ผ่านมาเกือบ 10 ปี นับจากที่เฟียสต้ารุ่นที่ขายอยู่ในบ้านเราทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2008 ถึงตอนนี้รุ่นใหม่แบบโมเดลเชนจ์ ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 7 ของฟอร์ด เฟียสต้า เผยโฉมออกมาแล้ว และไม่ต้องกั๊กตัวถังหรือสเป็กเอาไว้รอเปิดตัวทีหลัง แต่พร้อมลุยตลาดพร้อมกันถึง 4 รุ่นเลยทีเดียว
ในรุ่นใหม่นี้ถือเป็นการออกแบบใหม่ทั้งคัน ซึ่งทางฟอร์ดเอง เปิดเผยว่า เฟียสต้าใหม่จะมีขายด้วยกัน 2 ตัวถังคือ แฮทช์แบ็ก 3 และ 5 ประตู ซึ่งใช้เครื่องยนต์ทั้งเบนซินและเทอร์โบดีเซล โดยจะมีรุ่นยกสูงและเสริมตัวถังให้ดูบึกบึนขึ้นอีกนิด ทำตลาดในชื่อ เฟียสต้า Active และรุ่นตัวแรงในชื่อ เฟียสต้า ST
เฟียสต้า ใหม่ ได้รับการชูจุดเด่นในเรื่องของการพลิกโฉมที่หันมาเน้นความสปอร์ต และยกระดับมาตรฐานของรถยนต์ขนาดซับคอมแพ็กต์ หรือ B-Segment ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัย ซึ่งก็มีทั้งระบบช่วยจอด Active Park Assist with Perpendicular Parking, ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกนอกถนน Cross Traffic Alert, ระบบปรับความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control, ระบบที่สามารถปรับความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด Adjustable Speed Limiter, ระบบแจ้งเตือนหากมีสิ่งกีดขวางในมุมอับสายตา Blind Spot Information System, ระบบวัดระยะห่างจากรถยนต์คันหน้า Distance Indication, ระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่ Driver Alert และระบบรักษารถให้อยู่ในช่องทาง Lane Keeping Aid
ในส่วนของแชสซีส์และระบบช่วงล่าง เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นที่แล้ว มีการปรับปรุงใหม่ โดยเพิ่มความแข็งแกร่งอีก 15% ขณะที่ความกว้างช่วงล้อหน้าขยับอีก 30 มิลลิเมตร และความกว้างช่วงล้อหลังเพิ่มขึ้น 10 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น 4 มิลลิเมตร และนั่นทำให้ตัวรถมีความยาวอยู่ที่ 4,040 มิลลิเมตร กว้าง 1,734 มิลลิเมตร สูง 1,483 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อยาว 2,493 มิลลิเมตร
ในรุ่นปกติจะมากับเครื่องยนต์ทั้งเบนซินและเทอร์โบดีเซล โดยเริ่มจากรุ่นธรรมดา 3 สูบ 1,100 ซีซี 70 และ 85 แรงม้า ตามด้วย EcoBoost 1,000 ซีซี แบบ 3 สูบเทอร์โบ ที่มีให้เลือก 3 ระดับกำลังขับเคลื่อน คือ 100 แรงม้า 125 แรงม้า และ 140 แรงม้า ส่วนเทอร์โบดีเซลเป็นบล็อก 4 สูบ 1,500 ซีซี TDCi 125 แรงม้า
เปิดตัวออกมาแล้วก็จริง แต่การทำตลาดยังต้องรออีกสักนิด โดยฟอร์ดจะเริ่มส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าในยุโรปได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ก่อนที่จะทยอยเปิดตัวในตลาดอื่นๆ ทั่วโลก.
ในรุ่นใหม่นี้ถือเป็นการออกแบบใหม่ทั้งคัน ซึ่งทางฟอร์ดเอง เปิดเผยว่า เฟียสต้าใหม่จะมีขายด้วยกัน 2 ตัวถังคือ แฮทช์แบ็ก 3 และ 5 ประตู ซึ่งใช้เครื่องยนต์ทั้งเบนซินและเทอร์โบดีเซล โดยจะมีรุ่นยกสูงและเสริมตัวถังให้ดูบึกบึนขึ้นอีกนิด ทำตลาดในชื่อ เฟียสต้า Active และรุ่นตัวแรงในชื่อ เฟียสต้า ST
เฟียสต้า ใหม่ ได้รับการชูจุดเด่นในเรื่องของการพลิกโฉมที่หันมาเน้นความสปอร์ต และยกระดับมาตรฐานของรถยนต์ขนาดซับคอมแพ็กต์ หรือ B-Segment ให้มีความน่าสนใจมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัย ซึ่งก็มีทั้งระบบช่วยจอด Active Park Assist with Perpendicular Parking, ระบบแจ้งเตือนเมื่อออกนอกถนน Cross Traffic Alert, ระบบปรับความเร็วอัตโนมัติ Adaptive Cruise Control, ระบบที่สามารถปรับความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด Adjustable Speed Limiter, ระบบแจ้งเตือนหากมีสิ่งกีดขวางในมุมอับสายตา Blind Spot Information System, ระบบวัดระยะห่างจากรถยนต์คันหน้า Distance Indication, ระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่ Driver Alert และระบบรักษารถให้อยู่ในช่องทาง Lane Keeping Aid
ในส่วนของแชสซีส์และระบบช่วงล่าง เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นที่แล้ว มีการปรับปรุงใหม่ โดยเพิ่มความแข็งแกร่งอีก 15% ขณะที่ความกว้างช่วงล้อหน้าขยับอีก 30 มิลลิเมตร และความกว้างช่วงล้อหลังเพิ่มขึ้น 10 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น 4 มิลลิเมตร และนั่นทำให้ตัวรถมีความยาวอยู่ที่ 4,040 มิลลิเมตร กว้าง 1,734 มิลลิเมตร สูง 1,483 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อยาว 2,493 มิลลิเมตร
ในรุ่นปกติจะมากับเครื่องยนต์ทั้งเบนซินและเทอร์โบดีเซล โดยเริ่มจากรุ่นธรรมดา 3 สูบ 1,100 ซีซี 70 และ 85 แรงม้า ตามด้วย EcoBoost 1,000 ซีซี แบบ 3 สูบเทอร์โบ ที่มีให้เลือก 3 ระดับกำลังขับเคลื่อน คือ 100 แรงม้า 125 แรงม้า และ 140 แรงม้า ส่วนเทอร์โบดีเซลเป็นบล็อก 4 สูบ 1,500 ซีซี TDCi 125 แรงม้า
เปิดตัวออกมาแล้วก็จริง แต่การทำตลาดยังต้องรออีกสักนิด โดยฟอร์ดจะเริ่มส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าในยุโรปได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ก่อนที่จะทยอยเปิดตัวในตลาดอื่นๆ ทั่วโลก.
