ข่าวในประเทศ - ฟอร์ด มองภาพสวย คาดตลาดรถยนต์รวมแตะถึง 850,000 คัน เหตุเศรษฐกิจดีขึ้น กำลังซื้อกลับมา เป็นปลื้มแม้ไม่มีรถใหม่แต่ยอดขายโตสุด 41% พร้อมครองแชร์ถึง 6.23% ทุ่มทุนย้ายคลังอะไหล่ พร้อมออกแคมเปญให้บริการทันใจเสร็จภายใน 1 ชั่วโมง หากทำไม่ทันเวลา ลูกค้าไม่ต้องจ่ายเงินสักบาท ส่วนรถไฟฟ้ามีความพร้อมรอรัฐชัดเจน
นายณรงค์ สีตลายน รองกรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดรถยนต์รวมครึ่งปีที่ผ่านมามียอดขายถึง 410,000 คัน โดยปกติครึ่งปีหลังจะมียอดขายมากกว่าครึ่งปีแรกจึงคาดว่าทั้งปี 2560 นี้ตลาดรถยนต์รวมของประเทศไทยจะทำยอดขายได้ถึง 850,000 คัน หรืออย่างน้อยที่สุดคือ 830,000 คัน
ในส่วนของยอดขายรถยนต์ฟอร์ดครึ่งปีแรก มีจำนวนทั้งสิ้น 25,513 คัน เติบโตสูงขึ้นถึง 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 6.23% มาจากยอดขายที่เติบโตขึ้นของ ปิกอัพฟอร์ดเรนเจอร์, ฟอร์ด เอเวอเรสต์ และ ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต
“การเติบโตของตลาดรวมปัจจัยหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประกอบกับผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น รวมถึงการที่ค่ายรถยนต์ต่างเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้เราจะไม่มีรถรุ่นใหม่ แต่การทำตลาดแบบเข้าถึงตัวลูกค้าของฟอร์ดทำให้เรามียอดขายที่เติบโตได้อย่างน่าประทับใจ” นายณรงค์ กล่าว
สำหรับกลยุทธ์ในการทำตลาดช่วงครึ่งปีหลัง มีการลงทุนย้ายศูนย์การกระจายอะไหล่แห่งใหม่ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจของฟอร์ด รวมถึงการเพิ่มและปรับปรุงโชว์รูม จาก 140 แห่งกลายเป็น 145 แห่ง โดยมีการเพิ่มโชว์รูมขนาดเล็กที่สามารถรองรับงานซ่อมได้ ประจำอำเภอต่างๆ ช่วยให้บริการลูกค้าได้มากขึ้น
“ฟอร์ด เตรียมเปิดการให้บริการครบทั้ง 7 วันในสัปดาห์ พร้อมเพิ่มบริการเช็คระยะทันใจ รอรับได้ทันทีและ บริการ “Express Service 60 Minutes Guaranteed ผ่านOnline Booking” ครอบคลุม16 จังหวัด 27 โชว์รูม ให้ลูกค้าที่แจ้งจองล่วงหน้าจะสามารถรับบริการแล้วเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมง หากเกินเวลา ลูกค้าไม่ต้องชำระค่าบริการครั้งนั้น ทุกอย่างฟรีทันที โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2560 เป็นต้นไป” นายณรงค์กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้านั้น ทางฟอร์ดมีผลิตภัณฑ์ที่พร้อมรองรับความต้องการของตลาด ขณะนี้รอเพียงความชัดเจนจากภาครัฐ ว่ามีนโยบายอย่างไร ซึ่งฟอร์ดมองไปถึงอนาคตที่จะมาพร้อมกับการให้บริการด้วยในชื่อของ Smart Moblity ที่ครอบคลุมเครือข่ายทั้งภูมิภาค
