เปิดแผน “โฟตอน” ลุยเมืองไทย ตั้งเป้าหมายทำยอดขายถึง 40,000 คันทั้งขายในประเทศและส่งออก ภายในระยะเวลา 5 ปี พร้อมลงทุนเพิ่มกว่า 300 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตเพื่อส่งออก สำหรับยอดขายปีนี้หวัง 2,800 คัน หลังเริ่มส่งมอบ “ทูนแลนด์” ได้ในเดือนนี้ คาดยอดขายถึง 1,400 คันสำหรับปิกอัพ แย้มสนใจรถเอสยูวี ขนาดกลาง อีก 2 ปี อาจะได้เห็นตัวจริง
การเข้ามาเปิดตัวเป็นรถปิกอัพลำดับที่ 9 ของ “โฟตอน ทูนแลนด์” ปิกอัพน้องใหม่ล่าสุดของวงการรถเพื่อการพาณิชย์ของไทย นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการเลือกหารถปิกอัพไว้ใช้งาน ซึ่ง“นายชวศม สุทัศน์ ณ อยุธยา ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท โฟตอน ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงาน และแนวคิดต่างๆ ของค่าย โฟตอนนับจากนี้เป็นต้นไปว่าจะเดินไปในทิศทางใด
“เป้าหมายยอดขายปี 2560 นี้ โฟตอนวางไว้ 2,800 คัน โดยมีสัดส่วนรถปิกอัพ 50% หรือราว 1,400 คัน และที่เหลือ 50%แบ่งเป็นรถตู้กับรถบรรทุก ส่วนยอดขายปีที่แล้ว เพิ่งเริ่มขายในช่วงครึ่งปีหลังมียอดราว 500-600 คัน” คำกล่าวของนายชวศม ถึงเป้าหมายแรกของโฟตอนออโตโมบิล ในเมืองไทย
ส่วนยอดขายช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมาของปีนี้ โฟตอนมียอดประมาณ 200-300 คัน ยังไม่โดดเด่น เนื่องจากรถปิกอัพยังไม่เสร็จจะเริ่มทยอยส่งมอบได้ในเดือนนี้ ยอดขายหลักจึงเป็นของรถตู้ 60% กับรถบรรทุก 4-6 ล้อ 40% โดยกลุ่มลูกค้ารถตู้เป็นผู้ที่ใช้งานส่วนตัว เช่น รถตู้โรงเรียน บริษัททัวร์ พวกฟลีตท่องเที่ยว
สำหรับกลุ่มเป้าหมายรถปิกอัพ “ทูนแลนด์”มี 2 แบบตามชนิดของรถคือ แบบหัวเดียวเพื่อการบรรทุกโดยเฉพาะ เจาะกลุ่มตลาดเน้นบรรทุกขนส่งเพื่อการค้า และอีกรุ่นคือแบบ 4 ประตูจะเน้นเรื่องของผู้ที่ใช้งานแบบส่วนตัว โดยวางราคาไว้ ต่ำกว่าคู่แข่งราว 1 แสนกว่าบาท ซึ่งปัจจุบันมีแต่รุ่นเกียร์ธรรมดา โดยรุ่นเกียร์ออโต้ จะเริ่มทำตลาดได้ปลายปีนี้ ราคาจะขยับขึ้นไม่เกิน 40,000 บาท เมื่อเทียบกับรุ่นเกียร์ธรรมดา
นายชวศม กล่าวว่า ยอดจองในมอเตอร์ เอ็กซ์โป มีกระแสตอบรับดี คือมียอดจองราว 50-60 คัน แต่ประสบปัญหาเรื่องของการผลิตล่าช้า ทำให้ลูกค้ารอถึง 6 เดือน อาจจะมีบางส่วนเปลี่ยนใจไป ดังนั้น เมื่อมีการส่งมอบรถให้ลูกค้าโฟตอนจะเริ่มเก็บข้อมูลด้านความพึงพอใจและการใช้งานจากลูกค้าควบคู่ไปด้วย
