สองล้อสัญชาติออสเตรีย “KTM” จัดกิจกรรมเอาใจขาลุย KTM Adventure Coaching Clinic with Chris Birch พร้อมดึง “คริส เบิร์ช” นักขี่แอดเวนเจอร์ชื่อก้องโลก ร่วมถ่ายทอดทักษะการขับขี่ให้กับนักบิดชาวไทย
บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติออสเตรียแบรนด์ “KTM” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดกิจกรรม “KTM Adventure Coaching Clinic with Chris Birch” ด้วยการดึง “คริส เบิร์ช (Chris Birch)” ผู้ฝึกสอนการขับขี่มอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์ชื่อก้องโลกชาวนิวซีแลนด์ ผู้เป็นทั้งแชมป์โลกที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในการแข่งขันรายการใหญ่ระดับโลกหลายรายการ เจ้าของคลินิกฝึกสอนทักษะการขับขี่ออฟโร้ดให้นักบิดทุกระดับ (Chris Birch Off Road Coaching) รวมถึงเป็นนักขี่ผู้ทุ่มเทให้กับรถมอเตอร์ไซค์มาตลอดชีวิต ร่วมมอบประสบการณ์การขับขี่แอดเวนเจอร์สุดเร้าใจตามแบบฉบับ Ready To Race โดยกิจกรรมจัดขึ้นภายใต้บรรยากาศคึกคักแต่แฝงด้วยความเป็นกันเองตั้งแต่การฝึกสอนแนะนำอย่างใกล้ชิด จาก คริส เบิร์ช ก่อนที่จะไปเผชิญกับเส้นทางบุกตะลุยที่พร้อมกับทัศนียภาพสวยงามของจังหวัดเชียงราย
กิจกรรม “KTM Adventure Coaching Clinic with Chris Birch” จัดขึ้นทั้งหมดสองวัน โดยเป็นหลักสูตรการฝึกอบรมและเสริมทักษะผู้ขับขี่รถแอดเวนเจอร์อย่างเข้มข้น ถูกต้อง และใกล้ชิดจากคริส เบิร์ชโดยตรง เพื่อผู้ขับขี่ได้เรียนรู้และสามารถควบคุมรถพร้อมดึงสมรรถนะรถออกมาอย่างเต็มประสิทธิภาพเมื่อต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ไม่คาดคิด
โดยกิจกรรมในวันแรกนั้นแบ่งออกเป็นสองช่วง ครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎีและปฎิบัติ ได้แก่ การฝึกสอนทักษะขั้นพื้นฐาน (Basic Training) และการฝึกสอนขั้นทักษะสูง (Advance Training) บนสนามฝึกทักษะเสมือนจริงที่เต็มไปด้วยเครื่องกีดขวางทั้งหินกรวด หินลอย ขอนไม้ และโคลน
การสอนฝึกทักษะขั้นพื้นฐานนั้นเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมรถ ตรวจสภาพรถเพื่อปรับให้เข้ากับเส้นทางที่ต้องเผชิญ ท่ายืนและท่านั่งที่ถูกต้องเหมาะสมกับการขับขี่เพื่อการควบคุมรถให้ง่ายและคล่องตัวมากขึ้น ลักษณะการขับขี่ที่ถูกต้องหากต้องการเร่งความเร็วหรือแม้แต่การเบรกเพื่อชะลอความเร็ว รวมถึงเทคนิคการทรงตัว การถ่ายเทน้ำหนักตัวที่เหมาะสมที่สุดขณะเลี้ยวรถ
ขณะที่การฝึกทักษะขั้นสูงนั้น กิจกรรมได้เพิ่มความยากขึ้น ด้วยการนำความรู้ที่ได้จากช่วงแรกมาปรับใช้เพื่อข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆ ทั้งเส้นทางที่เต็มไปด้วยหินกรวด หินลอย ขี่ข้ามขอนไม้ใหญ่ ลุยธารน้ำ ผ่านโคลน ก่อนเพิ่มความท้าทายขึ้นอีกระดับด้วยการขี่ขึ้น-ลงหน้าผาหินทรายสูงชันที่พร้อมจะทำให้เสียการทรงตัวได้ทุกเมื่อ เพื่อเรียนรู้วิธีการเอาตัวรอดเมื่อเสียการทรงตัว รถติดขัดหรือดับระหว่างทาง เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมฝึกทักษะเพิ่มเติมทั้งหมดในการขับขี่รถแอดเวนเจอร์นี้ ล้วนมาจากการสั่งสมประสบการณ์การขับขี่รถแอดเวนเจอร์มาแล้วทั่วโลกของคริส เบิร์ช เอง
และเพื่อให้การฝึกทักษะการขับขี่ในครั้งนี้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น กิจกรรมในวันที่สองจึงเป็นการขับขี่เส้นทางจริงรวมเกือบ 100 กิโลเมตรบนทัศนียภาพตรงตามใจปรารถนาของเหล่านักขี่แอดเวนเจอร์ โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดได้นำความรู้จากกิจกรรมวันแรกมาประยุกต์ใช้อย่างเต็มที่ เนื่องจากต้องเผชิญทั้งเส้นทางขับขี่ที่ยากลำบากทั้งตั้องขี่ข้ามสะพานไม้แขวนขนาดเล็กที่โยกส่ายไปมา ขี่ลัดเลาะไปตามเส้นทางสันเขาสูงชันเสี่ยงอันตราย ขี่ขึ้นภูเขาด้วยเส้นทางลื่นที่ปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำ ลงข้ามผ่านแม่น้ำ และบุกตะลุยผ่านป่าทุรกันดารที่เส้นทางเต็มไปด้วยโคลนลึก แต่ท้ายสุดแล้วผู้เข้าร่วมฝึกทักษะต่างร่วมสามารถฝ่าฟันมาได้ด้วยความสนุก ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์อันยากจะลืมเลือนที่ KTM ได้มอบให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม
บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์สัญชาติออสเตรียแบรนด์ “KTM” แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย จัดกิจกรรม “KTM Adventure Coaching Clinic with Chris Birch” ด้วยการดึง “คริส เบิร์ช (Chris Birch)” ผู้ฝึกสอนการขับขี่มอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์ชื่อก้องโลกชาวนิวซีแลนด์ ผู้เป็นทั้งแชมป์โลกที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในการแข่งขันรายการใหญ่ระดับโลกหลายรายการ เจ้าของคลินิกฝึกสอนทักษะการขับขี่ออฟโร้ดให้นักบิดทุกระดับ (Chris Birch Off Road Coaching) รวมถึงเป็นนักขี่ผู้ทุ่มเทให้กับรถมอเตอร์ไซค์มาตลอดชีวิต ร่วมมอบประสบการณ์การขับขี่แอดเวนเจอร์สุดเร้าใจตามแบบฉบับ Ready To Race โดยกิจกรรมจัดขึ้นภายใต้บรรยากาศคึกคักแต่แฝงด้วยความเป็นกันเองตั้งแต่การฝึกสอนแนะนำอย่างใกล้ชิด จาก คริส เบิร์ช ก่อนที่จะไปเผชิญกับเส้นทางบุกตะลุยที่พร้อมกับทัศนียภาพสวยงามของจังหวัดเชียงราย
กิจกรรม “KTM Adventure Coaching Clinic with Chris Birch” จัดขึ้นทั้งหมดสองวัน โดยเป็นหลักสูตรการฝึกอบรมและเสริมทักษะผู้ขับขี่รถแอดเวนเจอร์อย่างเข้มข้น ถูกต้อง และใกล้ชิดจากคริส เบิร์ชโดยตรง เพื่อผู้ขับขี่ได้เรียนรู้และสามารถควบคุมรถพร้อมดึงสมรรถนะรถออกมาอย่างเต็มประสิทธิภาพเมื่อต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ไม่คาดคิด
โดยกิจกรรมในวันแรกนั้นแบ่งออกเป็นสองช่วง ครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎีและปฎิบัติ ได้แก่ การฝึกสอนทักษะขั้นพื้นฐาน (Basic Training) และการฝึกสอนขั้นทักษะสูง (Advance Training) บนสนามฝึกทักษะเสมือนจริงที่เต็มไปด้วยเครื่องกีดขวางทั้งหินกรวด หินลอย ขอนไม้ และโคลน
การสอนฝึกทักษะขั้นพื้นฐานนั้นเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมรถ ตรวจสภาพรถเพื่อปรับให้เข้ากับเส้นทางที่ต้องเผชิญ ท่ายืนและท่านั่งที่ถูกต้องเหมาะสมกับการขับขี่เพื่อการควบคุมรถให้ง่ายและคล่องตัวมากขึ้น ลักษณะการขับขี่ที่ถูกต้องหากต้องการเร่งความเร็วหรือแม้แต่การเบรกเพื่อชะลอความเร็ว รวมถึงเทคนิคการทรงตัว การถ่ายเทน้ำหนักตัวที่เหมาะสมที่สุดขณะเลี้ยวรถ
ขณะที่การฝึกทักษะขั้นสูงนั้น กิจกรรมได้เพิ่มความยากขึ้น ด้วยการนำความรู้ที่ได้จากช่วงแรกมาปรับใช้เพื่อข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆ ทั้งเส้นทางที่เต็มไปด้วยหินกรวด หินลอย ขี่ข้ามขอนไม้ใหญ่ ลุยธารน้ำ ผ่านโคลน ก่อนเพิ่มความท้าทายขึ้นอีกระดับด้วยการขี่ขึ้น-ลงหน้าผาหินทรายสูงชันที่พร้อมจะทำให้เสียการทรงตัวได้ทุกเมื่อ เพื่อเรียนรู้วิธีการเอาตัวรอดเมื่อเสียการทรงตัว รถติดขัดหรือดับระหว่างทาง เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมฝึกทักษะเพิ่มเติมทั้งหมดในการขับขี่รถแอดเวนเจอร์นี้ ล้วนมาจากการสั่งสมประสบการณ์การขับขี่รถแอดเวนเจอร์มาแล้วทั่วโลกของคริส เบิร์ช เอง
และเพื่อให้การฝึกทักษะการขับขี่ในครั้งนี้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น กิจกรรมในวันที่สองจึงเป็นการขับขี่เส้นทางจริงรวมเกือบ 100 กิโลเมตรบนทัศนียภาพตรงตามใจปรารถนาของเหล่านักขี่แอดเวนเจอร์ โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมดได้นำความรู้จากกิจกรรมวันแรกมาประยุกต์ใช้อย่างเต็มที่ เนื่องจากต้องเผชิญทั้งเส้นทางขับขี่ที่ยากลำบากทั้งตั้องขี่ข้ามสะพานไม้แขวนขนาดเล็กที่โยกส่ายไปมา ขี่ลัดเลาะไปตามเส้นทางสันเขาสูงชันเสี่ยงอันตราย ขี่ขึ้นภูเขาด้วยเส้นทางลื่นที่ปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำ ลงข้ามผ่านแม่น้ำ และบุกตะลุยผ่านป่าทุรกันดารที่เส้นทางเต็มไปด้วยโคลนลึก แต่ท้ายสุดแล้วผู้เข้าร่วมฝึกทักษะต่างร่วมสามารถฝ่าฟันมาได้ด้วยความสนุก ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์อันยากจะลืมเลือนที่ KTM ได้มอบให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม