พ่อบ้านหลายคนอาจต้องการรถที่แรง แต่ด้วยจำนวนสมาชิกในครอบครัวที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้ตัวเลือกอย่างรถสปอร์ตที่เป็นรถในฝันถูกเตะตกลงไป และเหมือนว่า Dodge แบรนด์ดังในเครือ Chrysler จะรู้ดี และนำเสนอทางเลือกใหม่ที่คุณสามารถเดินเอาโบรชัวร์ไปยื่นให้ผู้มีอำนาจพิจราณา และมีโอกาสผ่านการอนุมัติถึง 99%

รถยนต์ที่ว่าคือ Durango SRT ซึ่งถ้ามองจากภายนอกมันก็คือ SUV ปกติที่คนเดี๋ยวนี้ซื้อหามาขับรับส่งลูกไปโรงเรียน เป็นรถทรง 2 กล่อง ภายในกว้างขวาง และยังมีเบาะนั่งมากถึง 3 แถวรวมแล้ว 7 ที่นั่ง แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาคือขุมพลังที่ถูกต่อยอดจากบล็อก Hemi ที่ซ่อนอยู่ข้างใน

ขุมพลังบล็อกนี้เป็นแบบวี8 ที่มีความจุ 6400 ซีซี ซึ่งสามารถรีดกำลังออกมาได้ 707 แรงม้า เรียกว่าเพิ่มจากบล็อกเดิมร่วมๆ 230 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะรุ่น TorqueFlite พร้อมโหมดการขับที่มีทั้งธรรมดา Sport และ Track Mode เรียกว่าวันไหนว่างจากการรับส่งลูกเมียก็ดอดเข้าสนามแข่งไปลุยพวก Club Race ได้อย่างสบายๆ

ในเรื่องของสมรรถนะนั้น หลายคนไม่ต้องสงสัยเพราะตัวเลขระดับเกิน 700 แรงม้า แม้ว่าตัวถังจะหนักน้องๆ Ford Explorer แต่ตรงนี้ไม่ต้องกังวลใดๆ เพราะใช้เวลาเพียง 4.4 วินาทีในการทะยานจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ 12.9 วินาทีเท่านั้น สำหรับการแล่นควอเตอร์ไมล์ (0-402 เมตร)


แน่นอนว่าในเมื่อแรงซะขนาดนี้ก็ต้องมีระบบรองรับที่ดี ซึ่งตรงนี้ทีมวิศวกรของ Dodge จัดการมาครบเซ็ต ทั้งการเปลี่ยนชิ้นส่วนในระบบช่วงล่างแบบยกยวง กับระบบโช้คอัพแบบปรับระดับได้ของ Bilstien พร้อมสปริงที่มีค่า K แข็งขึ้นจากรุ่นมาตรฐาน 3% สำหรับด้านหน้า และ 16% สำหรับด้านหลัง ตามด้วยดิสก์เบรกหน้าพร้อมคาลิเปอร์ 6 ลูกสูบของ Brembo และแบบ 4 ลูกสูบสำหรับด้านหลัง เสริมด้วยล้อขนาด 20 นิ้วและยางไซส์ 295/45R20 จาก P-Zero จาก Pirelli









เอาเป็นว่าถ้าคุณเจอปัญหาอยากขับรถแรงแต่จำนวนสมาชิกของครอบครัวไม่เอื้ออำนวย ทางออกของปัญหามีแล้ว แต่อาจจะต้องรอกันสักหน่อย เพราะว่าตัวรถจะเริ่มวางขายในสหรัฐอเมริกากลางปีนี้ กับราคาประมาณ 70,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 2.45 ล้านบาท
รถยนต์ที่ว่าคือ Durango SRT ซึ่งถ้ามองจากภายนอกมันก็คือ SUV ปกติที่คนเดี๋ยวนี้ซื้อหามาขับรับส่งลูกไปโรงเรียน เป็นรถทรง 2 กล่อง ภายในกว้างขวาง และยังมีเบาะนั่งมากถึง 3 แถวรวมแล้ว 7 ที่นั่ง แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาคือขุมพลังที่ถูกต่อยอดจากบล็อก Hemi ที่ซ่อนอยู่ข้างใน
ขุมพลังบล็อกนี้เป็นแบบวี8 ที่มีความจุ 6400 ซีซี ซึ่งสามารถรีดกำลังออกมาได้ 707 แรงม้า เรียกว่าเพิ่มจากบล็อกเดิมร่วมๆ 230 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะรุ่น TorqueFlite พร้อมโหมดการขับที่มีทั้งธรรมดา Sport และ Track Mode เรียกว่าวันไหนว่างจากการรับส่งลูกเมียก็ดอดเข้าสนามแข่งไปลุยพวก Club Race ได้อย่างสบายๆ
ในเรื่องของสมรรถนะนั้น หลายคนไม่ต้องสงสัยเพราะตัวเลขระดับเกิน 700 แรงม้า แม้ว่าตัวถังจะหนักน้องๆ Ford Explorer แต่ตรงนี้ไม่ต้องกังวลใดๆ เพราะใช้เวลาเพียง 4.4 วินาทีในการทะยานจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ 12.9 วินาทีเท่านั้น สำหรับการแล่นควอเตอร์ไมล์ (0-402 เมตร)
แน่นอนว่าในเมื่อแรงซะขนาดนี้ก็ต้องมีระบบรองรับที่ดี ซึ่งตรงนี้ทีมวิศวกรของ Dodge จัดการมาครบเซ็ต ทั้งการเปลี่ยนชิ้นส่วนในระบบช่วงล่างแบบยกยวง กับระบบโช้คอัพแบบปรับระดับได้ของ Bilstien พร้อมสปริงที่มีค่า K แข็งขึ้นจากรุ่นมาตรฐาน 3% สำหรับด้านหน้า และ 16% สำหรับด้านหลัง ตามด้วยดิสก์เบรกหน้าพร้อมคาลิเปอร์ 6 ลูกสูบของ Brembo และแบบ 4 ลูกสูบสำหรับด้านหลัง เสริมด้วยล้อขนาด 20 นิ้วและยางไซส์ 295/45R20 จาก P-Zero จาก Pirelli
เอาเป็นว่าถ้าคุณเจอปัญหาอยากขับรถแรงแต่จำนวนสมาชิกของครอบครัวไม่เอื้ออำนวย ทางออกของปัญหามีแล้ว แต่อาจจะต้องรอกันสักหน่อย เพราะว่าตัวรถจะเริ่มวางขายในสหรัฐอเมริกากลางปีนี้ กับราคาประมาณ 70,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 2.45 ล้านบาท