xs
xsm
sm
md
lg

2 ที่สุดแห่งความหรู “The new S-Class” และ “Maybach S-Class” เริ่มต้น 7.64 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว 2 รถยนต์ระดับเรือธง “The new S-Class” และ “The Mercedes-Maybach S-Class” ชูรูปลักษณ์ความเป็นที่สุดแห่งความหรูหรา พร้อมความสะดวกสบายและเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย เคาะราคาจำหน่ายเริ่มต้น 7.64 ล้านบาท
ไมเคิล เกรเว่
ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา The S-Class ถือเป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นที่มียอดจำหน่ายสูงสุดทั่วโลก และสร้างยอดขายรวมกว่า 300,000 คันนับตั้งแต่ ปีค.ศ. 2013 และกว่า 4,000,000 คันนับตั้งแต่ได้มีการเปิดตัว The S-Class สู่สาธารณชน ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ถือเป็นยนตรกรรมหรูระดับเรือธงที่เป็นศูนย์รวมของสุดยอดดีไซน์ ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกัน และเป็นจุดตั้งต้นสำหรับการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์นั่งทุกระดับ โดย The S-Class มีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้บริหารระดับสูงขององค์กร หรือผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ดังนั้น The S-Class จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งผู้นำโดยแท้จริง”

“และเพื่อเป็นการสานต่อปรัชญาในการนำเสนอ ‘สิ่งที่ดีที่สุด’ ให้แก่ลูกค้าทั้งในวันนี้ และวันข้างหน้า ในปีนี้เมอร์เซเดส-เบนซ์ จึงได้พัฒนา The new S-Class ที่มาพร้อมกับมิติใหม่แห่งสุนทรียะในการขับขี่ ด้วยนวัตกรรมหลากหลายด้าน ทั้งความสะดวกสบายขณะขับขี่ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Driving Assistance package และความประหยัดน้ำมัน ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ตอกย้ำให้รถซาลูนหรูรุ่นดังกล่าวยกระดับสู่การเป็นรถยนต์ที่ “ดีที่สุด” ขึ้นไปอีกขั้นนอกจากนี้ เรายังได้นำเสนออีกหนึ่งสุดยอดยนตรกรรมเหนือระดับรุ่นล่าสุดภายใต้แบรนด์ Mercedes-Maybach ที่สะท้อนคุณค่าของแบรนด์ทั้งในด้านความหลงใหล (Fascination) และความสมบูรณ์แบบ (Perfection) ในทุกมิติได้เป็นอย่างดี มาให้ลูกค้ากลุ่มผู้บริหารระดับสูง และกลุ่มธุรกิจฟลีทกับโรงแรมชั้นนำของเมืองไทย เพื่อให้บริการเหล่าลูกค้าคนสำคัญ” ไมเคิล เกรเว่ กล่าว
ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์
ฟรังค์ ชไตน์อัคเคอร์ รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “รถยนต์ 2 รุ่นที่เรานำมาเปิดตัวในวันนี้ ได้แก่ รุ่น The S 350 d AMG Premium ยนตรกรรมหรูเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 6 สูบเทอร์โบคู่ สุดยอดนวัตกรรมที่ทำให้เครื่องยนต์ทรงพลังมากขึ้น ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น และปล่อยไอเสียน้อยลงและ Mercedes-Maybach S 560 Premium เครื่องยนต์เบนซินรหัส M 176 แบบ V8 เทอร์โบคู่ ที่มีความจุ 4.0 ลิตร พร้อมแรงบิดสูงถึง 700 นิวตันเมตร ด้วย Inner-V turbochargers ทำให้ได้ประสิทธิภาพอันทรงพลัง แต่เครื่องยนต์ไร้เสียงรบกวน ที่มาเปลี่ยนคำนิยามของความผ่อนคลายด้วยดีไซน์อันโดดเด่น ตามมาตรฐานแบบเฟิร์สคลาส พร้อมระบบอำนวยความสะดวกอย่าง ครบครัน เพื่อมอบประสบการณ์แสนสบายตลอดการเดินทางของคุณ"

“โดยรถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนี้ ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติอัจฉริยะมากมาย ซึ่งส่งผลให้สมาชิกลำดับล่าสุดของรถยนต์ตระกูล The S-Class และ Mercedes-Maybach ถือเป็นอีกขั้นของการพัฒนานวัตกรรมรถยนต์ขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเช่น ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) ระบบช่วยนำรถเข้า-ออก จากที่จอดอัตโนมัติ ทั้งการจอดแบบขนานและการจอดแบบเข้าซอง, ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า (Active Distance Assist DISTRONIC) หรือระบบช่วยหลบหลีกการชนจากด้านหน้า (Evasive Steering Assist) เป็นต้น” รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด เมอร์เซเดส-เบนซ์ กล่าวปิดท้าย
สองผู้บริหาร เมอร์เซเดส-เบนซ์ เคียงข้าง The S 350 d AMG Premium
สำหรับดีไซน์ภายนอกของ The S 350 d AMG Premium หรูหราทันสมัยด้วยกระจังหน้าแบบ 3 ก้าน งามสง่าด้วยไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมไฟ daytime สำหรับขับขี่กลางวันแบบ LED 3 เส้น รับกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมกันชนหน้า-หลังและสเกิร์ตข้าง ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติก และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ Multi-spoke ขนาด 20 นิ้ว

ดีไซน์ภายใน รวมถึงบริเวณห้องโดยสารของ The new S-Class สร้างนิยามอีกขั้นของความสะดวกสบาย ด้วยระบบ ENERGIZING Comfort Control ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลก โดยเทคโนโลยีนี้จะควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น การปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Light ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง รวมถึงโปรแกรมนวดของเบาะที่นั่งทั้งด้านหน้าและด้านหลัง 6 แบบ พร้อมการตกแต่งภายในด้วยวัสดุคุณภาพเยี่ยมอย่าง เบาะนั่งคู่หน้าและคู่หลังหุ้มหนัง Exclusive nappa ตัดเย็บลายเบาะแบบ diamond design ที่สามารถปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ และฟังก์ชั่นอุ่นที่นั่งและระบายอากาศ เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าสามารถปรับเลื่อนไปด้านหน้าเพิ่มขึ้นอีก 4 ซม. และเลื่อนขึ้นด้านบนได้อีก 3.7 ซม. เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่บริเวณห้องโดยสารด้านหลังให้กว้างขวางยิ่งขึ้น

สำหรับเทคโนโลยีและระบบมัลติมีเดีย ภายในห้องโดยสารของ The S 350 d AMG Premium มาพร้อมกับระบบปรับรูปแบบการขับขี่ DYNAMIC SELECT ระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่ บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display) ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC แบบ 4-ZONE ฟังก์ชั่นปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package) ระบบ COMAND Online พร้อมรีโมทควบคุมสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ระบบแผนที่นำทาง (Navigation system) ระบบสั่งการด้วยเสียง (LINGUATRONIC) เฉพาะภาษาอังกฤษ เครื่องเล่น Blu-ray สำหรับที่นั่งด้านหลัง ฟังก์ชั่นเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay™ & Android Auto ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging) สำหรับที่นั่งด้านหน้า ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system ระบบความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง พร้อมจอแสดงผล 2 ตำแหน่ง

