xs
xsm
sm
md
lg

อนาคต Kei Car ไปต่อหรือขอบาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

Kei car รถเล็กทรงกล่องขวัญใจคนญี่ปุ่นทุกเพศทุกวัย
'Kei car' รถเล็กทรงกล่องของญี่ปุ่นกำลังเจอเส้นทางวิบาก เพราะแม้มีแฟนคลับในบ้านล้นหลาม แต่กลับถูกภาษีใหม่ที่รัฐบาลหวังนำไปลดหนี้สาธารณะทุบยอดขายปีที่แล้วทรุดฮวบ

ยอดขาย Kei car ที่มาจากคำว่า kei jidosha หรือรถน้ำหนักเบา ซึ่งเป็นหนึ่งในรถยอดนิยมในญี่ปุ่น ตลาดรถใหญ่อันดับ 3 ของโลก ดิ่งฮวบจากสถิติสูงสุด 2.27 ล้านคันที่ทำไว้ในปี 2014

ยอดขายที่ลดลงถึง 1.72 ล้านคันเมื่อปีที่แล้วมีสาเหตุมาจากการที่ผู้ใช้ต้องคิดหนักเรื่องราคา หลังจากรัฐบาลขึ้นภาษี Kei เพราะต้องการสร้างรายได้ไปจัดการหนี้สาธารณะมากมายมหาศาล

ผู้ใช้ Kei ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและอาศัยอยู่นอกเมืองที่รถเล็กมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเดินทางที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ ต่างช็อกไปตามๆ กันกับการตัดสินใจของรัฐบาล

โยชิอากิ คาวาโนะ นักวิเคราะห์ของบริษัทที่ปรึกษา ไอเอชเอส มาร์กิต บอกว่า ไม่เห็นอนาคตสำหรับ Kei โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนการขึ้นภาษีการบริโภคในปี 2019 จะยิ่งฉุดยอดขายรถประเภทนี้ให้อับเฉาไปกันใหญ่ มิพักต้องพูดถึงความเป็นไปของสังคมชราภาพและกระแสการย้ายเข้าไปอยู่ในตัวเมืองของคนชนบท ซึ่งเป็นตลาดที่ Kei ได้รับความนิยมมากที่สุด

แน่นอนว่า Kei ยังมีแฟนๆ มากมายที่จงรักภักดีจากประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและราคาย่อมเยา

Kei ครองยอดขาย 1 ใน 3 ในตลาดรถญี่ปุ่น สัปดาห์ที่ผ่านมา ฮอนด้า มอเตอร์เพิ่งเปิดตัวเอ็น-บ็อกซ์ ซึ่งเป็น Kei ที่ขายดีที่สุดของบริษัทในเวอร์ชันใหม่

โคจิมะ วัย 75 ปี บอกว่า รัก Kei เพราะขับง่าย ไปได้ทุกที่แม้บนทางแคบ

Kei ถือกำเนิดขึ้นในฐานะเถ้าถ่านแห่งสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อรัฐบาลในขณะนั้นที่ต้องการเร่งรัดปรับปรุงสู่ความทันสมัย คาดหวังให้ประชาชนเลิกขี่สกูตเตอร์หรือพาหนะที่ไม่มีเครื่องยนต์ เพื่อขับเคลื่อนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่ใช้รถมีราคา

ปัจจุบัน รถเล็กทรงกล่องยังคงถูกจำกัดขนาดเครื่องยนต์ไม่ให้เกิน 660 ซีซี พอๆ กับมอเตอร์ไซค์ รวมทั้งต้องไม่กว้างกว่า 1.48 เมตร

Kei มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่ารถยนต์ทั่วไป แถมถูกกว่าประมาณ 6,000 ดอลลาร์ หรือเกือบ 200,000 บาท ค่าประกันภัยก็ถูกกว่า

อย่างไรก็ตาม แม้เป็นรถคันที่สองของครอบครัวที่มีให้เห็นทุกที่ในญี่ปุ่น ทั้งในรูปรถกระบะของชาวไร่ชาวนา หรือแม้แต่รถตำรวจสำหรับออกตรวจตราตามย่านที่อยู่อาศัย แต่ Kei กลับขายยากขายเย็นในต่างประเทศ

เพราะนอกจากรูปทรงแปลก บางรุ่นยังมีชื่อไม่คุ้นหู เช่น ซูซูกิ ฮัสต์เลอร์ และคาปูชิโน่ นอกจากนั้น Kei ส่วนใหญ่ยังไม่ผ่านมาตรฐานป้องกันการชนของอเมริกาและยุโรป ขณะที่เครื่องยนต์ขนาดเล็กของรถทรงกล่องจากแดนปลาดิบยังอาจทำให้เหล่าผู้นิยมรถคันโตเครื่องแรงหัวเราะเยาะเอาได้

การเปลี่ยนแปลงด้านประชากรของญี่ปุ่น และโอกาสริบหรี่ในการประสบความสำเร็จในต่างแดน ยกเว้นตลาดเกิดใหม่ ทำให้ Kei อาจไม่สามารถทำลายหรือแม้แต่ไปถึงสถิติยอดขายที่เคยทำได้

อย่างไรก็ตาม ยังมีบางคนที่มองแง่ดีว่า อุตสาหกรรมรถน่าจะสกัดวงจรขาลงของ Kei ได้

อาซาโกะ โฮชิโนะ รองประธานนิสสันที่ดูแลตลาดในประเทศเชื่อว่า Kei จะไม่หายไปจากตลาด โดยอ้างอิงการที่นิสสันเข้าซื้อมิตซูบิชิ มอเตอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน Kei รวมถึงการที่โตโยต้า มอเตอร์ ไล่ซื้อหุ้นไดฮัทสุ ซึ่งเป็นผู้นำตลาดรถเล็กร่วมกับซูซูกิ คืนทั้งหมด ว่าเป็นบทพิสูจน์ว่า รถแนวนี้ยังมีคุณค่าและอนาคต

นอกจากนั้น บรรดาผู้ผลิตยังพยายามแต่งเติมเสริมเสน่ห์ให้ Kei ด้วยการปรับปรุงรูปลักษณ์ให้ดึงดูดมากขึ้น เพิ่มฟีเจอร์ล้ำสมัยจากเดิมที่มีแต่ออปชั่นมาตรฐานที่จำเป็นเท่านั้น

อาเบะ ชูเฮอิ พนักงานฝ่ายขายของไดฮัทสุปิดท้ายว่า เมื่อสิบปีที่แล้ว ฟังก์ชันใน Kei จำกัดมาก แถมหน้าตายังออกจะเนิร์ดๆ

“แต่วันนี้ ลูกค้ากระตือรือร้นกลับมาซื้อ Kei กันมากขึ้น เพราะทั้งประหยัดน้ำมัน ปลอดภัย และดูดีมีสไตล์”
กำลังโหลดความคิดเห็น