“มาเซราติ” หนึ่งในแบรนด์ระดับตำนานที่มีอายุอานามมากว่า 100 ปี ปัจจุบันกลับมายืนแถวหน้าของแวดวงรถยนต์หรูบนเวทีโลกได้อีกครั้งด้วยยอดจำหน่ายกว่า 50,000 คันต่อปี (ตัวเลขของปี ค.ศ.2016) หลังจากเงียบหายไปจากการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ หลายปี
เมื่อมีโอกาสได้พบกับ “อามูรี ลา ฟอนต้า” ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ เซ้าท์-อีสต์ เอเชีย แปซิฟิค ผู้ซึ่งกำกับดูแลมาเซราติ ในภูมิภาคนี้ที่รวมถึงประเทศไทยด้วย ทีมงาน เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง จึงไม่พลาดที่จะสอบถามถึงความเป็นมาในการสร้างแบรนด์ครั้งใหม่ ของ มาเซราติ รวมถึงมุมมองของเขาที่มีต่อตลาดรถยนต์หรูในเมืองไทยว่าเป็นอย่างไร
ภาพรวมของมาเซราติ?
เริ่มต้นจากปี ค.ศ. 2012 มาเซราติ ทั่วโลก มียอดขายเพียง 6,200 คัน/ปี แต่หลังจากที่เฟียต กรุ๊ป ได้ทุ่มทุนในการสร้างสรรค์แบรนด์และเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ตัวเลขล่าสุดในปี 2016 มาเซราติมียอดจำหน่ายทั่วโลกมากกว่า 50,000 คัน นับเป็นความสำเร็จที่เติบโตแบบก้าวกระโดด
กลยุทธ์ในการทำตลาด?
เราจะยังคงรักษาภาพลักษณ์ของการเป็นแบรนด์รถยนต์หรูหราจากอิตาลี ที่มีความพิถีพิถันในด้านของการผลิต และการสร้างสรรค์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์มาเซราติ นับเป็นสิ่งสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ผู้ครอบครองเป็นเจ้าของรถยนต์มาเซราติ เหนืออื่นใดเราจะต้องให้ลูกค้าได้สัมผัสและทดลองขับรถยนต์ของเราด้วยเช่นกัน
ตั้งเป้ายอดขายปีหน้าอย่างไร?
ขออภัยจริงๆ ตัวเลขไม่สามารถเปิดเผยได้ สิ่งที่บอกได้คือ เราจะรักษาสมดุลการขายแบบนี้เอาไว้ให้ได้ และคาดว่ายอดขายน่าจะเติบโตขึ้นจากปีนี้
มุมมองต่อตลาดรถหรูของไทย?
ตลาดรถยนต์หรูของไทยยังคงมีศักยภาพสูงมาก ผมทราบว่าด้วยเงื่อนไขทางด้านภาษีของไทยที่สูงในระดับต้นๆของโลก ทำให้รถยนต์นำเข้ามีราคาสูงมาก เช่นเดียวกับคู่แข่งของเรา ดังนั้นเราจึงต้องทำให้คนไทยได้รับรู้ถึงจุดเด่นต่างๆ ของรถยนต์มาเซราติ เช่น เสียงของเครื่องยนต์และท่อไอเสียที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่มีใครเหมือน
กล่าวถึงตัวแทนใหม่ของไทย?