สำหรับความคืบหน้ากรณีรถยนต์ฟอร์ดที่มีปัญหา เมื่อช่วงไตรมาสแรกมีเคสค้างอยู่ที่ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค 187 เคส ปัจจุบันเหลือเพียง 2 เคสเท่านั้น ที่ยังไม่ปิด นอกนั้นทางฟอร์ดเจรจาจนได้ข้อยุติหมดแล้ว ส่วนคดีที่มีการรวมตัวฟ้องร้องกันของผู้ใช้รถฟอร์ดนั้น ยังอยู่ในกระบวนการขั้นตอนของศาล
นายณรงค์ สีตลายน รองกรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดรถยนต์รวมครึ่งปีที่ผ่านมามียอดขายถึง 410,000 คัน โดยปกติครึ่งปีหลังจะมียอดขายมากกว่าครึ่งปีแรกจึงคาดว่าทั้งปี 2560 นี้ตลาดรถยนต์รวมของประเทศไทยจะทำยอดขายได้ถึง 850,000 คัน หรืออย่างน้อยที่สุดคือ 830,000 คัน
ในส่วนของยอดขายรถยนต์ฟอร์ดครึ่งปีแรก มีจำนวนทั้งสิ้น 25,513 คัน เติบโตสูงขึ้นถึง 41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 6.23% มาจากยอดขายที่เติบโตขึ้นของ ปิกอัพฟอร์ดเรนเจอร์, ฟอร์ด เอเวอเรสต์ และ ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต
“การเติบโตของตลาดรวมปัจจัยหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ประกอบกับผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้น รวมถึงการที่ค่ายรถยนต์ต่างเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง แม้เราจะไม่มีรถรุ่นใหม่ แต่การทำตลาดแบบเข้าถึงตัวลูกค้าของฟอร์ดทำให้เรามียอดขายที่เติบโตได้อย่างน่าประทับใจ” นายณรงค์ กล่าว
สำหรับกลยุทธ์ในการทำตลาดช่วงครึ่งปีหลัง มีการลงทุนย้ายศูนย์การกระจายอะไหล่แห่งใหม่ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจของฟอร์ด รวมถึงการเพิ่มและปรับปรุงโชว์รูม จาก 140 แห่งกลายเป็น 145 แห่ง โดยมีการเพิ่มโชว์รูมขนาดเล็กที่สามารถรองรับงานซ่อมได้ ประจำอำเภอต่างๆ ช่วยให้บริการลูกค้าได้มากขึ้น
“ฟอร์ด เตรียมเปิดการให้บริการครบทั้ง 7 วันในสัปดาห์ พร้อมเพิ่มบริการเช็คระยะทันใจ รอรับได้ทันทีและ บริการ “Express Service 60 Minutes Guaranteed ผ่านOnline Booking” ครอบคลุม16 จังหวัด 27 โชว์รูม ให้ลูกค้าที่แจ้งจองล่วงหน้าจะสามารถรับบริการแล้วเสร็จภายในหนึ่งชั่วโมง หากเกินเวลา ลูกค้าไม่ต้องชำระค่าบริการครั้งนั้น ทุกอย่างฟรีทันที โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2560 เป็นต้นไป” นายณรงค์กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้านั้น ทางฟอร์ดมีผลิตภัณฑ์ที่พร้อมรองรับความต้องการของตลาด ขณะนี้รอเพียงความชัดเจนจากภาครัฐ ว่ามีนโยบายอย่างไร ซึ่งฟอร์ดมองไปถึงอนาคตที่จะมาพร้อมกับการให้บริการด้วยในชื่อของ Smart Moblity ที่ครอบคลุมเครือข่ายทั้งภูมิภาค
สำหรับความคืบหน้ากรณีรถยนต์ฟอร์ดที่มีปัญหา เมื่อช่วงไตรมาสแรกมีเคสค้างอยู่ที่ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค 187 เคส ปัจจุบันเหลือเพียง 2 เคสเท่านั้น ที่ยังไม่ปิด นอกนั้นทางฟอร์ดเจรจาจนได้ข้อยุติหมดแล้ว ส่วนคดีที่มีการรวมตัวฟ้องร้องกันของผู้ใช้รถฟอร์ดนั้น ยังอยู่ในกระบวนการขั้นตอนของศาล
