บีเอ็มดับเบิลยู เตรียมส่ง “ซีรีส์ 5 ” และ “มินิ คันทรีแมน” ใหม่ โชว์โฉมงาน “มอเตอร์โชว์ ” ชูจุดเด่นเทคโนโลยีและเครื่องยนต์สุดล้ำช่วงแรกนำเข้าก่อนสำหรับซีรีส์ 5 มั่นใจทำราคาสู้คู่แข่งได้ ขณะที่มินิ คันทรีแมน มีมาให้เลือก 3 รุ่น 3 แบบ เอาใจคนรักมินิ “ซีรีส์ 7” จะมาในแบบปลั๊กอิน ไฮบริด ประกอบในประเทศที่พกพามาทั้งความหรูสุดไฮเทคและความประหยัดระดับ 50 กม./ลิตร และอาจพ่วง ซีรีส์ 7 วี12 760 Li มาให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสาวกบีเอ็มดับเบิลยู ชอบหรู ชอบใหญ่
ตลาดรถหรูกลับมาคึกคักตั้งแต่ต้นปี เมื่อเมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวอี-คลาส โฉมใหม่รุ่นประกอบในประเทศ พร้อมราคาค่าตัวถูกลงอีกต่างหาก ขณะที่คู่แข่งโดยตรงอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู ก็ไม่น้อยหน้าเตรียมพร้อมส่ง ซีรีส์ 5 โฉมใหม่ ลงประกบทันที
“สเตฟาน ทอยเชอร์ต” ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยในงานเปิดตัวโรงงานชมไลน์ผลิตรถยนต์แบบปลั๊กอิน ไฮบริด (PHEV) ว่าปีนี้เรามีรถใหม่เตรียมเปิดตัวในส่วนของบีเอ็มดับเบิลยู 2 รุ่น คือ ซีรีส์ 5 โฉมใหม่ และซีรีส์ 7 รุ่น ปลั๊กอิน-ไฮบริด
เริ่มกันที่ไฮไลต์ของปีนี้ “ซีรีส์ 5” โฉมใหม่ล่าสุด ภายใต้รหัส G30 เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปหมาดๆ เมื่อปลายปีที่แล้วด้วย ขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นทุกมิติทั้งความสูง ความยาว และความกว้าง โดยในตลาดอเมริกาและยุโรป ลงตลาดพร้อมจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เครื่องยนต์ที่ทำตลาดจะมีความหลากหลายไปตามความเหมาะสมของแต่ละประเทศ แต่ที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในไทย น่าจะเป็น รุ่น 530 i เครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร เทอร์โบแบบ Twin-Scroll พร้อมระบบฉีดตรง (ไดเรกอินเจกชัน) กำลังสูงสุด 252 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซล รุ่น 520d บรรจุเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า พร้อมทางเลือกแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลังและ 4 ล้อ
ด้านระบบส่งกำลังมีให้เลือกระหว่าง เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ Steptronic 8 สปีด ด้านระบบกันสะเทือนหน้าแบบปีกนกคู่ และหลังแบบมัลติลิงก์ สามารถเลือกปรับความนุ่มและความแข็งของโช้กอัพได้ 4 แบบตั้งแต่ระดับ Standard ไปจนถึงแบบ Super Sport
ส่วนรุ่นปลั๊กอิน-ไฮบริด มาในชื่อรุ่น 530e iPerformance เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 95 แรงม้า สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลถึง 45 กม. ทำให้มีอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ยอย่างน่าทึ่งที่ระดับ 50 กม./ลิตร พร้อมอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำมากมาย คาดว่าจะมาทำตลาดไทยในปีหน้า
สำหรับเมืองไทย นายสเตฟาน บอกอย่างตรงไปตรงมาว่าจะเปิดตัวไตรมาสแรก ภายในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ที่จะมีขึ้นปลายเดือนมีนาคม นี้ โดยช่วงแรกจะเป็นการทำตลาดด้วยการนำเข้าสำเร็จรูปก่อน ซึ่งแน่นอนราคาย่อมสูงกว่าปกติเล็กน้อย แต่มั่นใจว่าลูกค้าเมื่อให้เห็นคันจริงกับความล้ำสมัยของซีรีส์ 5 ราคาไม่น่าจะมีปัญหาต่อการตัดสินใจซื้อ
ขณะเดียวกันทางด้านแบรนด์ในเครืออย่าง “มินิ” มีแผนเตรียมการเปิดตัว “มินิ คันทรีแมน” โฉมใหม่ล่าสุด (รหัสF60) ในเมืองไทยด้วย ซึ่งโมเดลนี้เพิ่งจะเปิดตัวบนเวทีแอลเอ ออโต้ โชว์ เมื่อพฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมานี่เอง โดยจะนำเข้ามาจำหน่าย 3 รุ่น 3 แบบให้เลือก คือ มินิ คูเปอร์ เอส ดี คันทรีแมน , มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน และมินิ คูเปอร์ คันทรีแมน สำหรับโมเดลใหม่มีขนาดตัวถังที่ยาวขึ้นถึง 8นิ้ว และกว้างกว่าเดิม 1 นิ้ว ระบบขับเคลื่อนมี 2 ทางเลือกคือ ขับ 2 ล้อหน้าและ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ส่วนเครื่องยนต์มากับทางเลือกเบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 136 แรงม้า, เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 192 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ระบบส่งกำลังมากับทางเลือกเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
นอกจากนั้นบีเอ็มดับเบิลยูยังเผยโฉม “ซีรีส์ 7” ปลั๊กอินรุ่นประกอบในประเทศ มาจำหน่ายเพื่อให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับลูกค้า ซึ่งจะทำให้ บีเอ็มดับเบิลยู มีรถแบบปลั๊กอิน-ไฮบริด ขายถึง 3รุ่น จากก่อนหน้ามีรุ่น เอ็กซ์ 5 และซีรีส์ 3 โดย ซีรีส์ 7 ปลั๊กอิน-ไฮบริด เปิดตัวในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์เมื่อปีที่แล้วด้วยรุ่น 740e iPerformance (มี3 ทางเลือกย่อยได้แก่ 740e มาตรฐาน/740Le ตัวถังยาว /740Le xDrive ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
หัวใจหลักของบีเอ็มดับเบิลยู 740e iPerformance จะใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับรุ่น X5 xDrive40e ซึ่ง โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู ที่จังหวัดระยองทำการประกอบรุ่นนี้อยู่แล้ว เพื่อป้อนตลาดในประเทศไทยและส่งออกไปขายยังประเทศจีนอีกด้วย ดังนั้นการขึ้นไลน์ประกอบ ซีรีส์ 7 จึงไม่ใช่เรื่องยากแต่ประการใด
“โรงงานประกอบรถบีเอ็มดับเบิลยู ที่จังหวัดระยองนั้นถือเป็นโรงงานที่ทันสมัยแห่งหนึ่งที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู และเป็นโรงงานเพียงแห่งเดียวในโลกที่สามารถประกอบรถทั้ง 3 แบรนด์ในเครือ ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ดังนั้นการขึ้นไลน์ประกอบรถธงอย่าง ซีรีส์ 7 จึงเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของโรงงานแห่งนี้” นายสเตฟานกล่าว
สำหรับสเปกของ 740e iPerformance ที่เปิดตัวในต่างประเทศ บรรจุเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด326 แรงม้า (รวมมอเตอร์ไฟฟ้า) แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีอัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 45.4-50 กม./ลิตร (ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของBMW) นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู อาจมีเซอร์ไพรส์ นำ ซีรีส์ 7 วี12 760 Li มาเพิ่มอีกรุ่นให้เป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับสาวกบีเอ็มดับเบิลยู ที่ชอบรถใหญ่ หรูหรา นั่งสบาย
แค่การเปิดเผยมาเพียง 3 รุ่นนี้ก็ทำให้องศาของตลาดรถยนต์หรูในบ้านเราเพิ่มความร้อนแรงขึ้นมาทันที คงต้องจับตากันให้ดีว่า เมื่อถึงเวลา ซีรีส์ 5 ,ซีรีส์ 7 และมินิ คูเปอร์ คันทรีแมน ของจริงจะพกพาทีเด็ดอะไรบ้างในการเอาใจคนไทยให้กลายมาเป็น บิมเมอร์ อย่างเต็มตัว
ตลาดรถหรูกลับมาคึกคักตั้งแต่ต้นปี เมื่อเมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวอี-คลาส โฉมใหม่รุ่นประกอบในประเทศ พร้อมราคาค่าตัวถูกลงอีกต่างหาก ขณะที่คู่แข่งโดยตรงอย่าง บีเอ็มดับเบิลยู ก็ไม่น้อยหน้าเตรียมพร้อมส่ง ซีรีส์ 5 โฉมใหม่ ลงประกบทันที
