เบิร์นรับเบอร์ ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายมอเตอร์ไซค์เคทีเอ็มในประเทศไทย เอาใจนักขี่ผู้รักการผจญภัย เปิดตัวสุดยอดรถตระกูลแอดเวนเจอร์ 4 รุ่นใหม่ล่าสุด นำโดย 1290 SUPER ADVENTURE R, 1290 SUPER ADVENTURE S, 1090 ADVENTURE R และ1090 ADVENTURE เคาะราคา 999,900-1,299,900 บาท
นายภูมินทร์ นิวาตวงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด กล่าวว่า “บริษัทยังคงจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อให้สอดคล้องและตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า ภายใต้แนวคิด READY TO RACE ของเคทีเอ็มอย่างต่อเนื่อง และทางเคทีเอ็มเองเชี่ยวชาญเรื่องการผลิตคิดค้นและพัฒนารถสายพันธ์แอดเวนเจอร์ทั้งการขับขี่แบบโมโตครอส (Motocross) รวมถึงการขับขี่สไตล์เอ็นดูโร่ (Enduro) มายาวนาน โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์เคทีเอ็มตระกูล “แอดเวนเจอร์” บริษัท จึงขอนำเสนอรถมอเตอร์ไซค์ “เคทีเอ็ม แอดเวนเจอร์ (KTM ADVENTURE)” ใหม่ทั้งหมด 4 รุ่นคือ 1290 SUPER ADVENTURE R, 1290 SUPER ADVENTURE S, 1090 ADVENTURE R และ 1090 ADVENTURE ซึ่งมาพร้อมสมรรถนะเยี่ยม ขุมพลังเร็วแรง ฟังก์ชั่นที่สามารถปรับให้เหมาะกับการขับขี่ทุกประเภทแบบจัดเต็ม และระบบความปลอดภัยสูงสุดที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพล้ำกว่าเดิมเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายทุกขณะขับขี่มากขึ้น ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่สุดมันส์ทั้งหมดนี้ในแบบฉบับของเคทีเอ็มที่ไม่สามารถหาใครเปรียบได้”
นาย จิอานลูก้า ลอสซี่ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย เคทีเอ็ม ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “เพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญาของแบรนด์เคทีเอ็ม หรือ READY TO RACE ที่รถมอเตอร์ไซค์เคทีเอ็มทุกคันที่จัดจำหน่ายนั้นสามารถนำไปลงแข่งขันได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องปรับแต่งเครื่องยนต์ใดๆ ทางทีมพัฒนาและวิจัยของเคทีเอ็มได้นำมาต่อยอดและพัฒนาออกมาเป็นรถมอเตอร์ไซค์สำหรับลูกค้าผู้รักการขับขี่สไตล์สปอร์ตในทุกๆ ประเภท สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล แอดเวนเจอร์ 4 รุ่นใหม่ของปี 2017 นี้ ได้มีการพัฒนาจากโมเดลเดิมให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับการขับขี่แบบผจญภัยมากยิ่งขึ้น
สำหรับ KTM 1290 SUPER ADVENTURE R และ KTM 1290 SUPER ADVENTURE S นั้นเป็นโมเดลที่แยกออกมาจากโมเดลก่อนหน้าอย่าง KTM 1290 SUPER ADVENTURE โดยเครื่องยนต์ขนาด 1,301 ซีซี. 160 แรงม้า เครื่องยนต์ยังมีน้ำหนักเบาลงจากเครื่องยนต์เดิม 47 กรัม ทำให้ มีความคล่องตัวในการขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยมีน้ำหนักที่ลดลงอีก 5 และ 7 กก. สำหรับ KTM 1290 SUPER ADVENTURE R และ KTM 1290 SUPER ADVENTURE S ตามลำดับ เพิ่มความมั่นใจเต็มแรงบิดด้วยระบบเพิ่มความปลอดภัยแบบจัดเต็มไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมการขับขี่ Traction Control ระบบเบรกแบบ C-ABS ระบบตรวจสอบลมยาง และ Cornering Light ที่จะเพิ่มมุมการมองเห็นด้านข้างให้กว้างและความปลอดภัยในการขับขี่เวลากลางคืน และด้วยดีไซน์ใหม่ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ หน้าปัดเรือนไมล์สีแบบใหม่ และผู้ขับขี่ยังสามารถติดตั้ง Travel Pack เพิ่มได้ ซึ่งประกอบไปด้วย Quickshifter, ระบบ MSR (Motor Slip Regulation), ระบบ HHC (Hill Hold Control) และ KTM MY RIDE ที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟนเพื่อรับสายโทรศัพท์หรือฟังเพลงได้
