xs
xsm
sm
md
lg

นิสสันดันจีนตลาดหลัก เล็งส่งอีวี20รุ่นกระตุ้นยอดขาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นิสสันทุ่มสุดพลังเพื่อไต่ชั้นขึ้นเป็นผู้เล่นท็อป 3 ในตลาดจีน ในภาพคือคอนเซ็ปท์คาร์ “ครอสโมชั่น” บนเวทีดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์เมื่อต้นปี
นิสสันบุกหนัก ปักหมุดขึ้นเป็นผู้เล่นท็อป 3 ตลาดแดนมังกรภายใน 4 ปี ด้วยการลงทุน 9,500 ล้านดอลลาร์ ดันยอดขายเดินหน้าอีก 2 ใน 3 และเปิดตัวรถใหม่จากทุกแบรนด์ในเครือรวม 40 รุ่น ซึ่งครึ่งหนึ่งจะเป็นรถไฟฟ้า ภายใต้ภารกิจสำคัญในการทำให้จีนกลายเป็นตลาดหลักแทนที่อเมริกาที่ยอดขายรถเริ่มซึมลง

นิสสัน มอเตอร์จากญี่ปุ่น และตงเฟิง มอเตอร์ บริษัทร่วมทุนในจีน ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า เงินทุน 9,500 ล้านดอลลาร์สำหรับระยะเวลา 5 ปีนั้นจะเอาไปใช้อะไรบ้าง บอกแต่ว่า คงกระจายไปยังหลายส่วนงานตั้งแต่การผลิตจนถึงทรัพยากรบุคคล

ทั้งสองบริษัทตั้งเป้าเพิ่มยอดขายในจีน 2 ใน 3 หรือ 1 ล้านคัน เป็นปีละ 2.6 ล้านคันภายในปี 2022 ด้วยการเปิดตัวรถใหม่ 40 รุ่น ซึ่งรวมถึงรถไฟฟ้า 20 รุ่น จากทุกแบรนด์ตั้งแต่รถหรู “อินฟินิตี้” จนถึงแบรนด์ตลาดมวลชน “เวนูเซีย”

นิสสันยังมีแผนเพิ่มดีลเลอร์อีก 2,000 แห่งทั่วแดนมังกร ทั้งหมดนี้เป็นแผนการระยะกลางจากกลยุทธ์ที่ประกาศไปเมื่อปลายปีที่แล้ว

แม้บริษัทรถแถวหน้าจากญี่ปุ่นแห่งนี้ยังไม่เปิดเผยแผนการที่เฉพาะเจาะจงสำหรับอเมริกา แต่เป้าหมายยอดขาย 2.6 ล้านคันในจีนนั้นสูงกว่ายอดขายเมื่อปีที่แล้วในอเมริกาที่เป็นตลาดใหญ่ที่สุดของบริษัทถึง 1 ล้านคัน

จุน เซกิ ประธานกรรมการนิสสันในจีน บอกว่า แนวโน้มตลาดจีนกับอเมริกาสวนทางกัน เพราะขณะที่คาดว่า จีนจะเติบโตต่อเนื่องแม้ไม่หวือหวาเหมือนปีก่อนๆ แต่สำหรับตลาดอเมริกากลับมีวี่แววหดตัวลงเล็กน้อย

เขายังบอกว่า เพื่อบรรลุเป้าหมายยอดขายทั่วโลกในปี 2022 บริษัทต้องเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในจีนเป็น 8% จาก 5.6% ในปีที่ผ่านมา

นิสสันต้องการให้รายได้สุทธิในจีนเพิ่มขึ้น 62% เป็น 47,600 ล้านดอลลาร์ภายใน 4 ปี ซึ่งเป็นกรอบเวลาเดียวกับที่บริษัทต้องทำยอดขายในประเทศนี้ให้ได้ 2.6 ล้านคัน และถ้าสำเร็จก็จะส่งให้บริษัทขึ้นสู่ตำแหน่งท็อป 3 ในแดนมังกรทันที

นั่นหมายความว่า นิสสันจะต้องดันยอดขายอินฟินิตี้และเวนูเซียเพิ่มขึ้น 3 เท่า และ 2 เท่าสำหรับรถบรรทุกขนาดเล็ก ปิ๊กอัพ และเอสยูวี

เซกิบอกว่า อาวุธลับของนิสสันคือรถไฟฟ้า โดยอีวี 20 รุ่นใหม่ที่มีแบรนด์นิสสันรวมอยู่ด้วย 5 รุ่นนั้นจะครอบคลุมทั้งรถไฟฟ้าเต็มระบบและรถไฮบริดที่ใช้ระบบ “อี-เพาเวอร์” โดยบริษัทตั้งเป้าว่า อีวีจะมีสัดส่วน 30% ของยอดขายทั้งหมดในจีนในปี 2022

ส่วนอินฟินิตี้เล็งผลิตอีวี 25% จากรถที่ผลิตออกมาทั้งหมดภายใน 4 ปี และเมื่อถึงปี 2025 อินฟินิตี้จะกลายเป็นแบรนด์รถไฟฟ้าเต็มตัว

กุญแจสำคัญอีกดอกคือรถอัตโนมัติ โดยนิสสันจะเริ่มเปิดตัว “โปรไพล็อต” หรือเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติในช่องทางเดินรถเดียวสำหรับการขับขี่บนทางหลวงในจีนในปี 2021 และปรับไปใช้เทคโนโลยีรถอัตโนมัติสำหรับการขับขี่ในเมือง 4 ปีหลังจากนั้น

นอกจากการเปิดตัวอีวีแล้ว กลยุทธ์การเติบโตในจีนของนิสสันยังโฟกัสที่เวนูเซีย รถโลว์คอสต์แบรนด์ท้องถิ่น

ตลาดจีนนั้นยึดครองโดยเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) จากอเมริกา และโฟล์คสวาเกนจากเยอรมนีมานานเกือบสองทศวรรษ ด้วยยอดขายค่ายละ 4 ล้านคันเมื่อปีที่แล้ว ทิ้งห่างนิสสัน, โตโยต้า มอเตอร์, ฟอร์ด มอเตอร์ และฮอนด้า มอเตอร์ ที่มียอดขายแห่งละแค่ 1 ล้านคัน

นิสสันเล็งทางลัดเพื่อผลักดันตัวเองจากผู้เล่นชั้น 2 สู่ตำแหน่งท็อป 3 ด้วยยอดขายอีวีต้นทุนต่ำที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าและส่วนประกอบสำคัญต่างๆ จากซัปพลายเออร์ท้องถิ่น

ปีหน้าบริษัทมีแผนเปิดตัวอีวีราคาย่อมเยา 3 รุ่นภายใต้แบรนด์เวนูเซีย รวมทั้งดันยอดขายของแบรนด์นี้เป็นปีละกว่า 600,000 คันในปี 2022 จาก 143,00 คันเมื่อปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม นิสสันยังต้องฝ่าฟันการแข่งขันหฤโหดจากบริษัทท้องถิ่นอย่างเป่าจุน ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนของจีเอ็มกับบริษัทจีน

เซกิทิ้งท้ายว่า ไม่มีค่ายรถระดับโลกแห่งไหน นอกจากจีเอ็มและนิสสัน ที่มีแบรนด์ที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์โลว์คอสต์ท้องถิ่นในแดนมังกร โดยนอกจากเป่าจุนแล้ว จีเอ็มยังมีวู่หลิงที่ร่วมทุนกับบริษัทรถยักษ์ใหญ่เจ้าถิ่น เอสเอไอซี มอเตอร์ และกว่างซี ออโตโมบิล กรุ๊ป


กำลังโหลดความคิดเห็น