ข่าวในประเทศ - นักวิชาการและผู้บริหาร ประสานเสียงเทคโนโลยียานยนต์มุ่งพัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติ สอดรับรถยนต์ไฟฟ้า ที่กำลังจะก้าวเข้ามาแทนที่รถใช้เครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน หลายประเทศในยุโรปออกนโยบายห้ามขายชัดเจน
ดร.นักสิทธ์ นุ่มวงษ์ อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงานสัมมนา “เทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง”ว่า เทคโนโลยียานยนต์ในปัจจุบัน ก้าวมาถึงขึ้นขั้นที่รถยนต์สามารถแล่นขับได้เอง ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ระดับ โดยรถส่วนมากในปัจจุบันจะอยู่ที่ระดับ 2 มีเพียง เทสล่า เท่านั้นอ้างตัวเองว่าอยู่ในระดับ 3 ซึ่งในระดับ 5 คือ รถจะทำการแทนมนุษย์ได้ทั้งหมด ในอนาคตอาจจะเกิดขึ้นได้เพราะมีการพัฒนารวดเร็วมาก
“การพัฒนารถยนต์ในปัจจุบันมีความก้าวหน้าไวมาก ทั้งระบบด้านความปลอดภัยในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เช่นระบบเบรก สามารถตัดสินใจเบรกแทนมนุษย์ได้เอง ที่ความเร็วต่ำกว่า 30 กม./ชม. แน่นอนว่าเริ่มมีการพัฒนาให้รถยนต์เบรกได้เองที่ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.ได้แล้ว หรือระบบเรดาห์เซนเซอร์ที่สามารถตรวจจับวัตถุได้ก่อนที่รถจะไปถึงตำแหน่งได้ ดังนั้นเชื่อว่าอีกไม่นานรถยนต์ไฟฟ้าอัตโนมัติจะเข้ามาแทนที่รถยนต์ปกติทั่วไป”
าน ดร. ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เปิดเผยว่า หากมองถึงเรื่องของเทคโนโลยีในอดีตเราพูดถึง รถไฮบริด แล้วข้ามมารถพลังงานเซลล์เชื้อเพลิง(ฟิวส์เซลล์)เลย ไม่เคยมีการพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป ทำให้หลายประเทศในยุโรปเริ่มมีการประกาศนโยบายอย่างเป็นทางการในการห้ามขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน
“ประเทศนอร์เวย์ ถือเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เขาประกาศนโยบายชัดเจนในปี 2025 จะไม่มีการขายรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในอีกต่อไป ตามมาด้วยประเทศเนเธอแลนด์ รวมถึงประเทศอื่นๆ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และ เยอรมัน เป็นต้น ต่างก็ประกาศนโยบายห้ามขายเช่นเดียวกันอย่างช้าสุดคือปี 2040”
ส่วน นายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน กรรมการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย มีการดำเนินนโยบายส่งเสริมการลงทุนเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าผ่านทางบีโอไอ ที่ปัจจุบันทราบว่า มีเพียง ค่ายโตโยต้า เท่านั้นที่ยื่นขอสนับสนุนการลงทุน ขณะที่รายอื่นๆ คาดว่าจะมี ฮอนด้าที่อาจจะยื่นให้ทันภายในกำหนดเวลาสิ้นปีนี้
“เราคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการปรับปรุงสิ่งต่างๆ ให้สอดรับกับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นเรื่องดีๆ ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ส่วนจะเกิดได้สำเร็จขนาดไหนคงต้องใช้เวลา”
ขณะที่ นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงษ์ รองกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันรถยนต์จะไม่ใช่เพียงแค่เป็นยานพาหนะแต่ยังมีการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เนตด้วย เพราะเมื่อพัฒนาการเชื่อมต่อพร้อมระบบปัญญาประดิษฐ์(AI) จะทำให้รถสามารถสื่อสารกับผู้ขับขี่ได้ กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของมนุษย์
สำหรับงานสัมมนา “เทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง” จัดขึ้นโดย นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” ภายใต้โครงการ MOTOR EXPO PROFESSIONAL SEMINAR ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB เพื่อสร้างความเข้าใจ และความสัมพันธ์อันดี ระหว่างหน่วยงานด้านยานยนต์ ทั้งภาครัฐอย่าง และภาคเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไป
ดร.นักสิทธ์ นุ่มวงษ์ อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงานสัมมนา “เทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง”ว่า เทคโนโลยียานยนต์ในปัจจุบัน ก้าวมาถึงขึ้นขั้นที่รถยนต์สามารถแล่นขับได้เอง ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ระดับ โดยรถส่วนมากในปัจจุบันจะอยู่ที่ระดับ 2 มีเพียง เทสล่า เท่านั้นอ้างตัวเองว่าอยู่ในระดับ 3 ซึ่งในระดับ 5 คือ รถจะทำการแทนมนุษย์ได้ทั้งหมด ในอนาคตอาจจะเกิดขึ้นได้เพราะมีการพัฒนารวดเร็วมาก
“การพัฒนารถยนต์ในปัจจุบันมีความก้าวหน้าไวมาก ทั้งระบบด้านความปลอดภัยในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เช่นระบบเบรก สามารถตัดสินใจเบรกแทนมนุษย์ได้เอง ที่ความเร็วต่ำกว่า 30 กม./ชม. แน่นอนว่าเริ่มมีการพัฒนาให้รถยนต์เบรกได้เองที่ความเร็วไม่เกิน 60 กม./ชม.ได้แล้ว หรือระบบเรดาห์เซนเซอร์ที่สามารถตรวจจับวัตถุได้ก่อนที่รถจะไปถึงตำแหน่งได้ ดังนั้นเชื่อว่าอีกไม่นานรถยนต์ไฟฟ้าอัตโนมัติจะเข้ามาแทนที่รถยนต์ปกติทั่วไป”
าน ดร. ยศพงษ์ ลออนวล นายกสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย เปิดเผยว่า หากมองถึงเรื่องของเทคโนโลยีในอดีตเราพูดถึง รถไฮบริด แล้วข้ามมารถพลังงานเซลล์เชื้อเพลิง(ฟิวส์เซลล์)เลย ไม่เคยมีการพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป ทำให้หลายประเทศในยุโรปเริ่มมีการประกาศนโยบายอย่างเป็นทางการในการห้ามขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน
“ประเทศนอร์เวย์ ถือเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เขาประกาศนโยบายชัดเจนในปี 2025 จะไม่มีการขายรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในอีกต่อไป ตามมาด้วยประเทศเนเธอแลนด์ รวมถึงประเทศอื่นๆ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส และ เยอรมัน เป็นต้น ต่างก็ประกาศนโยบายห้ามขายเช่นเดียวกันอย่างช้าสุดคือปี 2040”
ส่วน นายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน กรรมการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทย มีการดำเนินนโยบายส่งเสริมการลงทุนเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าผ่านทางบีโอไอ ที่ปัจจุบันทราบว่า มีเพียง ค่ายโตโยต้า เท่านั้นที่ยื่นขอสนับสนุนการลงทุน ขณะที่รายอื่นๆ คาดว่าจะมี ฮอนด้าที่อาจจะยื่นให้ทันภายในกำหนดเวลาสิ้นปีนี้
“เราคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการปรับปรุงสิ่งต่างๆ ให้สอดรับกับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นเรื่องดีๆ ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ส่วนจะเกิดได้สำเร็จขนาดไหนคงต้องใช้เวลา”
ขณะที่ นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงษ์ รองกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันรถยนต์จะไม่ใช่เพียงแค่เป็นยานพาหนะแต่ยังมีการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เนตด้วย เพราะเมื่อพัฒนาการเชื่อมต่อพร้อมระบบปัญญาประดิษฐ์(AI) จะทำให้รถสามารถสื่อสารกับผู้ขับขี่ได้ กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของมนุษย์
สำหรับงานสัมมนา “เทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะ ฝันไกลที่กลายเป็นจริง” จัดขึ้นโดย นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน บริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 34” ภายใต้โครงการ MOTOR EXPO PROFESSIONAL SEMINAR ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB เพื่อสร้างความเข้าใจ และความสัมพันธ์อันดี ระหว่างหน่วยงานด้านยานยนต์ ทั้งภาครัฐอย่าง และภาคเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไป
