บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ในประเทศไทย จัดทริปชวนลูกค้าบิดสองล้อข้ามประเทศ จากไทยสู่ สปป.ลาว ภายใต้ชื่อกิจกรรม “Asian Xperience The Privilege Travel” โดยใช้เส้นทางเริ่มต้นที่จังหวัดอุดรธานี ก่อนมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางที่หลวงพระบาง รวมระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร ระหว่างวันที่ 23-25 มิถุนายน ที่ผ่านมา
สำหรับการเดินทางครั้งนี้มีผู้ร่วมเปิดประสบการณ์ความตื่นเต้น จากเดิมที่ค่ายปีกนกเปิดรับสมัครในจำนวนจำกัดอยู่ที่ 60 คัน แต่ด้วยความน่าสนใจและเป็นทริปใหญ่แห่งปี อีกทั้งบริษัทแม่ยังเข้ามาดูแลเอาใจใส่และให้บริการลูกค้าด้วยตัวเอง สุดท้ายจึงมีผู้สมัครเกินโควต้าทะลุไปถึงเกือบ 80 คัน
แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะค่ายผู้นำยอดขายสองล้อในเมืองไทยติดต่อกัน 28 ปีซ้อน เอาอยู่!
เริ่มต้นการเดินทางวันแรก ขบวนบิ๊กไบค์หลากหลายรุ่นรวมพลกันที่ศูนย์ฮอนด้าบิ๊กวิง จังหวัดอุดรธานี โดยก่อนล้อหมุนทางผู้นำการขับขี่ตลอดทริป หรือก็คือครูฝึกสอนทักษะจากศูนย์ขับขี่ปลอดภัย นำวอร์มอบอุ่นร่างกาย และเมื่อทุกอย่างพร้อมจึงค่อยเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าสู่จุดข้ามแดนที่จังหวัดหนองคาย ก่อนวิ่งข้ามสะพานมิตรภาพไทยลาว ตามด้วยช่วงการขับขี่เล่นโค้ง กินลมชมวิว และเข้าพักในโรงแรม Silver Naga Hotel ที่วังเวียง ตามลำดับ
วันต่อมายังคงต่อเนื่องกับการขับขี่สองล้อชมวิวทิวทัศน์ตลอดสองข้างทาง โดยเฉพาะฝั่งติดแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นดินแดนแห่งขุนเขาและสายน้ำอันงดงาม ถึงขนาดได้รับการตั้งสมญานามให้เป็นกุ้ยหลินเมืองลาว เมืองชนบทชวนพักการตากอากาศที่เสมือนสวรรค์บนดินสำหรับนักท่องเที่ยวเลยทีเดียว
โดยก่อนถึงที่พัก Grand Luang Prabangในวันนี้ พวกเรายังได้เช็กอินแลนด์มาร์กที่ผู้มาเยือนวังเวียงห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง นั่นคือ สระมรกตหรือ Blue Lagoon ชมความน่าอัศจรรย์ของน้ำภายในสระเป็นสีเขียวเจือฟ้าอ่อน สวยแปลกตาไปอีกแบบ ส่วนใครจะเก็บความประทับใจด้วยตาเฉยๆ หรือจะโดดลงไปเล่นสัมผัสถึงในสระก็เลือกได้ตามสะดวก
ก่อนที่ในวันสุดท้ายจะปิดฉากการเดินทางของคาราวานบิ๊กไบค์กันที่เมืองมรดกโลก “หลวงพระบาง” เมืองเล็กแต่มีเสน่ห์มากล้น รายล้อมไปด้วยศิลปวัฒนธรรมและธรรมชาติที่งดงาม
และที่สำคัญผู้คนที่นี่ก็มีอัธยาศัยดี ไปไหนทักทายกันตลอดว่า “สะบายดี” ซึ่งมีความหมายเหมือนกับคำว่า “สวัสดี” ในภาษาไทยของเรานั่นเอง.
X-ADV บิ๊กสกู๊ตเตอร์อเนกประสงค์
ฮอนด้า เอ็กซ์-เอดีวี (X-ADV) เพิ่งเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา พร้อมทำตลาดด้วยราคา 415,000 บาท และสำหรับในทริปนี้จากสภาพเส้นทางที่เหมาะสมกับลักษณะของการใช้งาน ค่ายปีกนกจึงถือโอกาสนำโมเดลใหม่ล่าสุดมาให้สื่อมวลชนได้ทดสอบขับขี่กันด้วย
กล่าวถึงรูปแบบตัวรถหากมองจากโครงสร้างภายนอก หลายคนน่าจะเข้าใจว่าเจ้านี่คือ อีกหนึ่งตัวเลือกใหม่ในกลุ่มบิ๊กสกู๊ตเตอร์-ใช่ แต่ไม่ทั้งหมด เพราะที่มากกว่านั้นฮอนด้าพยายามสื่อสารจุดขายที่เหนือกว่า จากความสามารถในการตอบสนองการใช้งานในทางฝุ่น หรือแบบออฟโร้ดได้ในระดับหนึ่งด้วย ตรงตามแนวคิดของการพัฒนาที่ว่า Go Everywhere with Excited feeling
เหนืออื่นใดเจ้าของผลิตภัณฑ์ยังย้ำภาพของความอเนกประสงค์ให้ชัดเจนขึ้น ด้วยการจัดอยู่ในหมวดหมู่รถแอดเวนเจอร์อีกด้วย ส่วนจะตอบโจทย์ได้โดนใจขนาดไหน หลังการเดินทางเป็นระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร ในทริปนี้ได้ให้คำตอบกับเราแล้วว่าสามารถใช้ลุยบุกฝ่าอุปสรรคในสภาพเส้นทางที่หลากหลายได้จริง โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ความสบายของท่านั่ง แม้พื้นที่พักเท้าจะเล็กไปหน่อยก็ตาม
ขณะที่ขุมพลังเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบ ขนาด 750 ซีซี. พร้อมเทคโนโลยีการส่งกำลังด้วยระบบ DCT แบบคลัตซ์คู่ ให้สมรรถนะที่ดีเยี่ยม อัตราเร่งมีความรวดเร็วฉับไว จังหวะเปลี่ยนเกียร์เลือกได้ว่าจะใช้ระบบออโต ในโหมดดี-ทั่วไป หรือ เอส-แบบสปอร์ต รวมถึงแบบแมนน่วล-เปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง เรียกว่าให้ทั้งความสะดวกสบายและความเร้าใจในเวลาเดียวกัน.
