ข่าวในประเทศ - นายสมศักดิ์ ศรีรัตนประภาส ประธานกรรมการบริหาร บจก.เบนซ์ รามคำแหง (บีอาร์จี กรุ๊ป) เปิดเผยว่า ตลาดรถผู้นำเข้าอิสระโดยรวมในปี 2561 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีนี้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการลงทุนของภาครัฐและเมกกะโปรเจ็คต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า อีกทั้งในปีนี้ธุรกิจรถยนต์นำเข้าเองก็เผชิญกับอุปสรรคและปัญหาต่างๆ อย่างต่อเนื่องมาตลอดทั้งปี

ซึ่งปัญหาหลักมาจากการปรับเปลี่ยนนโยบายของหน่วยงานราชการ อาทิ ปัญหาการชำระภาษีเพื่อนำรถยนต์ออกจากเขตพื้นที่ปลอดภาษี, การกำหนดราคาจำหน่าย, การปรับเปลี่ยนวิธีการและอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ล้วนส่งผลให้การจำหน่ายรถยนต์ของผู้นำเข้าอิสระในปีนี้ ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในปี 2561 สถานการณ์ต่างๆ น่าจะคลี่คลายและส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจนำเข้าจะไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ด้านผลประกอบการในปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายเพียงเล็กน้อย จากปัญหาข้างต้น อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ปัญหาต่างๆ ที่คาดว่าจะได้รับการแก้ไขและมีความชัดเจนมากขึ้น จะส่งผลให้การจำหน่ายรถยนต์ของ บีอาร์จี กรุ๊ป มีความคล่องตัวเพิ่มขึ้น
นโยบายและทิศทางในปี 2561 ทางบีอาร์จี กรุ๊ป จะเน้นศักยภาพในการบริการเพิ่มมากขึ้น ด้วยการนำระบบเทคโนโลยีดิจิตอล เข้ามาใช้ในการบริการในส่วนของบริการหลังการขาย จะนำเทคโนโลยีในส่วนของอุปกรณ์และเครื่องมือพิเศษเข้ามาใช้ในทุกกระบวนการดูแลและซ่อมบำรุงรถยนต์ของแต่ละศูนย์บริการของ บีอาร์จี กรุ๊ป มากยิ่งขึ้น อันสืบเนื่องจากนโยบายของปีนี้ ที่มุ่งยกระดับคุณภาพด้านบริการให้เหนือมาตรฐานสำหรับการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น ด้วยบริการแบบองค์รวม และครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่การบริการนัดหมาย รับ-ส่งรถยนต์ การวิเคราะห์และการตรวจเช็คสภาพ รวมถึงการดูแลและซ่อมบำรุงรถยนต์เฉพาะทางสำหรับรถยนต์ในแต่ละยี่ห้อ

ส่วนในด้านการจำหน่ายรถยนต์ ยังคงเป็นส่วนที่ทำรายได้หลักให้แก่บีอาร์จี กรุ๊ป และในปี 2561 จะมีการเปิดตัวและแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ทั้งแบบ New Model และ Minor Change กว่า 10 รุ่น ออกสู่ตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการเพิ่มยอดจำหน่าย ด้วยการใช้สื่อดิจิตอลเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการนำเทคโนโลยีดิจิตอลเข้าใช้ในระบบการจัดการมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการนำเข้าและการจำหน่ายรถยนต์ อาทิ การสั่งซื้อ การสั่งจอง การส่งมอบ และการสต๊อกรถยนต์ เพื่อรองรับการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ และสร้างความสะดวกรวดเร็วเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ทางบีอาร์จี กรุ๊ป ยังมีบริการอื่นๆ เพื่อรองรับธุรกิจการจำหน่ายรถยนต์ อาทิ ธุรกิจบริการรถเช่าสำหรับลูกค้าที่ต้องการการใช้รถยนต์แบบไม่มีภาระในเรื่องค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษา, ธุรกิจเคลือบแก้ว สำหรับลูกค้าที่ให้ความสนใจและต้องการดูแลรถยนต์เป็นพิเศษ, ธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัย ที่มีทั้งประกันภัยรถยนต์และประกันวินาศภัย เพื่อให้การดำเนินธุรกิจด้านยานยนต์เป็นแบบครบวงจรในทุกๆ ด้าน
