หลังจากประสบความสำเร็จในการทำตลาด “มาสด้า ซีเอ็กซ์-5”อย่างเหนือความคาดหมาย ด้วยยอดขายทั่วโลกกว่า 1.4 ล้านคัน คิดเป็นสัดส่วนยอดขายถึง 25% ของยอดขายรวมทั้งแบรนด์ของมาสด้า น่าทึ่งเป็นอย่างยิ่ง สำหรับผลตอบรับที่ดีเยี่ยมเช่นนี้ของ มาสด้า ซีเอ็กซ์-5
ดังนั้นในเจเนอเรชันที่ 2 จึงเพิ่มและเติมเต็มตามความต้องการของผู้บริโภคที่มาสด้าได้เก็บข้อมูลมา ซึ่งในตลาดโลก มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 เปิดตัวเรียบร้อยแล้ว แต่สำหรับอาเซียนเพิ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในมาเลเซียที่ถือว่าเป็นฐานการผลิตของมาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ในภูมิภาคนี้และนำเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยด้วย
หลังจากเปิดตัว ได้ให้สื่อมวลชนทดลองขับแบบสั้นๆ พอเป็นแนวทางเบื้องต้น ก่อนที่จะเผยโฉมอย่างเป็นทางการในเมืองไทยราวเดือนพฤศจิกายนนี้ แล้วจากนั้นจะมาพบกับบททดลองขับฉบับเต็มของ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-5”ในเมืองไทยกันอีกครั้ง
ใหม่ทั้งภายนอก ภายใน ใส่GVC
หากมองเพียงผิวเผินเราแทบจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง แต่หากนำมาจอดเปรียบเทียบกันแล้วจะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนในทุกสัดส่วน ทั้งนี้เนื่องจากแนวคิดในการออกแบบ โคโดะ ดีไซน์ (KODO design) ทำให้ มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 ยังคงมีกลิ่นไอที่ใกล้เคียงกันระหว่างรุ่นแรกและรุ่นที่สอง
กระจังหน้าแบบใหม่ โคมไฟหน้าวางตำแหน่งให้ต่ำลงกว่าเดิม เพื่อให้สอดรับกับเส้นสันของตัวถังรถที่ออกแบบให้ยาวจากฝากระโปรงหน้าไปถึงด้านท้ายรถ โดยใช้เทคนิคการออกแบบ 3 มิติ อันเป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า ทั้งยังได้แนะนำสีแดงใหม่ Soul Red Crystal ที่มาแทนสีแดงเดิม
ขณะที่เครื่องยนต์ยังคงเป็นตัวเดิมทั้งรุ่นเบนซิน2.0ลิตรและดีเซล2.2ลิตรส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมมัติ 6 สปีด แต่ได้ปรับเปลี่ยนซอฟแวร์และอีซียูในการทำงานใหม่ โดยให้ผลลัพท์ที่ประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิมและปล่อยไอเสียน้อยลง รวมถึงการเพิ่มระบบ GVC ที่ช่วยควบคุมแรงบิดให้เหมาะสมกับการหมุนพวงมาลัย
การออกแบบภายใน เบาะนั่งปรับปรุงใหม่ โดยเฉพาะเบาะนั่งหลังที่เน้นความสบายของผู้โดยสารมากกว่าเดิม ปรับเอนได้ 2 ระดับ เปลี่ยนดีไซน์ช่องแอร์และลวดลายบนแผงคอนโซล รวมถึงยกระดับคอนโซลกลางและคันเกียร์ให้สูงกว่าเดิม 60 มิลลิเมตร
คล่องตัว เบรกนุ่มนวล
สำหรับการทดลองขับ ทางมาสด้าจัดสถานที่เป็นลาดจอดรถของสนามกีฬา โดยวางไพลอนเป็นเส้นทางวิ่งเอาไว้2 ลักษณะ หนึ่งคือแบบซิกแซกเพื่อให้รับรู้ถึงการทำงานของพวงมาลัยกับความคล่องตัวเมื่อต้องเลี้ยวในระยะคับขัน และสองเป็นแบบทางตรงยาวเพื่อดูอัตราเร่งควบคู่ไปกับการเบรก โดยให้ทดลองขับรุ่นละ 2 รอบสนาม
ด้วยการขับเพียงเท่านั้นเราพอจะมาบอกเล่าสู่กันฟังได้ว่า การทรงตัวขณะเลี้ยวอย่างรวดเร็วทำได้ดี อัตราเร่งทางตรงยาวรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลลากรอบไปได้ถึง 4500 รอบ/นาที ส่วนรุ่นเครื่องยนต์เบนซินกดไปถึง 6500 รอบ/นาที แม้จะมีระยะทางที่สั้นแต่ก็ทำความเร็วได้ถึง 70 กม/ชม. แสดงให้เห็นถึงอัตราเร่งที่ดี
ส่วนไฮไลต์ของการทดลองขับในคราวนี้คงเป็นเรื่องของ ระบบเบรก ที่ทีมงานมาสด้าภาคภูมิใจนำเสนอเป็นอย่างยิ่ง ด้วยการเบรกที่เรียกว่า ไม่หัวทิ่ม เมื่อคุณกดแป้นเบรกด้วยน้ำหนักที่เหมาะสม รถจะหยุดอย่างนุ่มนวล ไม่มีอาการเวียนหัวอย่างแน่นอน พร้อมทั้งเบรกหยุดอยู่ในระยะที่ปลอดภัย โดยช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท และหลังแบบมัลติลิงค์ ช้อคอัพมีขนาดใหญ่ขึ้น
มีอีกหนึ่งออพชันที่น่าสนใจคือ ระบบเปิดปิดฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า ที่เราได้ทดลองเล่นหลายครึ่งเพื่อทดสอบการทำงานของระบบเซนเซอร์ว่าจะป้องกันการหนีบได้ดีเพียงใด พบว่า ทำได้อย่างประทับใจ เซนเซอร์จะอยู่ที่ยางขอบฝากระโปรง เพียงใช้นิ้วเดียวกดให้มีแรงสักหน่อยฝากระโปรงก็หยุดแล้วหรือ มีคนยืนขวางเมื่อฝากระโปรงปิดลงมาแตะศรีษะผู้ยืนก็หยุดการทำงาน ไม่ต้องกลัวโดนหนีบ
เหมาะกับใคร
ด้วยการขับเพียงเล็กน้อย คงไม่สามารถสรุปแบบจำเพาะเจาะจงลงไปได้ แต่หากใครเป็นสาวกของมาสด้า กำลังมองหารถเอสยูวีขนาดตัวถังกลางๆ หรือใช้งาน มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 แล้วถึงเวลาเปลี่ยนรถ บอกได้คำเดียวว่า ไม่น่าพลาดด้วยประการทั้งปวง