ความแตกต่างของทั้ง 2 โมเดลข้างต้นนั้นอยู่ที่ความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดที่เหนือชั้นกว่าของ KTM 1290 SUPER ADVENTURE R ไม่ว่าจะเป็นล้อแบบซี่ลวด ยางแบบออฟโรด ยางหน้าขนาด 21 นิ้ว ยางหลังขนาด 18 นิ้ว ระบบช่วงล่างที่สามารถปรับได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ (Fully Adjustable) กันล้ม (Crash Bar) โหมดการขับขี่แบบออฟโรด และระบบ Cornering ABS ซึ่ง KTM 1290 SUPER ADVENTURE S นั้นมาพร้อมกับล้อแม็ก ยางหน้าขนาด 19 นิ้ว ยางหลังขนาด 17 นิ้ว ระบบช่วงล่างแบบเซมิแอคทีฟ ทั้งนี้ผู้ขับขี่สามารถติดตั้ง Offroad Pack เพื่อเพิ่มความสามารถแบบออฟโรดลงในรุ่น S ได้อีกด้วย
ส่วนของ KTM 1090 ADVENTURE R และ KTM 1090 ADVENTURE นั้นได้รับการพัฒนาจากโมเดลเดิมคือ 1050 ADVENTURE ถึงแม้ว่าจะมีปริมาตรความจุกระบอกสูบเท่าเดิมคือ 1,050 ซีซี. แต่เครื่องยนต์ก็ได้รับการพัฒนาให้มีกำลังแรงขึ้นจากเดิมอีก 30 แรงม้า เป็น 125 แรงม้า มาพร้อมกับสลิปเปอร์คลัตช์ และระบบควบคุมการขับขี่ Traction Control ระบบเบรก ABS และเพื่อความสะดวกสบายสูงสุดในการขับขี่แฮนด์และที่พักเท้าสามารถปรับระดับเพื่อให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ขับขี่ได้ หน้าปัดเรือนไมล์มัลติฟังก์ชั่นเป็นแบบ LCD นอกจากนี้ยังปราดเปรียวและคล่องแคล่วมากยิ่งขึ้นด้วยน้ำหนักที่เบา และยางล้อที่แคบลง
KTM 1090 ADVENTURE R นั้นเพิ่มสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นล้อแบบซี่ลวด ยางแบบออฟโรด ยางหน้าขนาด 21 นิ้ว ยางหลังขนาด 18 นิ้ว ระบบช่วงล่างที่สามารถปรับได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ (Fully Adjustable) กันล้ม (Crash Bar) โหมดการขับขี่แบบออฟโรด และระบบ Offroad ABS ซึ่ง KTM 1090 ADVENTURE นั้นมาพร้อมกับล้อแม็ก ยางหน้าขนาด 19 นิ้ว ยางหลังขนาด 17 นิ้ว ทั้งนี้ผู้ขับขี่สามารถติดตั้ง Offroad Pack เพื่อเพิ่มความสามารถแบบออฟโรดลงในรุ่น KTM 1090 ADVENTURE ได้อีกด้วย
สำหรับรถเคทีเอ็มแอดเวนเจอร์ 4 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะเริ่มจัดจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมรับประกันภัยชั้น 1 และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ( Road Side Assistance ) รวมระยะเวลา 2 ปี สนนราคาพิเศษช่วงแนะนำดังนี้
1090 ADVENTURE ราคา 999,900บาท
1090 ADVENTURE R ราคา 1,069,900 บาท
1290 SUPER ADVENTURE S ราคา 1,249,900 บาท
1290 SUPER ADVENTURE Rราคา 1,299,900บาท
ทั้งนี้ นายภูมินทร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ทางบริษัทฯ ได้จัดเตรียมกิจกรรมสำหรับลูกค้า KTM ไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม DUKEHANA ซึ่งเป็นการแข่งขันการขับขี่ทดสอบความเร็วในรูปแบบการแข่งขันแบบยิมคาน่า และกิจกรรมสุดมันส์สไตล์ READY TO RACE มากมายเพื่อเอาใจสาวกสีส้ม ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของเคทีเอ็มได้ที่เฟซบุ๊ค facebook.com/KTMThailandOfficial และ อินสตาแกรม @KTMThailand”
