สนามอีวีเดือด!!โฟล์คฯมอบงานใหญ่ปอร์เช่ เบนท์ลีย์ส่งเบนเทย์ก้าปลั๊กอินโชว์ตัวเจนีวา

ค่ายโฟล์คสวาเกนจัดหนักกระบวนทัพอีวี เตรียมส่งเบนท์ลีย์ เบนเทย์ก้าเวอร์ชันปลั๊ก-อิน ไฮบริดไปอวดในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ ซึ่งจะถือเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์เบนท์ลีย์ นอกจากนี้โฟล์คฯ ยังสั่งปอร์เช่ออกแบบแพล็ตฟอร์มอีวีรุ่นที่สามสำหรับซูเปอร์คาร์และรถสปอร์ต ซึ่งลัมโบร์กินีและออดีอาจแชร์ด้วย

ปลายสัปดาห์ที่แล้ว เบนท์ลีย์ยืนยันแผนการเปิดตัวเอสยูวียอดฮิต “เบนเทย์ก้า” เวอร์ชันปลั๊ก-อิน ไฮบริดในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ที่จะจัดขึ้นต้นเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งแม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมามากนัก แต่ทางเว็บไซต์ออโตโมทีฟ นิวส์คาดว่า เอสยูวีปลั๊ก-อินรุ่นนี้จะหยิบยืมระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า-น้ำมันจากปอร์เช่ พานาเมรา อี-ไฮบริด ซึ่งหมายถึงขุมพลัง 330 แรงม้า จากเครื่องยนต์ทวิน-เทอร์โบ วี6 ความจุ 2.9 ลิตร จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้พละกำลัง 136 แรงม้า รวมพละกำลังสูงสุด 462 แรงม้า และแรงบิด 516 ปอนด์ฟุต

พานาเมรา อี-ไฮบริดขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวเป็นระยะทางสูงสุด 48 กิโลเมตร แต่ต้องรอลุ้นกันว่า เบนเทย์ก้า ปลั๊ก-อิน ไฮบริดจะวิ่งได้ไกลแค่ไหนจากพลังงานแบตเตอรี่ ที่น่าสังเกตคือเบนเทย์กาหนักกว่าพานาเมราจึงน่าจะต้องใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่าเพื่อให้ได้สมรรถนะเท่าเทียมกัน

เบนเทย์กาปลั๊ก-อิน ไฮบริดจะเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกของเบนท์ลีย์ และวูล์ฟกัง เดอร์ไฮเมอร์ ซีอีโอเบนท์ลีย์ บอกว่า ภายใน 2-3 ปีนับจากนี้ รถทุกรุ่นของบริษัทจะมีเวอร์ชันปลั๊ก-อินให้เลือก

ขณะเดียวกัน โฟล์คสวาเกนยังมอบหมายให้ปอร์เช่พัฒนาแพล็ตฟอร์มรถไฟฟ้าสำหรับซูเปอร์คาร์และรถสปอร์ต ซึ่งเป็นไปได้ว่า ออดี้และลัมโบร์กินีอาจร่วมใช้ด้วย

แพล็ตฟอร์มที่ว่าชื่อเอสพีอี ซึ่งจะเป็นโครงสร้างสำหรับรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบโครงสร้างที่ 3 ของกลุ่มโฟล์คสวาเกน

แพล็ตฟอร์มเอสพีอีอาจมาแทนอาร์8 อี-ทรอน ถ้าออดี้ตัดสินใจจะผลิตซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าอีกหน ลัมโบร์กินีก็ไม่ปิดบังเหมือนกันว่า มีความเป็นไปได้ที่จะขยายไลน์ผลิตรถไฟฟ้า หลังจากเปิดตัวเทอร์โซ มิลเลนนิโอ ซึ่งเป็นต้นแบบซูเปอร์คาร์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

รายงานจากออโตโมทีฟ นิวส์ ยุโรปอ้างอิงคำยืนยันของผู้บริหารโฟล์คสวาเกน กรุ๊ปว่า โฟล์คสวาเกนสั่งการให้ปอร์เช่พัฒนาแพล็ตฟอร์มอีวีสำหรับรถสปอร์ตสองประตูและซูเปอร์คาร์ อย่างไรก็ตาม นี่ยังเป็นแค่ขั้นตอนแรกเนื่องจากรถล็อตแรกที่จะออกจากแพล็ตฟอร์มนี้ยังไม่มีการกำหนดเวลาแน่ชัดจนกว่าจะหลังปี 2025 ไปแล้ว

ปัจจุบัน โฟล์คสวาเกนมีแพล็ตฟอร์มรถไฟฟ้า 2 แบบคือ เอ็มอีบีและพีพีอี แพล็ตฟอร์มแรกนั้นจะรองรับรถไฟฟ้าตระกูลไอ.ดี.ของโฟล์คสวาเกน รวมถึงอีวีของสโกดา, เซียท และออดี้ ขณะที่พีพีอีที่ออดี้และปอร์เช่ร่วมกันพัฒนาจะใช้สำหรับรถไฟฟ้า 3 รุ่น

ในส่วนปอร์เช่เองนั้นเตรียมส่ง “มิชชั่น อี” ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าเต็มตัวรุ่นแรกของบริษัทลงตลาดในอนาคตอันใกล้

ซีดานไฟฟ้ารุ่นนี้เปิดตัวครั้งแรกในฐานะคอนเซ็ปท์คาร์ในงานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ปี 2015 และนับจากนั้นปอร์เช่แทบจะไม่ปริปากรายละเอียดใดๆ จนกระทั่งเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จึงเปิดเผยว่า มิชชั่น-อีมีระยะขับเคลื่อน 322 กิโลเมตรและใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่เพียง 15 นาที ขุมพลังขั้นต่ำ 400 แรงม้า ส่วนราคาวางไว้ต่ำกว่าพานาเมรา และกำหนดออกขายปลายปี 2019

อย่างไรก็ดี เป้าหมายระยะขับเคลื่อนที่แท้จริงของมิชชั่น อีคือ 531 กิโลเมตร

มิชชั่น อีจะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย เริ่มจากรุ่นมาตรฐานที่มาพร้อมมอเตอร์ 300 กิโลวัตต์ (402 แรงม้า), รุ่นเอส 400 กิโลวัตต์ (536 แรงม้า) และตัวท็อปคือรุ่นเทอร์โบ 500 กิโลวัตต์ (670 แรงม้า)

ปอร์เช่วางแผนให้มิชชั่น อีเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวไว้ที่แต่ละเพลา เพื่อให้อัตราเร่งรวดเร็วดังใจ 0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3 วินาทีโดยประมาณ และ 201 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในไม่ถึง 12 วินาที

อีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่ปอร์เช่มอบหมายให้มิชชั่น อีคือปราบอหังการ์เทสลา โมเดล เอส