หากคุณได้อ่านบทความการทดสอบครั้งนี้ แสดงว่าภารกิจของผมสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2017 ที่ผ่านมา ดูคาติไทยแลนด์ยกทัพโมเดลใหม่มาเปิดตัวถึง 4 รุ่น หนึ่งในนั้น คือ ดูคาติ มัลติสตราด้า 950 (Ducati Multistrada 950) ตัวลุยอเนกประสงค์ที่รวมความคุ้มค่าด้านการใช้งานอยู่ในรถคันเดียว
สำหรับโมเดลนี้ก่อนมาปรากฏโฉมและทำตลาดในบ้านเรา ทางฝั่งของดูคาติ มอเตอร์ โฮลดิ้ง อิตาลี หรือบริษัทแม่ของดูคาติไทยแลนด์ ได้จัดกิจกรรมทดสอบในรอบสื่อมวลชนนานาชาติกันที่เกาะเล็กๆ แห่งหนึ่ง ชื่อว่า Fuerteventura อยู่ทางตอนใต้ของประเทศสเปน เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว
และ “MGR มอเตอริ่ง” ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรมที่ว่า โดยมีเงื่อนไขห้ามโพสความเคลื่อนไหวหรือข้อความอะไรก็ตาม เกี่ยวกับการทดสอบดังกล่าวลงในสื่อใดๆ กระทั่งในโลกโซเชียลมีเดีย ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ออกเดินทางจากประเทศไทยจนถึงเสร็จสิ้นกิจกรรม และต้องรอให้ผ่านกลางเดือนมีนาคม 2560 ไปก่อน ถึงจะสามารถนำเสนอประสบการณ์ที่ได้รับจากเจ้าตัวลุยอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ได้
แม้คล้ายถูกขโมยช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตหายไป แต่ความประทับใจบนสองล้อในฝัน ภายใต้สภาพเส้นทางที่งดงามเหนือคำบรรยาย ไม่เคยลบเลือน
เรื่องราวความทรงจำที่สวยงาม เริ่มต้นด้วยภาพมีดพับอเนกประสงค์บนจอสไลด์ ในช่วงของการอธิบายแนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สำหรับโมเดลสองล้อในพิกัดใหม่ ซึ่งย่อส่วนขนาดความจุเครื่องยนต์ลงมาจากรุ่น 1200 ไม่จำเป็นต้องเล่าถึงการรวมบุคลิกของรถ 4 ประเภทเข้าไว้ด้วยกัน แบบ 4 Bikes in 1 อีกต่อไป เพราะเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์มั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า สาวกดูคาทิสต้าหรือบรรดานักบิดที่สนใจรถทัวริ่งรุ่นนี้รับทราบกันดีอยู่แล้ว
ดังนั้น “มัลติสตราด้า 950” จึงเลือกที่จะชูเรื่องของความคุ้มค่า ทั้งด้านเหตุผลการใช้งาน และอารมณ์ความรู้สึกที่ชวนให้ครอบครองมากกว่า
อย่างไรก็ตาม หากลงลึกในส่วนของคุณสมบัติต่างๆ อันโดดเด่นของรถทัวริ่งในพิกัดที่เล็กลงพกพาอยู่นั้น ไม่ได้แตกต่างจากที่รุ่นใหญ่มี และเคยสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักด้วยสมญานามเจ้านกขี้โมโห ตัวเลือกที่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างหลากหลาย
เพียงแต่จุดที่ต้องเน้นย้ำเป็นพิเศษก็คือ นอกจากการย่อส่วนขุมพลังเครื่องยนต์และราคา เพื่อให้ขับขี่ได้สะดวกคล่องตัวและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นแล้ว ทว่าส่วนของออฟชั่นการใช้งานต่างๆ แทบไม่ได้ลดทอนลงเลย
ขณะที่การทดสอบครั้งนี้ถูกแบ่งออกเป็นสองช่วง เพื่อกำหนดจุดแวะถ่ายรูปและพักทานมื้อเที่ยง โดยในแต่ละช่วงผู้ร่วมทริปจะได้สัมผัสมัลติสตราด้า 950 เวอร์ชั่น Standard และ Touring Pack ที่มาพร้อมขาตั้งกลางและกล่องใส่สัมภาระด้านข้าง ผ่านการขับขี่รูปแบบขบวนคาราวานท่องเที่ยว ระยะทางรวมทั้งสิ้น 180 กิโลเมตร
สภาพเส้นทางทั้งสองช่วงไม่แตกต่างกันมากนัก ส่วนใหญ่เป็นเนินเขาสลับโค้งต่อเนื่อง ทั้งสั้นบ้างยาวบ้างให้ทดสอบสมรรถนะระบบช่วงล่างกันอยู่ตลอด แม้การตอบสนองของโช้กอัพด้านหน้าจะนิ่มไปนิด (ผู้ทดสอบต่างประเทศหลายคนบอกให้ทีมช่างปรับเซตให้แข็งขึ้น) แต่หลังจากวิ่งจนครบระยะทางในภาคเช้ารวม 85 กิโลเมตร ด้วยความเร็วที่ใช้ในขบวนหรือจังหวะกระแทกคันเร่งในโค้งก็ค่อนข้างเร็วทีเดียว ส่วนการยึดเกาะของตัวรถจากค่ามาตรฐานที่เซตมาจากโรงงาน สำหรับเราก็ไม่ได้มีอาการใดๆ ให้รู้สึกกังวล หรือจะว่าไปการทำหน้าที่ในทางลาดยางให้อารมณ์ความสนุกเร้าใจไม่เป็นรองรถสปอร์ตก็ว่าได้
สำหรับหัวใจการขับเคลื่อน ขุมพลังเครื่องยนต์ แอล-ทวิน Testastrettaขนาด 937 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์ 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 113 แรงม้าที่ 9,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 96.2 นิวตัน-เมตรที่ 7,750 รอบต่อนาที มาพร้อมโหมดการขับขี่ 4 รูปแบบ ได้แก่ Sport, Touring, Urban และ Enduro ที่สามารถปรับการตอบสนองในแต่ละโหมดได้อย่างอิสระ จัดเต็มเช่นเดียวกับรุ่นใหญ่พิกัด 1200
ด้านอัตราเร่งและกำลังความแรงมีให้เหลือเฟือ ส่วนความโดดเด่นจริงๆ อยู่ที่ย่านของการส่งแรงบิดทำได้กว้างมากๆ โดยแรงบิดสูงสุด 80 เปอร์เซ็นต์ จากทั้งหมด พร้อมใช้ตั้งแต่รอบต่ำ 3,500 ไปจนถึง 9,500 รอบต่อนาที ซึ่งมีผลทำให้ผู้ขับขี่ไม่รู้สึกเครียด เมื่อจำเป็นต้องใช้ความเร็วเร่งแซงก็สามารถสั่งงานได้ทันที
ที่สำคัญขุมพลังบล็อกนี้ยังได้รับการพัฒนาใหม่ ช่วยยืดระยะการเข้าเซอร์วิสอย่างการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องได้ถึง 15,000 กิโลเมตร เช่นเดียวกับระยะการปรับตั้งวาล์วไปที่ 30,000 กิโลเมตร เมื่อรวมกับนโยบายการปรับโครงสร้างราคาอะไหล่และการตรวจเช็กตามระยะที่ลดลงเฉลี่ย 42.5 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งทำให้ตัวลุยอเนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ยิ่งน่าจับตามองเป็นพิเศษ
ดูคาติ มัลติสตราด้า 950 เปิดราคาพร้อมทำตลาดแล้ว เริ่มต้นอยู่ที่ 619,900 บาท พร้อมส่งมอบให้ลูกค้าช่วงเดือนพฤษภาคมนี้.
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สามารถติดต่อขอข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ducatiasia.com/TH#Multistrada