวหัวหมาก จุดหมายคือพัทยา มุ่งหน้าขึ้นทางด่วนใช้เส้นบูรพาวิถี ได้มีโอกาสลองกดคันเร่งแบบคิกดาวน์เต็มๆ หลายรอบ อาการหลังติดเบาะมาทุกรอบ ความเร็วสูงสุดที่เรารองขับคือ 160 กม./ชม. เสียงลมเริ่มดังแบบรบกวนที่ความเร็วดังกล่าวนั่นเอง แสดงให้เห็นถึงการเก็บเสียงที่ดีเยี่ยม ส่วนสื่อมวลชนอีกท่านที่ร่วมเดินทางกับเรา ช่วงที่เขาลองขับทำความเร็วได้ถึง 190 กม./ชม. โดยที่ผู้เขียนเป็นผู้โดยสารตอนหลัง แต่ไม่รู้สึกว่ารถวิ่งเร็วขนาดนั้นเลย
ความเร็วที่เราขับส่วนมากจะอยู่ระดับ 100-120 กม./ชม. การทรงตัวให้ความรู้สึกเกาะถนนดี แม้จะวิ่งบนเส้นบูรพาวิถีที่ขึ้นชื่อเรื่องของลมพัดแรง วอลโว่ เอ็กซ์ซี60 ยังคงนิ่งแบบอุ่นใจได้ แต่จะมีที่เรารู้สึกไม่ชอบอยู่บ้างตรงเรื่องของการดูดซับแรงสะเทือน ที่เราจับความรู้สึกของถนนได้พอสมควร ยิ่งเมื่อเทียบกับการขับรุ่นดีเซลจะรู้สึกว่า ช่วงล่างของรุ่นดีเซล ดูดซับแรงสะเทือนได้ดีกว่า ซึ่งความต่างนี้เราถามทีมงานวอลโว่ๆ แอบกระซิบบอกว่า “ใช่ครับ ช่วงล่างของรุ่นดีเซลเซตอัพไว้แตกต่างกัน”
การขับบางช่วงบางตอนเราทดลองระบบความปลอดภัยทั้งหลายที่ให้มาพบว่า ใช้งานได้จริง และเป็นประโยชน์ต่อการขับขี่ โดยสามารถเปิดหรือปิดการใช้งานได้ด้วย หากรู้สึกรำคาญการเตือน ซึ่งก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายผ่านทางการกดหน้าจอขนาด 9 นิ้ว กลางคอนโซล ที่ใช้งานเหมือน ไอแพด เพียงนิ้วปัด นิ้วจิ้มแค่นั้น ไม่ยุ่งยากเลย
นอกจากนั้นยังได้ลองใช้งานระบบ Pilot Assist เทคโนโลยีการขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ประทับใจแบบไร้ข้อกังขา เพียงกดปุ่มบนพวงมาลัย รถจะควบคุมความเร็วและระยะห่าง รวมถึงเบรกแทนเราทั้งหมด แต่เราก็ยังต้องแตะพวงมาลัยเอาไว้เพื่อให้รถรับรู้ว่าเรายังมีความพร้อมในการขับขี่อยู่ตลอดเวลา
เหมาะกับใคร
ด้วยเนื้อที่จำกัด บรรยายสรรพคุณของ วอลโว่ เอ็กซ์ซี60 ได้เพียงเท่านี้ แต่สิ่งหนึ่งที่การันตีได้คือ การคว้ารางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปีของญี่ปุ่นและรางวัลรถปลอดภัยที่สุดในโลกจากสถานบันทดสอบการชนของยุโรปประจำปี 2017 มาได้ แค่ 2 รางวัลนี้บวกกับสิ่งที่เราบรรยายไป คงจะพอช่วยให้ใครที่กำลังมองหารถแบบเอนกประสงค์ระดับหรู ไว้ใช้งานในงบ 3 ล้านกว่าบาท หันมามอง เจ้าวอลโว่ เอ็กซ์ซี60 ไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกด้วย