xs
xsm
sm
md
lg

โฟล์คสวาเกนคุยอีก8ปีเขี่ยเทสลา ขึ้นแท่นผู้นำตลาดรถไฟฟ้าตัวจริง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไอ.ดี. บัซซ์ คอนเซ็ปท์คาร์ที่เป็นหนึ่งในความหวังในการพิชิตตลาดรถไฟฟ้าโลกของโฟล์คสวาเกน
นายใหญ่โฟล์คสวาเกนประกาศอย่างมั่นใจ เทสลาเป็นแค่ผู้นำชั่วคราว เพราะนับจากกลางทศวรรษหน้าเป็นต้นไป บริษัทจะก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกตัวจริงทั้งในเซ็กชันรถหรูและตลาดมวลชน ย้ำทุกอย่างที่เทสลาทำได้ VW จะทำได้ดีกว่า

เฮอร์เบิร์ต ดิสส์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (ซีอีโอ) โฟล์คสวาเกน เปิดเผยกลางงานแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่ในเยอรมนีเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้วว่า บริษัทมีแผนทำยอดขายรถไฟฟ้าให้ได้ปีละ 1 ล้านคันในปี 2025

สำหรับเทสลา บริษัทรถไฟฟ้าอันดับ 1 ของอเมริกา ทำยอดขายปีที่แล้วได้ 80,000 คัน และตั้งเป้าเพิ่มยอดเป็นปีละ 200,000 คันในปีนี้, 500,000 คันในปี 2018 และ 1 ล้านคันในปี 2020

ดิสส์ย้ำว่า ทุกอย่างที่เทสลาทำได้ โฟล์คสวาเกนจะทำได้ดีกว่า
“เรามั่นใจว่า ในโลกใบใหม่นี้ เราจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาด” และเป้าหมายของดิสส์ไม่ใช่แค่ตลาดรถไฟฟ้าส่วนรถหรูที่เทสลาเป็นผู้นำอยู่ตอนนี้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงตลาดมวลชนด้วย

ปัจจุบัน VW เป็นแบรนด์ใหญ่ที่สุดในโฟล์คสวาเกน กรุ๊ปที่มีทั้งหมด 12 แบรนด์ อาทิ ออดี้และปอร์เช่ ที่ต่างเดินหน้าพัฒนารถไฟฟ้าเช่นเดียวกัน

เบื้องหลังความมั่นใจของดิสส์ คือเมกะแพล็ตฟอร์ม MQB (Modularer Querbaukasten หรือ Modular Transverse Matrix) ซึ่งเป็นพื้นที่ติดตั้งแบบโมดูลแนวขวาง ซึ่งจะทำให้รถยนต์ขนาดเล็กและกลางนับสิบรุ่น ทุกแบบ และทุกแบรนด์ในเครือ สามารถใช้ชิ้นส่วน เทคโนโลยี และกระทั่งลำดับการประกอบร่วมกัน

โฟล์คสวาเกนคาดว่า จะสามารถผลิตรถได้ถึง 4 ล้านคันจากกำลังการผลิตทั่วโลก 10 ล้านคันด้วยแพล็ตฟอร์ม MQB

VW วางตำแหน่งเทสลาเป็นคู่แข่งที่ต้องจัดการอย่างจริงจัง และวางแผนเผด็จศึกจากข้อเท็จจริงที่ว่า เทสลาแจ้งเกิดจากการผลิตรถไฟฟ้าหรูและกำลังขยับทำราคาลงครึ่งหนึ่งของโมเดล S ซึ่งเป็นรถไฟฟ้ารุ่นที่ 2 โดยเตรียมส่งโมเดล 3 ลงตลาดในราคาเริ่มต้นที่ 35,000 ดอลลาร์ (1,200,000 บาทโดยประมาณ) วิ่งได้ระยะทางมากกว่า 320 กิโลเมตร และเริ่มเข้าสู่ตลาดมวลชนในช่วงฤดูร้อนนี้

แผนการของดิสส์คือ ใช้ความได้เปรียบด้านต้นทุนจาก MQB ที่เทสลาไม่มีทางทำได้ เพื่อผลิตรถไฟฟ้าออกขายในราคาต่ำกว่า 30,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 1 ล้านบาท)

แม้ยังไม่ได้เริ่มจำหน่ายรถไฟฟ้าเป็นล่ำเป็นสันเหมือนเทสลาจนกว่าจะถึงปี 2019 หรือ 2020 แต่ช่วงหลายปีมานี้โฟล์คสวาเกนทยอยเปิดตัวต้นแบบรถไฟฟ้าออกมาหลายรุ่น ซึ่งรวมถึงไอ.ดี. บัซซ์ ที่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากจากการนำแคมเปอร์แวนสุดคลาสสิกมาดัดแปลงใหม่ออกแนวฮิปสเตอร์มากขึ้น