สำหรับตัวแทนใหม่ในประเทศไทย มีการลงทุนสร้างโชว์รูมใหม่ที่พารากอน และศูนย์บริการใหม่ที่พระราม 4 เพื่อรองรับลูกค้าในระดับที่น่าพอใจ โดยในปีนี้เราเพิ่งเปิดตัว มาเซราติ เลอวานเต้ เอส ซึ่งเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่จะช่วยขยายไลน์ในการขายให้กว้างขึ้น คาดว่าปีหน้ายอดขายจะเติบโตขึ้นอีก เราหวังว่าในเวลาไม่ช้าไม่นานจะได้เห็นตัวเลขยอดขายระดับ สามหลัก ในประเทศไทย ผมมั่นใจว่าเราทำเช่นนั้นได้อย่างแน่นอน
เมื่อมีโอกาสได้พบกับ “อามูรี ลา ฟอนต้า” ผู้จัดการทั่วไป มาเซราติ เซ้าท์-อีสต์ เอเชีย แปซิฟิค ผู้ซึ่งกำกับดูแลมาเซราติ ในภูมิภาคนี้ที่รวมถึงประเทศไทยด้วย ทีมงาน เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง จึงไม่พลาดที่จะสอบถามถึงความเป็นมาในการสร้างแบรนด์ครั้งใหม่ ของ มาเซราติ รวมถึงมุมมองของเขาที่มีต่อตลาดรถยนต์หรูในเมืองไทยว่าเป็นอย่างไร
ภาพรวมของมาเซราติ?
เริ่มต้นจากปี ค.ศ. 2012 มาเซราติ ทั่วโลก มียอดขายเพียง 6,200 คัน/ปี แต่หลังจากที่เฟียต กรุ๊ป ได้ทุ่มทุนในการสร้างสรรค์แบรนด์และเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดมากขึ้น ตัวเลขล่าสุดในปี 2016 มาเซราติมียอดจำหน่ายทั่วโลกมากกว่า 50,000 คัน นับเป็นความสำเร็จที่เติบโตแบบก้าวกระโดด
กลยุทธ์ในการทำตลาด?
เราจะยังคงรักษาภาพลักษณ์ของการเป็นแบรนด์รถยนต์หรูหราจากอิตาลี ที่มีความพิถีพิถันในด้านของการผลิต และการสร้างสรรค์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์มาเซราติ นับเป็นสิ่งสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ผู้ครอบครองเป็นเจ้าของรถยนต์มาเซราติ เหนืออื่นใดเราจะต้องให้ลูกค้าได้สัมผัสและทดลองขับรถยนต์ของเราด้วยเช่นกัน
ตั้งเป้ายอดขายปีหน้าอย่างไร?
ขออภัยจริงๆ ตัวเลขไม่สามารถเปิดเผยได้ สิ่งที่บอกได้คือ เราจะรักษาสมดุลการขายแบบนี้เอาไว้ให้ได้ และคาดว่ายอดขายน่าจะเติบโตขึ้นจากปีนี้
มุมมองต่อตลาดรถหรูของไทย?
ตลาดรถยนต์หรูของไทยยังคงมีศักยภาพสูงมาก ผมทราบว่าด้วยเงื่อนไขทางด้านภาษีของไทยที่สูงในระดับต้นๆของโลก ทำให้รถยนต์นำเข้ามีราคาสูงมาก เช่นเดียวกับคู่แข่งของเรา ดังนั้นเราจึงต้องทำให้คนไทยได้รับรู้ถึงจุดเด่นต่างๆ ของรถยนต์มาเซราติ เช่น เสียงของเครื่องยนต์และท่อไอเสียที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่มีใครเหมือน
กล่าวถึงตัวแทนใหม่ของไทย?
สำหรับตัวแทนใหม่ในประเทศไทย มีการลงทุนสร้างโชว์รูมใหม่ที่พารากอน และศูนย์บริการใหม่ที่พระราม 4 เพื่อรองรับลูกค้าในระดับที่น่าพอใจ โดยในปีนี้เราเพิ่งเปิดตัว มาเซราติ เลอวานเต้ เอส ซึ่งเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซินที่จะช่วยขยายไลน์ในการขายให้กว้างขึ้น คาดว่าปีหน้ายอดขายจะเติบโตขึ้นอีก เราหวังว่าในเวลาไม่ช้าไม่นานจะได้เห็นตัวเลขยอดขายระดับ สามหลัก ในประเทศไทย ผมมั่นใจว่าเราทำเช่นนั้นได้อย่างแน่นอน