ซึ่งปัญหาหลักมาจากการปรับเปลี่ยนนโยบายของหน่วยงานราชการ อาทิ ปัญหาการชำระภาษีเพื่อนำรถยนต์ออกจากเขตพื้นที่ปลอดภาษี, การกำหนดราคาจำหน่าย, การปรับเปลี่ยนวิธีการและอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ล้วนส่งผลให้การจำหน่ายรถยนต์ของผู้นำเข้าอิสระในปีนี้ ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง คาดว่าในปี 2561 สถานการณ์ต่างๆ น่าจะคลี่คลายและส่งผลให้ภาพรวมของธุรกิจนำเข้าจะไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ด้านผลประกอบการในปีนี้ คาดว่าจะมีรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายเพียงเล็กน้อย จากปัญหาข้างต้น อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ปัญหาต่างๆ ที่คาดว่าจะได้รับการแก้ไขและมีความชัดเจนมากขึ้น จะส่งผลให้การจำหน่ายรถยนต์ของ บีอาร์จี กรุ๊ป มีความคล่องตัวเพิ่มขึ้น
นโยบายและทิศทางในปี 2561 ทางบีอาร์จี กรุ๊ป จะเน้นศักยภาพในการบริการเพิ่มมากขึ้น ด้วยการนำระบบเทคโนโลยีดิจิตอล เข้ามาใช้ในการบริการในส่วนของบริการหลังการขาย จะนำเทคโนโลยีในส่วนของอุปกรณ์และเครื่องมือพิเศษเข้ามาใช้ในทุกกระบวนการดูแลและซ่อมบำรุงรถยนต์ของแต่ละศูนย์บริการของ บีอาร์จี กรุ๊ป มากยิ่งขึ้น อันสืบเนื่องจากนโยบายของปีนี้ ที่มุ่งยกระดับคุณภาพด้านบริการให้เหนือมาตรฐานสำหรับการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น ด้วยบริการแบบองค์รวม และครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่การบริการนัดหมาย รับ-ส่งรถยนต์ การวิเคราะห์และการตรวจเช็คสภาพ รวมถึงการดูแลและซ่อมบำรุงรถยนต์เฉพาะทางสำหรับรถยนต์ในแต่ละยี่ห้อ
ส่วนในด้านการจำหน่ายรถยนต์ ยังคงเป็นส่วนที่ทำรายได้หลักให้แก่บีอาร์จี กรุ๊ป และในปี 2561 จะมีการเปิดตัวและแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ทั้งแบบ New Model และ Minor Change กว่า 10 รุ่น ออกสู่ตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการเพิ่มยอดจำหน่าย ด้วยการใช้สื่อดิจิตอลเป็นหลัก ควบคู่ไปกับการนำเทคโนโลยีดิจิตอลเข้าใช้ในระบบการจัดการมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการนำเข้าและการจำหน่ายรถยนต์ อาทิ การสั่งซื้อ การสั่งจอง การส่งมอบ และการสต๊อกรถยนต์ เพื่อรองรับการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ และสร้างความสะดวกรวดเร็วเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ทางบีอาร์จี กรุ๊ป ยังมีบริการอื่นๆ เพื่อรองรับธุรกิจการจำหน่ายรถยนต์ อาทิ ธุรกิจบริการรถเช่าสำหรับลูกค้าที่ต้องการการใช้รถยนต์แบบไม่มีภาระในเรื่องค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษา, ธุรกิจเคลือบแก้ว สำหรับลูกค้าที่ให้ความสนใจและต้องการดูแลรถยนต์เป็นพิเศษ, ธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัย ที่มีทั้งประกันภัยรถยนต์และประกันวินาศภัย เพื่อให้การดำเนินธุรกิจด้านยานยนต์เป็นแบบครบวงจรในทุกๆ ด้าน