เปิดแผน “ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์” บริษัทรถยนต์คนไทยที่ยืนหยัดต่อสู้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของบ้านเรามาอย่างยาวนาน โดยในวาระพิเศษกับการเฉลิมฉลองก้าวเข้าสู่ครึ่งทศวรรษ ภายใต้การนำทัพของหัวเรือใหญ่ “สมพงษ์ เผอิญโชค” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรุ่ง ยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) จะขับเคลื่อนดำเนินธุรกิจไปในทิศทางใด รวมถึงจะมีกลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อะไรที่เตรียมนำเสนอหลังจากนี้ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
“ปีนี้ถือเป็นปีที่พิเศษ เพราะรถทีอาร์ ทรานฟอร์เมอร์ ทู (TR Transformer II) ของเราเพิ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ ด้านเศรษฐกิจ ในการประกวดรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติประจำปี 2560 จัดขึ้นโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ซึ่งมีผลงานเข้าประกวดกว่า 90 ผลงาน และรางวัลดังกล่าวยังไม่มีรถยนต์จากบริษัทไหนหรือประเภทใดเคยได้รับมาก่อน ถือเป็นสิ่งที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับบริษัทเราเป็นอย่างมาก” หัวเรือใหญ่ ไทยรุ่งฯ กล่าวและว่า
“ในความพิเศษนี้เองเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่บริษัทฯ เฉลิมฉลองวาระครบรอบการก้าวสู่ปีที่ 50 โดยเรามีแผนเปิดตัวรถยนต์ ทรานฟอร์เมอร์ ทู รุ่นพิเศษ 50 ปี เป็นลิมิเต็ด อิดิชั่น ที่จะเพิ่มความหรูหรา, ปราดเปรียว และดูหนุ่มขึ้น คาดว่าจะได้เห็นกันในเร็วๆ นี้”
สำหรับทรานฟอร์เมอร์ ทู เจ้าของรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติประจำปี 2560 เป็นรถยนต์อเนกประสงค์แบรนด์ไทย ได้รับการพัฒนาตามโครงสร้าง-ระบบขับเคลื่อนของ “โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่” หรือเรียกว่าเป็นปิกอัพดัดแปลงที่มีรูปลักษณ์การออกแบบอันโดดเด่น เบาะนั่งภายในเลือกได้ตั้งแต่ 5-11 ที่นั่ง เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร และ 2.8 ลิตร เกียร์ธรรมดา-อัตโนมัติ ระบบขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้อ เปิดตัวทำตลาดในไทยช่วงต้นปี 2559 ราคาจำหน่าย 1.4-1.6 ล้านบาท
ขณะเดียวกันการได้รับรางวัลครั้งนี้จะเป็นการยกระดับสินค้า โดยกลุ่มเป้าหมายหลักคือหน่วยงานรัฐ เนื่องจากที่ผ่านมาภาครัฐสนับสนุนให้มีการจัดซื้อจัดจ้างนวัตกรรมของไทยโดยวิธีการพิเศษ จึงทำให้ได้รับความสนใจมากขึ้น ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็มีหลายหน่วยงานที่บริษัทมีการส่งมอบรถออกไป ได้แก่ กองทัพไทยที่ส่งมอบไป 14 คัน, กองทัพเรือ3 คัน และเคไนน์ 2 คัน
ด้านเป้าหมายยอดขายปี 2560 ตั้งไว้ที่ 300 คัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากจำนวน 200 คัน แบ่งเป็นในประเทศ 50% และต่างประเทศ 50% โดยในปีหน้าหากภาครัฐเริ่มมีการสั่งซื้ออย่างจริงจัง คาดว่าจะมียอดขาย 400-500 คัน
“ตลาดต่างประเทศ เดิมส่งไปยังมาเลเซีย, ศรีลังกา และล่าสุดได้เข้าเจาะตลาดที่สิงค์โปร์ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเจรจา แนวโน้มน่าจะได้ข้อสรุปช่วงต้นปีหน้า นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยกับพันธมิตรทางฝั่งยุโรป คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 เดือนน่าจะรู้ผล หากทุกอย่างได้ข้อสรุปก็จะเป็นการเปิดตลาดของไทยรุ่งไปสู่ระดับโลก และในอนาคตอาจจะทำยอดขายพุ่งไปสู่ 1,000 -2,000 คันต่อปีก็เป็นได้”
ขยับมาในส่วนของแผนธุรกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไทยรุ่งฯ เผยต่อว่า หลังได้รับอนุมัติจากกรมศุลกากรให้โรงงานแห่งที่ 2 ย่านหนองแขมสามารถรับสิทธิประโยชน์เป็นโรงงานฟรีโซนหรือเขตปลอดภาษี จะส่งผลให้บริษัทฯ สร้างความได้เปรียบของการรับจ้างประกอบมากกว่าเดิม ซึ่งปัจจุบันผลิตเพียงแค่ 30% เท่านั้น จากกำลังการผลิตทั้งหมด 50,000 คัน โดยหลังจากนี้จะเน้นตลาดส่งออกมากขึ้นด้วย
“ส่วนอีกแผนงานที่กำลังดำเนินการ จากกรณีที่ภาครัฐประกาศให้มีการนำรถมินิบัสมาวิ่งแทนรถตู้ ที่มีระยะทางวิ่งเกินกว่า 300 กิโลเมตร ทำให้ตลาดของมินิบัสมีโอกาสเติบโต เพราะปัจจุบันมีการประเมินกันว่า ความต้องการรถประเภทนี้มีจำนวนสูงถึง 16,000 คันต่อปี หากกฎหมายเริ่มบังคับใช้ แน่นอนว่าในอีก 6-7 ปีข้างหน้า ความต้องการก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย” สมพงษ์ กล่าวและว่า
“เราศึกษาโปรเจกต์นี้มานาน และเชื่อว่ามีศักยภาพเพียงพอ คาดว่าต้นปีหน้าจะได้เห็น ส่วนรูปแบบการทำตลาดนั้น ตอนนี้มองไว้ 2 ทาง คือ ทำเองและใช้แบรนด์ไทยรุ่ง ส่วนอีกทางอาจจะจับมือร่วมทุนกับพันธมิตร ซึ่งตอนนี้มีหลายบริษัทที่อยากให้เราประกอบให้”
ปิดท้ายที่ผลประกอบการของบริษัทฯ ในช่วงครึ่งปีแรก นับว่าใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ทำได้ 972.89 ล้านบาท ขณะที่เป้าหมายของตลอดทั้งปีนี้ คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาเช่นกัน คือ 1,800-1,900 ล้านบาท
...ทั้งหมดนี้เป็นสถานการณ์ล่าสุดของ “ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์” กับการก้าวเข้าสู่ครึ่งทศวรรษในอุตสาหกรรมยานยนต์เมืองไทยอย่างเต็มภาคภูมิ.