“เอ.พี. ฮอนด้า” เผยนโยบายมอเตอร์สปอร์ตประจำปี 2018 วางเป้าหมายใหญ่ปั้นเยาวชนไทยสู่เส้นทางการเป็นนักบิดระดับโลก ประกาศดัน “ชิพ-นครินทร์” ไล่ล่าความสำเร็จในศึกชิงแชมป์โลก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 หนุน “ก้อง-สมเกียรติ” ลุยต่อในศึกโมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปียนชิพ พร้อมปรับทัพใหญ่สร้างความท้าทายในศึกเอเชีย โร้ด เรซซิ่ง และซูซูกะ 4 ชั่วโมง ตั้งเป้าทวงบัลลังก์ให้สำเร็จ
โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “จากปีที่ผ่านมาที่เราได้มีการประกาศแผนงานวิชั่น 2030 ที่จะทำให้กีฬามอเตอร์สปอร์ต เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมจากคนไทยทุกคน พร้อมสร้างให้เป็นวัฒนธรรมหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย มีการจัดการแข่งขันทั้งทางเรียบและทางฝุ่นทั่วทุกภูมิภาค กองเชียร์พากันไปเชียร์นักแข่งที่สนามและทีมที่ตัวเองชื่อชอบ นักแข่งที่ทำผลงานได้ดีจะได้ยกระดับตัวเองขึ้นไปแข่งในรายการระดับโลก เช่น โมโตจีพี หรือเวิล์ด ซูเปอร์ไบค์ มีฮีโร่คนใหม่เกิดขึ้นจากประเทศไทย และความนิยมในกีฬามอเตอร์สปอร์ตก็จะได้รับความนิยมตามไปด้วย เราอยากทำให้เหตุการณ์ที่ว่ามานี้ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในประเทศไทยภายในปี 2030”
“เพื่อทำฝันนั้นให้เป็นจริง ปีที่ผ่านมาเราได้เริ่มชาเลนต์สองสิ่งด้วยกันนั่นคือ การก่อตั้ง A.P. Honda Factory Team ที่สมาชิกในทีมเป็นคนไทยทั้งทีมตั้งแต่นักแข่ง ช่างและโค้ช โดยทำการแข่งขันในรายการ ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง สร้างผลงานคว้าอันดับที่ 4 มาได้ อีกหนึ่งชาเลนจ์ของเราคือการเฟ้นหาบุคลากรที่จะเป็นอนาคตของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย เราตั้ง เอ.พี. ฮอนด้า อะคาเดมีขึ้นเพื่อคัดเลือกเยาวชนจำนวน 15 คนที่มีพรสววรค์จากทั่วประเทศ เด็กๆ เหล่านี้คือผู้ที่มีศักยภาพจะก้าวสู่การเป็นนักแข่งโมโตจีพี ในอนาคต” ประธานกรรมการบริหาร เอ.พี. ฮอนด้า กล่าว
มิซึทานิ เน้นย้ำถึงทิศทางมอเตอร์สปอร์ตของ เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในปี 2018 ต่ออีกว่า “หากเรานับปีที่ผ่านมาเป็นจุดเริ่มต้น ปี 2018 นี้ จะถือเป็นปีแห่งการเร่งสปีด เราจะให้นักแข่งในสังกัดเราทั้งหมด แสดงศักยภาพให้เต็มที่ในรายการแข่งขันระดับโลกทั้ง เอเชียโรดเรซซิ่ง ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง เอเชียทาเลนต์ คัพ ซีอีวี และ โมโตทรี โดยมีเป้าหมายคือขึ้นโพเดียมให้ได้ ส่วนการเฟ้นหานักแข่งที่มีพรสวรรค์เราจะสร้างให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ เอ.พี. ฮอนด้า อะคาเดมี และไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ เพื่อให้เรามีนักแข่งหลากหลายเพียงพอและขยายขอบเขตของนักแข่งออกไป”
สำหรับ เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ได้วางรากฐานเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกวงการมอเตอร์สปอร์ต อันดับ 1 ของไทยด้วยการวางรากฐานเยาวชนไทยให้มีทักษะการขับขี่เพื่อพัฒนาสู่การเป็นนักแข่งระดับโลกอย่างมืออาชีพ เริ่มตั้งแต่โครงการปั้นเยาวชนในโครงการ “เอ.พี. ฮอนด้า อะคาเดมี” สู่การแข่งขันรายการ “ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ” ต่อยอดไปสู่การแข่งขันระดับชิงแชมป์เอเชียและระดับโลกต่อไป โดยนับเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ความยิ่งใหญ่ของทีม “เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ที่พร้อมจะสนับสนุนนักแข่งไทยตั้งแต่รุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นใหญ่สุด เพื่อเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตแบบมืออาชีพ
ในปี 2018 บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด นั้นได้ส่งนักกีฬาลงล่าความสำเร็จทั้งในระดับโลก ระดับทวีปเอเชีย รวมถึงในประเทศไทย โดย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จะยังคงเป็นนักบิดดาวรุ่งหนึ่งเดียวของไทยที่โลดแล่นในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รายการ โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันตลอดฤดูกาล ภายใต้สังกัด “ฮอนด้า ทีม เอเชีย” โดยในปีนี้นักบิดจากขอนแก่นฟิตร่างกายอย่างหนัก และตั้งเป้าทำผลงานติดท็อปเท็นของการแข่งขันในฤดูกาล 2018 และความพิเศษในปีนี้คือ “เจ้าชิพ” จะได้ลงแข่งขันในบ้านเกิดสนาม “โฮมเรซ” กับศึก โมโตจีพี ครั้งแรกในประเทศไทยที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งจะถือเป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงผลงานต่อหน้าแฟนๆ ความเร็วชาวไทย
ด้าน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดดาวรุ่งชาวชลบุรี จะลงแข่งขันศึกจักรยานยนต์ทางเรียบที่เฟ้นดาวรุ่งจากทั่วโลกป้อนสู่การแข่งขันเวิลด์จีพีอย่าง เอฟไอเอ็ม ซีอีวี เรปโซล อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนชิพ รุ่น โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ภายใต้สังกัด เอเชีย ทีม ทาเลนต์ โดยจะต้องฟาดฟันกับนักบิดดาวรุ่งทั่วโลกกว่า 55 คน เพื่อก้าวสู่การแข่งขันระดับโลกต่อไป
ขณะเดียวกัน เอ.พี. ฮอนด้า ยังสานต่อความสำเร็จจากการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบแบบเอ็นดูรานซ์ระดับนานาชาติ รายการ ซูซูกะ 4 ชั่วโมง หลังจากพาทีมไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งนักบิด ทีมช่าง และทุกคนภายในทีม “เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ร่วมกันสร้างผลงานระดับมาสเตอร์ด้วยการคว้าท็อปโฟร์ จากสนามระดับโลกอย่าง ซูซูกะ เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น นำทีมโดย “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ซึ่งจะรับหน้าที่ผู้จัดการทีมเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้ทีมวางเป้าหมายที่จะคว้าโพเดี้ยมในรายการนี้มาครองให้ได้
นอกจากนี้ เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ยังประกาศที่จะกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์เอเชียในรายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2018 ภายใต้การคุมทีมของ “มาโกโตะ ทามาดะ” Head Coach และ “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ผู้ช่วยโค้ช โดยเฉพาะการแข่งขันในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี. ที่นำโดยนักบิดสาวแกร่งหนึ่งเดียวของไทยอย่าง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช และ “กฤชพร แก้วสนธิ” ที่พร้อมลงควบรถแข่ง ฮอนด้า ซีบีอาร์ 250 อาร์อาร์ ล่าแชมป์ในปีนี้ ส่วนในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี. จะส่ง “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ และ เคซูเกะ คูริฮาระ ทีมเมทชาวญี่ปุ่น ลงแข่งขันในปีนี้
ส่วนการแข่งขันรายการ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2018 มีนักบิดไทยจาก เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ฉายแววโดดเด่นผ่านเข้าร่วมโครงการในปีนี้ถึง 3 คน ได้แก่ “ก๊อง” ธัชกร บัวศรี, “ไอซ์” นิติพงษ์ แสงสว่าง และ “แชมป์” กอบชัย แซ่หลิว
ทั้งนี้ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ที่ประกาศแนวทางชัดเจนในการพัฒนานักบิดเริ่มจากเยาวชนสู่การเป็นนักบิดในระดับเอเชีย และระดับโลก นับเป็นการพัฒนานักกีฬาแข่งรถอย่างมืออาชีพ เพื่อผลักดันและสร้างนักบิดไทยให้มีชื่อเสียงในระดับโลกต่อไป
นอกจากนี้ยังได้มีอีกหนึ่งสีสันให้แฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทยได้คึกคักนั่นคือการได้สมาชิก 6 คนจาก วง BNK48 เข้ามาเป็น Team Ambassador ที่จะช่วยเชียร์ทีมแข่งเอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ลงชิงชัยในสนามต่างๆ ซึ่งสมาชิกจาก BNK48 จะประกอบด้วย ตาหวาน - อิสราภา ธวัชภักดี, เนย - กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล, น้ำหนึ่ง - มิลิน ดอกเทียน และ อร - พัศชนันท์ เจียจิรโชติ ทั้ง 4 คนจะเป็น Team Ambassador ประจำและอีก 2 คนจะมีการหมุนเวียนตามโอกาสต่างกัน.
โยอิจิ มิซึทานิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า “จากปีที่ผ่านมาที่เราได้มีการประกาศแผนงานวิชั่น 2030 ที่จะทำให้กีฬามอเตอร์สปอร์ต เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมจากคนไทยทุกคน พร้อมสร้างให้เป็นวัฒนธรรมหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคมไทย มีการจัดการแข่งขันทั้งทางเรียบและทางฝุ่นทั่วทุกภูมิภาค กองเชียร์พากันไปเชียร์นักแข่งที่สนามและทีมที่ตัวเองชื่อชอบ นักแข่งที่ทำผลงานได้ดีจะได้ยกระดับตัวเองขึ้นไปแข่งในรายการระดับโลก เช่น โมโตจีพี หรือเวิล์ด ซูเปอร์ไบค์ มีฮีโร่คนใหม่เกิดขึ้นจากประเทศไทย และความนิยมในกีฬามอเตอร์สปอร์ตก็จะได้รับความนิยมตามไปด้วย เราอยากทำให้เหตุการณ์ที่ว่ามานี้ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในประเทศไทยภายในปี 2030”
“เพื่อทำฝันนั้นให้เป็นจริง ปีที่ผ่านมาเราได้เริ่มชาเลนต์สองสิ่งด้วยกันนั่นคือ การก่อตั้ง A.P. Honda Factory Team ที่สมาชิกในทีมเป็นคนไทยทั้งทีมตั้งแต่นักแข่ง ช่างและโค้ช โดยทำการแข่งขันในรายการ ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง สร้างผลงานคว้าอันดับที่ 4 มาได้ อีกหนึ่งชาเลนจ์ของเราคือการเฟ้นหาบุคลากรที่จะเป็นอนาคตของวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย เราตั้ง เอ.พี. ฮอนด้า อะคาเดมีขึ้นเพื่อคัดเลือกเยาวชนจำนวน 15 คนที่มีพรสววรค์จากทั่วประเทศ เด็กๆ เหล่านี้คือผู้ที่มีศักยภาพจะก้าวสู่การเป็นนักแข่งโมโตจีพี ในอนาคต” ประธานกรรมการบริหาร เอ.พี. ฮอนด้า กล่าว
มิซึทานิ เน้นย้ำถึงทิศทางมอเตอร์สปอร์ตของ เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในปี 2018 ต่ออีกว่า “หากเรานับปีที่ผ่านมาเป็นจุดเริ่มต้น ปี 2018 นี้ จะถือเป็นปีแห่งการเร่งสปีด เราจะให้นักแข่งในสังกัดเราทั้งหมด แสดงศักยภาพให้เต็มที่ในรายการแข่งขันระดับโลกทั้ง เอเชียโรดเรซซิ่ง ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง เอเชียทาเลนต์ คัพ ซีอีวี และ โมโตทรี โดยมีเป้าหมายคือขึ้นโพเดียมให้ได้ ส่วนการเฟ้นหานักแข่งที่มีพรสวรรค์เราจะสร้างให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ เอ.พี. ฮอนด้า อะคาเดมี และไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ เพื่อให้เรามีนักแข่งหลากหลายเพียงพอและขยายขอบเขตของนักแข่งออกไป”
สำหรับ เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ได้วางรากฐานเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกวงการมอเตอร์สปอร์ต อันดับ 1 ของไทยด้วยการวางรากฐานเยาวชนไทยให้มีทักษะการขับขี่เพื่อพัฒนาสู่การเป็นนักแข่งระดับโลกอย่างมืออาชีพ เริ่มตั้งแต่โครงการปั้นเยาวชนในโครงการ “เอ.พี. ฮอนด้า อะคาเดมี” สู่การแข่งขันรายการ “ไทยแลนด์ ทาเลนต์ คัพ” ต่อยอดไปสู่การแข่งขันระดับชิงแชมป์เอเชียและระดับโลกต่อไป โดยนับเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ความยิ่งใหญ่ของทีม “เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ที่พร้อมจะสนับสนุนนักแข่งไทยตั้งแต่รุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นใหญ่สุด เพื่อเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตแบบมืออาชีพ
ในปี 2018 บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด นั้นได้ส่งนักกีฬาลงล่าความสำเร็จทั้งในระดับโลก ระดับทวีปเอเชีย รวมถึงในประเทศไทย โดย “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จะยังคงเป็นนักบิดดาวรุ่งหนึ่งเดียวของไทยที่โลดแล่นในศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก รายการ โมโตทรี เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันตลอดฤดูกาล ภายใต้สังกัด “ฮอนด้า ทีม เอเชีย” โดยในปีนี้นักบิดจากขอนแก่นฟิตร่างกายอย่างหนัก และตั้งเป้าทำผลงานติดท็อปเท็นของการแข่งขันในฤดูกาล 2018 และความพิเศษในปีนี้คือ “เจ้าชิพ” จะได้ลงแข่งขันในบ้านเกิดสนาม “โฮมเรซ” กับศึก โมโตจีพี ครั้งแรกในประเทศไทยที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ซึ่งจะถือเป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงผลงานต่อหน้าแฟนๆ ความเร็วชาวไทย
