xs
xsm
sm
md
lg

อีซูซุนำพลังแห่ง “มังกรทองเฉลิมพระเกียรติ” เสริมสิริมงคล “ปีจอ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อีซูซุร่วมกับกรุงเทพมหานคร สืบสานกิจกรรมสานสัมพันธ์แห่งวิถีไทย-จีน นำ “มังกรทองเฉลิมพระเกียรติ” ที่สวยงามและยาวที่สุดถึง 90 เมตรร่วมเป็นหนึ่งในการแสดงพิเศษประกอบแสงสีเสียงตระการตา เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนเยาวราช 2561 เสริมสิริมงคลในนักษัตรปีจอ พร้อมแห่ไปตามถนนเยาวราชหรือถนนสายมังกรให้ประชาชนได้สัมผัสเพื่อรับพลังอำนาจแห่งพญามังกรทอง
ปนัดดา เจณณวาสิน กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
กลุ่มตรีเพชร โดย นาย โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า “อีซูซุภูมิใจที่ได้รับเกียรติให้นำ “มังกรทองเฉลิมพระเกียรติ” มาเชิดพร้อมการแสดงแสงเสียงสมบูรณ์แบบ เป็นหนึ่งในการแสดงสำคัญในงานเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีนของเยาวราช ประจำปี 2561 ซึ่งอีซูซุได้เข้าร่วมเป็นปีที่ 17 แล้ว เพื่อต้อนรับนักษัตรปีจอ หลังจากนั้นจะแห่เชิดไปบนถนนเยาวราชเพื่อให้ประชาชนที่มารอคอยปีละครั้งได้สัมผัสมังกรทองเฉลิมพระเกียรติเสริมความเป็นสิริมงคลให้ตนเองและครอบครัว ตามความเชื่อของชาวจีนที่ว่าผู้ที่ได้สัมผัสความยิ่งใหญ่ของพญามังกรทอง พลังอำนาจและบารมีของพญามังกรทองจะเสริมสร้างสิริมงคลอย่างสูง กิจกรรมนี้ถือเป็นความผูกพันของอีซูซุที่มีต่อชาวไทยเชื้อสายจีนที่ดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ครั้งนำ “มังกรทองเฉลิมพระเกียรติ” มาร่วมจัดแสดงครั้งแรกที่เยาวราชในปี พ.ศ. 2544”

“มังกรทองเฉลิมพระเกียรติ” เป็นมังกรเชิดที่สวยงาม และมีความยาวถึง 90 เมตร ออกแบบโดยบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด มีรูปแบบของมังกรตามคติโบราณที่ได้รวบรวมบันทึกไว้ในคัมภีร์ต่างๆ ของจีนอย่างเคร่งครัด โดยมีลักษณะสำคัญของสัตว์ 9 ชนิด ได้แก่ หัวคล้ายอูฐซึ่งมีหนวดเครายาว สองข้างริมฝีปากล่างมีหนวด ลิ้นแหลมคมเหมือนดาบ ตาเหมือนกระต่าย เขาเหมือนกวาง หูเหมือนวัว คอเหมือนงู ท้องเหมือนกบ ลำตัวมีเกล็ดแบบปลา มีครีบตลอดแนวสันหลัง ขาและกรงเล็บเหมือนเหยี่ยว ฝ่าเท้าเหมือนเสือ และหางเหมือนปลาบางชนิด และที่สำคัญที่สุดอีกอย่างหนึ่งคือ เป็นมังกร 5 เล็บ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของมังกรเสริมบารมีขององค์จักรพรรดิ และแต่งเติมภาพลักษณ์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น อาทิ ส่วนหัวและเขี้ยวของมังกรจะแต่งเติมความสวยงามด้วยคริสตัลที่ระยิบระยับประดุจเพชร ดวงตาให้แสงเจิดจรัส ส่วนลำตัวมีสีเงินและสีทอง ประหนึ่งความเจริญรุ่งเรืองทั่วทุกอณูของแผ่นดินไทย
 พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
พร้อมการแสดงพิเศษผสมผสานกับเทคนิคกายกรรมในรูปแบบต่างๆ ที่มีทั้งความอลังการ ผาดโผน และตื่นเต้น ด้วยความเชื่อว่าพญามังกรทองจะลงมาจากสรวงสวรรค์เพียงปีละหนึ่งครั้งในวันตรุษจีน ผู้ที่ได้ชมและสัมผัสพลังบารมีพญามังกรทอง จะมีโชคลาภ เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยตลอดไป

นอกจากนี้อีซูซุยังพาสื่อมวลชนไปหว้พระในละเวกแถวเยาวราช เริ่มจาก

มูลนิธิเทียนฟ้า ศาลเจ้าแม่กวนอิม มูลนิธิเทียนฟ้า มีรูปเคารพของเจ้าแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวร ปางประทานพร ประดิษฐานเป็นเทพเจ้าองค์ประธาน ผู้คนนิยมมาขอพรให้ปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ มีสุขภาพแข็งแรง องค์ทำด้วยไม้จันทน์แกะสลัก รูปแบบศิลปะราชวงศ์ถัง แต่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้น ในสมัยของราชวงศ์ซ่งหรือเมื่อประมาณ 800-900 ปีที่ผ่านมา และเมื่อในปี พ.ศ. 2501 ได้ถูกอัญเชิญมาจากประเทศจีนและมาประดิษฐานอยู่จนกระทั่งปัจจุบัน
“มังกรทองเฉลิมพระเกียรติ” เป็นมังกรเชิดที่สวยงาม และมีความยาวถึง 90 เมตร
วัดสัมพันธวงศ์

วัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกในย่านเยาวราช เดิมเป็นวัดราษฎร์ มีนามว่า วัดเกาะ หลักฐานในการสร้างวัดแต่เดิมไม่ปรากฏใครเป็นผู้สร้าง ทราบแต่ว่าเป็นวัดโบราณเก่าแก่ มีมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรอยุธยา ก่อนสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี เหตุที่ได้ชื่อว่า วัดเกาะ เนื่องจากการที่มีคูคลองล้อมรอบเชื่อมต่อจากแม่น้ำเจ้าพระยา

วัดเล่งเน่ยยี่

วัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ เป็นวัดจีนสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ระหว่างซอยเจริญกรุง 19 และ 21 เป็นที่คุ้นเคยในหมู่ชาวไทยเชื้อสายจีน และชาวจีนจากต่างประเทศ สาเหตุที่วัดนี้ บางคนเรียกว่า "วัดมังกร" เพราะคำว่า "เล่ง" หรือ "เล้ง" ในภาษาจีนแต้จิ๋ว แปลว่ามังกร (คำว่า “เน่ย” แปลว่าดอกบัวและคำว่า “ยี่” แปลว่า วัด) ชื่อวัดอย่างเป็นทางการคือ "วัดมังกรกมลาวาส" พระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 วัดนี้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2414 ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปีกว่าจะแล้วเสร็จ มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบทางจีนตอนใต้ของสกุลช่างแต้จิ๋ว โดยวางแปลนตามแบบวัดหลวง คือ มีวิหารท้าวจตุโลกบาลเป็นวิหารแรก ตรงกลางเป็นพระอุโบสถ ข้างหลังพระอุโบสถเป็นวิหารเทพเจ้า การสร้างใช้ไม้และอิฐเป็นวัสดุสำคัญ จากประตูทางเข้า เข้าไปจะถึงวิหารท้าวจตุโลกบาล จะเห็นเทพเจ้า 4 องค์ (ข้างละ 2 องค์) ในชุดนักรบจีนและถืออาวุธและสิ่งของต่างๆ กัน เช่นพิณ ดาบ ร่ม เจดีย์ ชาวจีนเรียกว่า เรียกว่า "ซี้ไต๋เทียงอ้วง" หมายถึงเทพเจ้าที่ปกปักษ์รักษาคุ้มครอง ทิศต่างๆ ทั้ง 4 ทิศ ถัดจากวิหารท้าวจตุโลกบาล คือ อุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานของพระประธานของวัด คือ พระศากยมุนีพุทธเจ้า พระอมิตาภพุทธเจ้า พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า ทั้งหมด 3 องค์ หรือ "ซำป้อหุกโจ้ว" พร้อมพระอรหันต์ อีก 18องค์ หรือที่เรียกว่า "จับโป๊ยหล่อหั่ง" ทางด้านขวามีเทพเจ้าต่าง ๆ หลายองค์ เช่น เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา หรือ "ไท้ส่วย เอี๊ยะ" เทพเจ้าแห่งยาหรือหมอเทวดา "หั่วท้อเซียงซือกง" และที่นิยมไหว้ขอพรมากคือ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ "ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ" เทพเจ้าเฮ่งเจีย หรือ "ไต่เสี่ยหุกโจ้ว" พระเมตไตรยโพธิสัตว์หรือ "ปู๊กุ่ยหุกโจ้ว"ซึ่งคล้ายกับพระสังกัจจายน์ "กวนอิมผู่สัก" หรือ พระโพธิสัตว์กวนอิม "แป๊ะกง" และ "แป๊ะม่า" รวมเทพเจ้าในวัด จะมีทั้งหมด 58 องค์ ทั้งนี้ วัดมังกรกมลาวาส (วัดเล่งเน่ยยี่) เปิดให้สะเดาะเคราะห์ทุกวัน

วัดสุดท้าย วัดไตรมิตรวิทยาราม

วัดไตรมิตรวิทยา เป็นวัดโบราณอยู่ในที่ลุ่มพระอารามเป็นเรือนไม้ มีชื่อเดิมว่า "วัดสามจีน" เข้าใจกันว่า ชาวจีน 3 คนร่วมกันสร้างพระอารามเพื่อเป็นวิหารทานการบุญ ซึ่งมี “พระพุทธทศพลญาณ” พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประชาชนทั่วไปเรียกว่า “หลวงพ่อโต” บ้าง “หลวงพ่อวัดสามจีน” มีประชาชนมาบนบานกันเสมอ ๆ ด้วยพวงมาลัยดอกมะลิพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เคยทรงเสด็จพระราชดำเนินมานมัสการ และได้ตรัสยกย่องว่า เป็นพระพุทธรูปที่มีพระพุทธลักษณะงดงามยิ่งนัก นอกจากนี้ที่สำคัญยังมี “พระสุโขทัยไตรมิตร” พระพุทธรูปทองคำที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการบันทึกในหนังสือบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ พระพุทธรูปทองคำองค์นี้มีหน้าตั้งกว้าง 3.01 เมตร สูง 3.91 เมตร องค์พระสามารถถอดได้ 9 องค์ จากฐานองค์พระขึ้นไปเนื้อทองบริสุทธิ์ 40% พระพักตร์มีเนื้อทอง 80% ส่วนพระเกศมีน้ำหนัก 45 กิโลกรัม เป็นเนื้อทองบริสุทธิ์ 99.99% สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสุโขทัย

















วัดไตรมิตรวิทยาราม





จบงาน ทุกคนกลับบ้านด้วยความหน้าชื่นตาบาน อิ่มบุญ-อิ่มใจ กันทั่วหน้า
 
 
ขอขอบคุณภาพจาก @Chanakan Ponchantuek #joinalifethailand


กำลังโหลดความคิดเห็น