นายภูมินทร์ นิวาตวงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท เบิร์นรับเบอร์ จำกัด กล่าวว่า “บริษัทยังคงจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อให้สอดคล้องและตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า ภายใต้แนวคิด READY TO RACE ของเคทีเอ็มอย่างต่อเนื่อง และทางเคทีเอ็มเองเชี่ยวชาญเรื่องการผลิตคิดค้นและพัฒนารถสายพันธ์แอดเวนเจอร์ทั้งการขับขี่แบบโมโตครอส (Motocross) รวมถึงการขับขี่สไตล์เอ็นดูโร่ (Enduro) มายาวนาน โดยเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์เคทีเอ็มตระกูล “แอดเวนเจอร์” บริษัท จึงขอนำเสนอรถมอเตอร์ไซค์ “เคทีเอ็ม แอดเวนเจอร์ (KTM ADVENTURE)” ใหม่ทั้งหมด 4 รุ่นคือ 1290 SUPER ADVENTURE R, 1290 SUPER ADVENTURE S, 1090 ADVENTURE R และ 1090 ADVENTURE ซึ่งมาพร้อมสมรรถนะเยี่ยม ขุมพลังเร็วแรง ฟังก์ชั่นที่สามารถปรับให้เหมาะกับการขับขี่ทุกประเภทแบบจัดเต็ม และระบบความปลอดภัยสูงสุดที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพล้ำกว่าเดิมเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายทุกขณะขับขี่มากขึ้น ผู้ขับขี่จะได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่สุดมันส์ทั้งหมดนี้ในแบบฉบับของเคทีเอ็มที่ไม่สามารถหาใครเปรียบได้”
นาย จิอานลูก้า ลอสซี่ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย เคทีเอ็ม ประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “เพื่อให้สอดคล้องกับปรัชญาของแบรนด์เคทีเอ็ม หรือ READY TO RACE ที่รถมอเตอร์ไซค์เคทีเอ็มทุกคันที่จัดจำหน่ายนั้นสามารถนำไปลงแข่งขันได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องปรับแต่งเครื่องยนต์ใดๆ ทางทีมพัฒนาและวิจัยของเคทีเอ็มได้นำมาต่อยอดและพัฒนาออกมาเป็นรถมอเตอร์ไซค์สำหรับลูกค้าผู้รักการขับขี่สไตล์สปอร์ตในทุกๆ ประเภท สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล แอดเวนเจอร์ 4 รุ่นใหม่ของปี 2017 นี้ ได้มีการพัฒนาจากโมเดลเดิมให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับการขับขี่แบบผจญภัยมากยิ่งขึ้น
สำหรับ KTM 1290 SUPER ADVENTURE R และ KTM 1290 SUPER ADVENTURE S นั้นเป็นโมเดลที่แยกออกมาจากโมเดลก่อนหน้าอย่าง KTM 1290 SUPER ADVENTURE โดยเครื่องยนต์ขนาด 1,301 ซีซี. 160 แรงม้า เครื่องยนต์ยังมีน้ำหนักเบาลงจากเครื่องยนต์เดิม 47 กรัม ทำให้ มีความคล่องตัวในการขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยมีน้ำหนักที่ลดลงอีก 5 และ 7 กก. สำหรับ KTM 1290 SUPER ADVENTURE R และ KTM 1290 SUPER ADVENTURE S ตามลำดับ เพิ่มความมั่นใจเต็มแรงบิดด้วยระบบเพิ่มความปลอดภัยแบบจัดเต็มไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมการขับขี่ Traction Control ระบบเบรกแบบ C-ABS ระบบตรวจสอบลมยาง และ Cornering Light ที่จะเพิ่มมุมการมองเห็นด้านข้างให้กว้างและความปลอดภัยในการขับขี่เวลากลางคืน และด้วยดีไซน์ใหม่ไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ หน้าปัดเรือนไมล์สีแบบใหม่ และผู้ขับขี่ยังสามารถติดตั้ง Travel Pack เพิ่มได้ ซึ่งประกอบไปด้วย Quickshifter, ระบบ MSR (Motor Slip Regulation), ระบบ HHC (Hill Hold Control) และ KTM MY RIDE ที่สามารถเชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟนเพื่อรับสายโทรศัพท์หรือฟังเพลงได้