นอกจากนั้น VW ยังนำรถไฟฟ้าลงตลาดในจำนวนจำกัด 2 รุ่นคือ โฟล์ค อี-อัพ ซึ่งเป็นรถเล็กสำหรับตลาดยุโรป และอี-กอล์ฟ หรือกอล์ฟรุ่น 7 เวอร์ชันไฟฟ้าที่บริษัทคุยว่า มีระยะทางขับเคลื่อนถึง 200 กิโลเมตร ไกลกว่ารถไฟฟ้าของทุกค่ายยกเว้นเทสลาและเชฟโรเล็ต โบลต์ อีวี

ขณะเดียวกัน แม้เป็น 1 ใน 3 ค่ายรถใหญ่ที่สุดของโลก โดยอีกสองแห่งคือ เจเนอรัล มอเตอร์ และโตโยต้า มอเตอร์ แต่โฟล์คสวาเกน กรุ๊ป ยังล้าหลังเรื่องศักยภาพการทำกำไร

การฟื้นส่วนต่างกำไรภายในปี 2020 ด้วยการลดต้นทุนจึงเป็นเป้าหมายสำคัญอันดับแรกสำหรับบริษัทที่เพิ่งผ่านพ้นเรื่องอื้อฉาวครั้งมโหฬารจากการโกงค่าไอเสียแห่งนี้

จากนั้น ระหว่างปี 2020-2025 VW จะโฟกัสที่การเป็นผู้นำในตลาดรถไฟฟ้าและคอนเน็กต์คาร์ พร้อมไปกับการเพิ่มส่วนต่างกำไร

ดิสส์บอกว่า โฟล์คสวาเกนจะขึ้นสายการผลิตรถไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2019 รุ่นแรกคือออดี้ อี-ทรอน ตามด้วยโฟล์คสวาเกน ไอ.ดี. หรือกอฟต์แบบ 5 ประตูในปีถัดไป จากนั้นจึงจะถึงคิวเอสยูวีอีก 2 รุ่น

เขายังเชื่อมั่นว่า ความแข็งแกร่งจากโครงการร่วมทุนในจีนซึ่งเป็นตลาดรถไฟฟ้าใหญ่ที่สุดของโลก จะทำให้บริษัทมีข้อได้เปรียบจากขนาดที่จำเป็นสำหรับการเปิดตัวรถไฟฟ้าในราคาต่ำกว่าโมเดล 3 ของเทสลา

จีนเป็นตลาดรถไฟฟ้าที่สำคัญของ VW หลังจากที่บริษัทยึดครองตลาดรถยนต์นั่งแดนมังกรอยู่หมัดผ่านโครงการร่วมทุนกับเฟิร์สต์ ออโต้ เวิร์กส์ และเอสเอไอซี มอเตอร์ โครงการร่วมทุนเหล่านี้ผลิตรถ 3 ล้านคันจากโรงงาน 9 แห่งในจีนในปีที่ผ่านมา และไอ.ดี. ครอสส์ เอสยูวี ที่โฟล์คสวาเกนนำไปโชว์ในงานเซี่ยงไฮ้ ออโต้ โชว์เมื่อปลายเดือนที่แล้ว จะเป็นรถไฟฟ้ารุ่นเรือธงของบริษัทในตลาดจีนเริ่มตั้งแต่ปี 2020

ดิสส์บอกว่า จะเพิ่มการผลิตรถไฟฟ้าในจีนที่ให้การต้อนรับยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อมนี้อย่างดีเป็นปีละ 1.5 ล้านคัน

ในส่วนเทสลานั้นไม่มีหุ้นส่วนการผลิตในจีน แม้เมื่อไม่นานมานี้ เท็นเซนต์ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่แดนมังกร เพิ่งเข้าซื้อหุ้น 5% ในเทสลาก็ตาม

ยิ่งไปกว่านั้น พันธมิตรของโฟล์คสวาเกนในจีนยังไม่ได้ช่วยส่งเสริมด้านการผลิตเท่านั้น แต่ทั้งสองแห่งล้วนเป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จทางการเงิน และโครงการร่วมทุนของ VW ในจีนมีเงินลงทุนในปีนี้มากกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์

“ทั้งหมดนี้ทำให้เรามั่นใจมากว่า เราสามารถหยุดยั้งการเติบโตของเทสลาในตลาดมวลชนได้ เพราะเรามีทั้งสถานะที่แข็งแกร่งกว่าหลายเท่า และยังมีศักยภาพในการประสบความสำเร็จจากการประหยัดจากขนาด” ซีอีโอ VW ยืนยันตบท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น