ลูกค้าส่วนมากอยู่ในกรุงเทพฯ และทางภาคใต้ เพราะที่มาเลย์เซีย โฟตอนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดีในระดับนึง เราเป็นแบรนด์จีน แบรนด์แรกที่ขายในชื่อว่าเป็นแบรนด์จีน โดยเราต้องทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและวางใจได้ โดยมอบการรับประกัน 5 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร เพราะมั่นใจในพาร์ตเนอร์ของเรา เช่น คัมมินส์,เกตแรก และบ้อช” นายชวศม กล่าว
สำหรับเครือข่ายการขายหรือดีลเลอร์ ปัจจุบันโฟตอนมี 19 แห่ง จะขยายเพิ่มเป็น 40 แห่งในสิ้นปีนี้ โดยจะเน้นภาคอีสาน และตะวันออกก่อน โดยที่นครราชสีมาเพิ่งจะมีโชว์รูมและศูนย์บริการโฟตอนเป็นแห่งแรก การใช้แบรนด์อื่นเข้ามาช่วย จะทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ แต่คงต้องใช้เวลา 3-5 ปี ในการปั้นแบรนด์ให้ลูกค้ายอมรับ
ในส่วนของ กำลังการผลิตปัจจุบันโรงงานของโฟตอนสามารถผลิตได้สูงสุด 5,000 คัน ซึ่งประเทศไทย ถือเป็นฮับของรถปิกอัพพวงมาลัยขวา ที่โฟตอนวางแผนผลิตเพื่อขายในภูมิภาคนี้ รวมถึง ออสเตรเลีย และแอฟริกาใต้
“ผู้ผลิตชิ้นส่วนสำหรับการผลิตรถพวงมาลัยขวาที่ดีที่สุดในโลกอยู่รวมกันที่ประเทศไทยดังนั้นไม่ว่าค่ายใดที่คิดจะผลิตรถพวงมาลัยขวาจึงเลือกที่จะมาประกอบในไทย ดูตัวอย่าง มิตซูบิชิ นิสสัน เชฟโรเลต เป็นต้น ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะพวงมาลัยขวาทั้งสิ้น” นายชวศมกล่าว
ขณะที่รถยนต์รุ่นใหม่ ทางโฟตอน มีแผนนำ รถเอสยูวี ขนาดกลาง วางเครื่องคัมมิ่น 2.8 ลิตรตัวเดียวกับที่ใช้ในปิกอัพ ทูนแลนด์ เข้ามาทำตลาด โดยจะขึ้นไลน์ประกอบในประเทศแน่นอนคาดว่าภายใน 2 ปี โดยจะรอให้รถเปลี่ยนโฉมใหม่ก่อนจึงจะเปิดตัวโดยรถยนต์รุ่นนี้ จุดเด่นอยู่ที่ความทนทาน
นอกจากนั้น โฟตอนกำลังศึกษาเรื่องการทำลิสซิ่ง ด้วยตัวเอง พร้อมกับวางเป้าเป็นบริษัทจีนรายแรกที่จะมีลิสซิ่งเป็นของตัวเอง โดยปัจจุบันร่วมมือกับ เคลิสซิ่งและธนชาติ ในการให้สินเชื่อ และจะทำรถมือสองเพื่อพยุงราคาขายในท้องตลาดอีกด้วย
สำหรับการลงทุนปีที่แล้วใช้งบประมาณไปราว 300 ล้านบาท และคาดว่าจะลงทุนเพิ่มอีกกว่า 300 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิดสำหรับส่งออก ภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะมีผลิตรวมทั้งขายในประเทศและส่งออกคือ 40,000 คันต่อปี ด้วยสัดส่วนการขายแบบ 50-50
“แนวคิดปิกอัพแบบไฮบริด คาดว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะไม่มีค่ายไหนสนใจอย่างจริงจังนอกจาก อีซูซุ ซึ่งมองแล้วว่า น่าจะทำเพิ่อมาใส่ในรุ่น มิวเอ็กซ์มากกว่า สิ่งสำคัญในอนาคตคือ มาตรฐานไอเสียใหม่ในปี 2020 ซึ่งรัฐบาลประกาศว่าจะเลือก ยูโร 5 หรือ 6”