ความแตกต่างของทั้ง 2 โมเดลข้างต้นนั้นอยู่ที่ความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดที่เหนือชั้นกว่าของ KTM 1290 SUPER ADVENTURE R ไม่ว่าจะเป็นล้อแบบซี่ลวด ยางแบบออฟโรด ยางหน้าขนาด 21 นิ้ว ยางหลังขนาด 18 นิ้ว ระบบช่วงล่างที่สามารถปรับได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ (Fully Adjustable) กันล้ม (Crash Bar) โหมดการขับขี่แบบออฟโรด และระบบ Cornering ABS ซึ่ง KTM 1290 SUPER ADVENTURE S นั้นมาพร้อมกับล้อแม็ก ยางหน้าขนาด 19 นิ้ว ยางหลังขนาด 17 นิ้ว ระบบช่วงล่างแบบเซมิแอคทีฟ ทั้งนี้ผู้ขับขี่สามารถติดตั้ง Offroad Pack เพื่อเพิ่มความสามารถแบบออฟโรดลงในรุ่น S ได้อีกด้วย
ส่วนของ KTM 1090 ADVENTURE R และ KTM 1090 ADVENTURE นั้นได้รับการพัฒนาจากโมเดลเดิมคือ 1050 ADVENTURE ถึงแม้ว่าจะมีปริมาตรความจุกระบอกสูบเท่าเดิมคือ 1,050 ซีซี. แต่เครื่องยนต์ก็ได้รับการพัฒนาให้มีกำลังแรงขึ้นจากเดิมอีก 30 แรงม้า เป็น 125 แรงม้า มาพร้อมกับสลิปเปอร์คลัตช์ และระบบควบคุมการขับขี่ Traction Control ระบบเบรก ABS และเพื่อความสะดวกสบายสูงสุดในการขับขี่แฮนด์และที่พักเท้าสามารถปรับระดับเพื่อให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ขับขี่ได้ หน้าปัดเรือนไมล์มัลติฟังก์ชั่นเป็นแบบ LCD นอกจากนี้ยังปราดเปรียวและคล่องแคล่วมากยิ่งขึ้นด้วยน้ำหนักที่เบา และยางล้อที่แคบลง
KTM 1090 ADVENTURE R นั้นเพิ่มสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นล้อแบบซี่ลวด ยางแบบออฟโรด ยางหน้าขนาด 21 นิ้ว ยางหลังขนาด 18 นิ้ว ระบบช่วงล่างที่สามารถปรับได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ (Fully Adjustable) กันล้ม (Crash Bar) โหมดการขับขี่แบบออฟโรด และระบบ Offroad ABS ซึ่ง KTM 1090 ADVENTURE นั้นมาพร้อมกับล้อแม็ก ยางหน้าขนาด 19 นิ้ว ยางหลังขนาด 17 นิ้ว ทั้งนี้ผู้ขับขี่สามารถติดตั้ง Offroad Pack เพื่อเพิ่มความสามารถแบบออฟโรดลงในรุ่น KTM 1090 ADVENTURE ได้อีกด้วย
สำหรับรถเคทีเอ็มแอดเวนเจอร์ 4 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะเริ่มจัดจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พร้อมรับประกันภัยชั้น 1 และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ( Road Side Assistance ) รวมระยะเวลา 2 ปี สนนราคาพิเศษช่วงแนะนำดังนี้
1090 ADVENTURE ราคา 999,900บาท
1090 ADVENTURE R ราคา 1,069,900 บาท
1290 SUPER ADVENTURE S ราคา 1,249,900 บาท
1290 SUPER ADVENTURE Rราคา 1,299,900บาท
ทั้งนี้ นายภูมินทร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ทางบริษัทฯ ได้จัดเตรียมกิจกรรมสำหรับลูกค้า KTM ไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม DUKEHANA ซึ่งเป็นการแข่งขันการขับขี่ทดสอบความเร็วในรูปแบบการแข่งขันแบบยิมคาน่า และกิจกรรมสุดมันส์สไตล์ READY TO RACE มากมายเพื่อเอาใจสาวกสีส้ม ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของเคทีเอ็มได้ที่เฟซบุ๊ค facebook.com/KTMThailandOfficial และ อินสตาแกรม @KTMThailand”