ด้าน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดดาวรุ่งชาวชลบุรี จะลงแข่งขันศึกจักรยานยนต์ทางเรียบที่เฟ้นดาวรุ่งจากทั่วโลกป้อนสู่การแข่งขันเวิลด์จีพีอย่าง เอฟไอเอ็ม ซีอีวี เรปโซล อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนชิพ รุ่น โมโตทรี จูเนียร์ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ภายใต้สังกัด เอเชีย ทีม ทาเลนต์ โดยจะต้องฟาดฟันกับนักบิดดาวรุ่งทั่วโลกกว่า 55 คน เพื่อก้าวสู่การแข่งขันระดับโลกต่อไป
ขณะเดียวกัน เอ.พี. ฮอนด้า ยังสานต่อความสำเร็จจากการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบแบบเอ็นดูรานซ์ระดับนานาชาติ รายการ ซูซูกะ 4 ชั่วโมง หลังจากพาทีมไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ทั้งนักบิด ทีมช่าง และทุกคนภายในทีม “เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ร่วมกันสร้างผลงานระดับมาสเตอร์ด้วยการคว้าท็อปโฟร์ จากสนามระดับโลกอย่าง ซูซูกะ เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น นำทีมโดย “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ซึ่งจะรับหน้าที่ผู้จัดการทีมเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้ทีมวางเป้าหมายที่จะคว้าโพเดี้ยมในรายการนี้มาครองให้ได้
นอกจากนี้ เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ยังประกาศที่จะกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์เอเชียในรายการ เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2018 ภายใต้การคุมทีมของ “มาโกโตะ ทามาดะ” Head Coach และ “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ ผู้ช่วยโค้ช โดยเฉพาะการแข่งขันในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี. ที่นำโดยนักบิดสาวแกร่งหนึ่งเดียวของไทยอย่าง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช และ “กฤชพร แก้วสนธิ” ที่พร้อมลงควบรถแข่ง ฮอนด้า ซีบีอาร์ 250 อาร์อาร์ ล่าแชมป์ในปีนี้ ส่วนในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี. จะส่ง “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ และ เคซูเกะ คูริฮาระ ทีมเมทชาวญี่ปุ่น ลงแข่งขันในปีนี้
ส่วนการแข่งขันรายการ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2018 มีนักบิดไทยจาก เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ฉายแววโดดเด่นผ่านเข้าร่วมโครงการในปีนี้ถึง 3 คน ได้แก่ “ก๊อง” ธัชกร บัวศรี, “ไอซ์” นิติพงษ์ แสงสว่าง และ “แชมป์” กอบชัย แซ่หลิว
ทั้งนี้ บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ที่ประกาศแนวทางชัดเจนในการพัฒนานักบิดเริ่มจากเยาวชนสู่การเป็นนักบิดในระดับเอเชีย และระดับโลก นับเป็นการพัฒนานักกีฬาแข่งรถอย่างมืออาชีพ เพื่อผลักดันและสร้างนักบิดไทยให้มีชื่อเสียงในระดับโลกต่อไป
นอกจากนี้ยังได้มีอีกหนึ่งสีสันให้แฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทยได้คึกคักนั่นคือการได้สมาชิก 6 คนจาก วง BNK48 เข้ามาเป็น Team Ambassador ที่จะช่วยเชียร์ทีมแข่งเอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ลงชิงชัยในสนามต่างๆ ซึ่งสมาชิกจาก BNK48 จะประกอบด้วย ตาหวาน - อิสราภา ธวัชภักดี, เนย - กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล, น้ำหนึ่ง - มิลิน ดอกเทียน และ อร - พัศชนันท์ เจียจิรโชติ ทั้ง 4 คนจะเป็น Team Ambassador ประจำและอีก 2 คนจะมีการหมุนเวียนตามโอกาสต่างกัน.