ทั้งนี้ นายชวศม กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ปลายปีนี้เตรียมเปิดตัวรถหัวลากรุ่นใหม่“ซุปเปอร์ทรัค” จากจีน ซึ่งพัฒนาร่วมกันกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เนื่องจาก อีกไม่นาน สิทธิ์การขายรถหัวลากจะกลับมายังโฟตอน เนื่องจากกลุ่มตันจงหมดสัญญา
การเข้ามาเปิดตัวเป็นรถปิกอัพลำดับที่ 9 ของ “โฟตอน ทูนแลนด์” ปิกอัพน้องใหม่ล่าสุดของวงการรถเพื่อการพาณิชย์ของไทย นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการเลือกหารถปิกอัพไว้ใช้งาน ซึ่ง“นายชวศม สุทัศน์ ณ อยุธยา ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท โฟตอน ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงาน และแนวคิดต่างๆ ของค่าย โฟตอนนับจากนี้เป็นต้นไปว่าจะเดินไปในทิศทางใด
“เป้าหมายยอดขายปี 2560 นี้ โฟตอนวางไว้ 2,800 คัน โดยมีสัดส่วนรถปิกอัพ 50% หรือราว 1,400 คัน และที่เหลือ 50%แบ่งเป็นรถตู้กับรถบรรทุก ส่วนยอดขายปีที่แล้ว เพิ่งเริ่มขายในช่วงครึ่งปีหลังมียอดราว 500-600 คัน” คำกล่าวของนายชวศม ถึงเป้าหมายแรกของโฟตอนออโตโมบิล ในเมืองไทย
ส่วนยอดขายช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมาของปีนี้ โฟตอนมียอดประมาณ 200-300 คัน ยังไม่โดดเด่น เนื่องจากรถปิกอัพยังไม่เสร็จจะเริ่มทยอยส่งมอบได้ในเดือนนี้ ยอดขายหลักจึงเป็นของรถตู้ 60% กับรถบรรทุก 4-6 ล้อ 40% โดยกลุ่มลูกค้ารถตู้เป็นผู้ที่ใช้งานส่วนตัว เช่น รถตู้โรงเรียน บริษัททัวร์ พวกฟลีตท่องเที่ยว
สำหรับกลุ่มเป้าหมายรถปิกอัพ “ทูนแลนด์”มี 2 แบบตามชนิดของรถคือ แบบหัวเดียวเพื่อการบรรทุกโดยเฉพาะ เจาะกลุ่มตลาดเน้นบรรทุกขนส่งเพื่อการค้า และอีกรุ่นคือแบบ 4 ประตูจะเน้นเรื่องของผู้ที่ใช้งานแบบส่วนตัว โดยวางราคาไว้ ต่ำกว่าคู่แข่งราว 1 แสนกว่าบาท ซึ่งปัจจุบันมีแต่รุ่นเกียร์ธรรมดา โดยรุ่นเกียร์ออโต้ จะเริ่มทำตลาดได้ปลายปีนี้ ราคาจะขยับขึ้นไม่เกิน 40,000 บาท เมื่อเทียบกับรุ่นเกียร์ธรรมดา
นายชวศม กล่าวว่า ยอดจองในมอเตอร์ เอ็กซ์โป มีกระแสตอบรับดี คือมียอดจองราว 50-60 คัน แต่ประสบปัญหาเรื่องของการผลิตล่าช้า ทำให้ลูกค้ารอถึง 6 เดือน อาจจะมีบางส่วนเปลี่ยนใจไป ดังนั้น เมื่อมีการส่งมอบรถให้ลูกค้าโฟตอนจะเริ่มเก็บข้อมูลด้านความพึงพอใจและการใช้งานจากลูกค้าควบคู่ไปด้วย
ลูกค้าส่วนมากอยู่ในกรุงเทพฯ และทางภาคใต้ เพราะที่มาเลย์เซีย โฟตอนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดีในระดับนึง เราเป็นแบรนด์จีน แบรนด์แรกที่ขายในชื่อว่าเป็นแบรนด์จีน โดยเราต้องทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและวางใจได้ โดยมอบการรับประกัน 5 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร เพราะมั่นใจในพาร์ตเนอร์ของเรา เช่น คัมมินส์,เกตแรก และบ้อช” นายชวศม กล่าว