The Mercedes-Maybach S-Class
ขณะที่ The Mercedes-Maybach S-Class ดีไซน์ภายนอกคงไว้ซึ่งการออกแบบบริเวณด้านหน้าให้ยังคงความหรูหราแบบ The new S-Class เอาไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าขนาดใหญ่ที่มาพร้อมกับโลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์บนฝากระโปรงลาย 3 แถบเสริมโครเมียม ฝากระโปรงหน้าที่ยาว พร้อมคิ้วโครเมียมตกแต่งบริเวณชายกันชนด้านหน้า กระจกหน้าต่างสีเขียว กรองแสงรอบคัน พร้อมกระจกนิรภัยด้านหลัง, ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมฟังก์ชั่น Active Light System, ไฟท้ายแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีไฟเบอร์ออฟติก, ล้ออัลลอยแบบ forged ขนาด 20 นิ้ว พร้อมยางรถยนต์แบบ Run-flat และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อนเปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าพร้อมฟังก์ชัน MAGIC SKY CONTROL, ระบบช่วงล่างแบบ MAGIC BODY CONTROL พร้อมปิดท้ายความสมบูรณ์แบบด้วยโลโก้ “Maybach” บนฝากระโปรงหลัง โดย Mercedes-Maybach มาพร้อมกับความยาวตัวรถประมาณ 5,462 มม. (S-Class ยาว 5,271 มม.) ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น และเพิ่มความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร


ดีไซน์ภายในยังคงเน้นการผสมผสานความหรูหรา ความนุ่มสบายขณะขับขี่ และความกว้างขวาง เข้าไว้ด้วยกัน โดยรถยนต์รุ่นนี้ได้รับการตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง designo Exclusive semi-aniline, ด้านบนของคอนโซลหน้า และส่วนกลางของแผงประตูหุ้มหนัง nappa, ผ้าหลังคาและแผงบังแดดหน้าหุ้มด้วย DINAMICA microfibre, นาฬิกา IWC แบบอนาล็อก, พวงมาลัยนิรภัยมัลติฟังก์ชั่นแบบ 3 ก้าน หุ้มหนังสลับลายไม้ พร้อมสัญลักษณ์ MAYBACH และปุ่มควบคุมแบบ Touch Control, ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือแบบ Apple Carplay™ & Android Auto, ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย สำหรับที่นั่งด้านหน้าและด้านหลัง และระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester® high-end 3D surround sound system

The S 350 d AMG Premium และ Mercedes-Maybach S 560 Premium มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบความปลอดภัยสูงสุดมากมาย สำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ร่วมใช้ถนน ได้แก่ ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® PLUS, ระบบ Active Emergency Stop Assist, ระบบ Evasive Steering Assist, ระบบ Active Distance Assist DISTRONIC, ระบบ Active Blind Spot Assist, ระบบ Active Lane Keeping Assist, ระบบ Active Brake Assist และระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist)


นอกจากนี้ รถยนต์ The S 350 d AMG Premium ยังมีระบบกันสะเทือนแบบถุงลม (AIRMATIC) พร้อมระบบควบคุมแบบอัตโนมัติ เพื่อมอบการขับขี่ที่นุ่มนวล ด้วยระบบที่สามารถควบคุมการทรงตัวได้ในทุกสภาวะอย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยระบบนี้ ยังสามารถปรับให้เหมาะกับการขับขี่ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง ในโหมด Comfort และ Sport ซึ่งระบบกันสะเทือนจะถูกปรับการใช้งานให้สอดคล้องในแต่ละโหมด โดยสามารถปรับยกตัวรถได้สูงถึง 30 มม. เมื่อขับขี่บนถนนที่ขรุขระหรือมีหลุมบ่อ และระบบจะปรับตัวรถลง 20 มม. โดยอัตโนมัติเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง เพื่อเพิ่มการทรงตัวที่ดียิ่งขึ้น

สำหรับราคาจำหน่าย The S 350 d AMG Premium นำเสนอในราคา 7,640,000 บาท และ Mercedes-Maybach S 560 Premium นำเสนอในราคา 17,440,000 บาท.

แจกบัตร มอเตอร์ เอ็กซ์โป ท่านละ 2 ใบ ติดต่อรับได้ที่โอปอเรเตอร์ บ้านพระเจ้าพระยาโทร.02-629-4488 ในเวลาทำการ 8.30-17.30 น. บัตรใช้เข้างานได้ตั้งแต่วันที่ 1-11 ธค. 2560
กำลังโหลดความคิดเห็น