สำหรับเครือข่ายการขายหรือดีลเลอร์ ปัจจุบันโฟตอนมี 19 แห่ง จะขยายเพิ่มเป็น 40 แห่งในสิ้นปีนี้ โดยจะเน้นภาคอีสาน และตะวันออกก่อน โดยที่นครราชสีมาเพิ่งจะมีโชว์รูมและศูนย์บริการโฟตอนเป็นแห่งแรก การใช้แบรนด์อื่นเข้ามาช่วย จะทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ แต่คงต้องใช้เวลา 3-5 ปี ในการปั้นแบรนด์ให้ลูกค้ายอมรับ
ในส่วนของ กำลังการผลิตปัจจุบันโรงงานของโฟตอนสามารถผลิตได้สูงสุด 5,000 คัน ซึ่งประเทศไทย ถือเป็นฮับของรถปิกอัพพวงมาลัยขวา ที่โฟตอนวางแผนผลิตเพื่อขายในภูมิภาคนี้ รวมถึง ออสเตรเลีย และแอฟริกาใต้
“ผู้ผลิตชิ้นส่วนสำหรับการผลิตรถพวงมาลัยขวาที่ดีที่สุดในโลกอยู่รวมกันที่ประเทศไทยดังนั้นไม่ว่าค่ายใดที่คิดจะผลิตรถพวงมาลัยขวาจึงเลือกที่จะมาประกอบในไทย ดูตัวอย่าง มิตซูบิชิ นิสสัน เชฟโรเลต เป็นต้น ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะพวงมาลัยขวาทั้งสิ้น” นายชวศมกล่าว
ขณะที่รถยนต์รุ่นใหม่ ทางโฟตอน มีแผนนำ รถเอสยูวี ขนาดกลาง วางเครื่องคัมมิ่น 2.8 ลิตรตัวเดียวกับที่ใช้ในปิกอัพ ทูนแลนด์ เข้ามาทำตลาด โดยจะขึ้นไลน์ประกอบในประเทศแน่นอนคาดว่าภายใน 2 ปี โดยจะรอให้รถเปลี่ยนโฉมใหม่ก่อนจึงจะเปิดตัวโดยรถยนต์รุ่นนี้ จุดเด่นอยู่ที่ความทนทาน
นอกจากนั้น โฟตอนกำลังศึกษาเรื่องการทำลิสซิ่ง ด้วยตัวเอง พร้อมกับวางเป้าเป็นบริษัทจีนรายแรกที่จะมีลิสซิ่งเป็นของตัวเอง โดยปัจจุบันร่วมมือกับ เคลิสซิ่งและธนชาติ ในการให้สินเชื่อ และจะทำรถมือสองเพื่อพยุงราคาขายในท้องตลาดอีกด้วย
สำหรับการลงทุนปีที่แล้วใช้งบประมาณไปราว 300 ล้านบาท และคาดว่าจะลงทุนเพิ่มอีกกว่า 300 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิดสำหรับส่งออก ภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะมีผลิตรวมทั้งขายในประเทศและส่งออกคือ 40,000 คันต่อปี ด้วยสัดส่วนการขายแบบ 50-50
“แนวคิดปิกอัพแบบไฮบริด คาดว่ายังไม่ถึงเวลา เพราะไม่มีค่ายไหนสนใจอย่างจริงจังนอกจาก อีซูซุ ซึ่งมองแล้วว่า น่าจะทำเพิ่อมาใส่ในรุ่น มิวเอ็กซ์มากกว่า สิ่งสำคัญในอนาคตคือ มาตรฐานไอเสียใหม่ในปี 2020 ซึ่งรัฐบาลประกาศว่าจะเลือก ยูโร 5 หรือ 6”
ทั้งนี้ นายชวศม กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ปลายปีนี้เตรียมเปิดตัวรถหัวลากรุ่นใหม่“ซุปเปอร์ทรัค” จากจีน ซึ่งพัฒนาร่วมกันกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เนื่องจาก อีกไม่นาน สิทธิ์การขายรถหัวลากจะกลับมายังโฟตอน เนื่องจากกลุ่มตันจงหมดสัญญา