“สเตฟาน ทอยเชอร์ต” ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยในงานเปิดตัวโรงงานชมไลน์ผลิตรถยนต์แบบปลั๊กอิน ไฮบริด (PHEV) ว่าปีนี้เรามีรถใหม่เตรียมเปิดตัวในส่วนของบีเอ็มดับเบิลยู 2 รุ่น คือ ซีรีส์ 5 โฉมใหม่ และซีรีส์ 7 รุ่น ปลั๊กอิน-ไฮบริด
เริ่มกันที่ไฮไลต์ของปีนี้ “ซีรีส์ 5” โฉมใหม่ล่าสุด ภายใต้รหัส G30 เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปหมาดๆ เมื่อปลายปีที่แล้วด้วย ขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นทุกมิติทั้งความสูง ความยาว และความกว้าง โดยในตลาดอเมริกาและยุโรป ลงตลาดพร้อมจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เครื่องยนต์ที่ทำตลาดจะมีความหลากหลายไปตามความเหมาะสมของแต่ละประเทศ แต่ที่จะนำเข้ามาจำหน่ายในไทย น่าจะเป็น รุ่น 530 i เครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร เทอร์โบแบบ Twin-Scroll พร้อมระบบฉีดตรง (ไดเรกอินเจกชัน) กำลังสูงสุด 252 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซล รุ่น 520d บรรจุเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า พร้อมทางเลือกแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลังและ 4 ล้อ
ด้านระบบส่งกำลังมีให้เลือกระหว่าง เกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติแบบ Steptronic 8 สปีด ด้านระบบกันสะเทือนหน้าแบบปีกนกคู่ และหลังแบบมัลติลิงก์ สามารถเลือกปรับความนุ่มและความแข็งของโช้กอัพได้ 4 แบบตั้งแต่ระดับ Standard ไปจนถึงแบบ Super Sport
ส่วนรุ่นปลั๊กอิน-ไฮบริด มาในชื่อรุ่น 530e iPerformance เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ทวินเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลัง 95 แรงม้า สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวได้ไกลถึง 45 กม. ทำให้มีอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ยอย่างน่าทึ่งที่ระดับ 50 กม./ลิตร พร้อมอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำมากมาย คาดว่าจะมาทำตลาดไทยในปีหน้า
สำหรับเมืองไทย นายสเตฟาน บอกอย่างตรงไปตรงมาว่าจะเปิดตัวไตรมาสแรก ภายในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ที่จะมีขึ้นปลายเดือนมีนาคม นี้ โดยช่วงแรกจะเป็นการทำตลาดด้วยการนำเข้าสำเร็จรูปก่อน ซึ่งแน่นอนราคาย่อมสูงกว่าปกติเล็กน้อย แต่มั่นใจว่าลูกค้าเมื่อให้เห็นคันจริงกับความล้ำสมัยของซีรีส์ 5 ราคาไม่น่าจะมีปัญหาต่อการตัดสินใจซื้อ
ขณะเดียวกันทางด้านแบรนด์ในเครืออย่าง “มินิ” มีแผนเตรียมการเปิดตัว “มินิ คันทรีแมน” โฉมใหม่ล่าสุด (รหัสF60) ในเมืองไทยด้วย ซึ่งโมเดลนี้เพิ่งจะเปิดตัวบนเวทีแอลเอ ออโต้ โชว์ เมื่อพฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมานี่เอง โดยจะนำเข้ามาจำหน่าย 3 รุ่น 3 แบบให้เลือก คือ มินิ คูเปอร์ เอส ดี คันทรีแมน , มินิ คูเปอร์ เอส คันทรีแมน และมินิ คูเปอร์ คันทรีแมน สำหรับโมเดลใหม่มีขนาดตัวถังที่ยาวขึ้นถึง 8นิ้ว และกว้างกว่าเดิม 1 นิ้ว ระบบขับเคลื่อนมี 2 ทางเลือกคือ ขับ 2 ล้อหน้าและ ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ส่วนเครื่องยนต์มากับทางเลือกเบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 136 แรงม้า, เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 192 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ระบบส่งกำลังมากับทางเลือกเกียร์ธรรมดา 6 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
นอกจากนั้นบีเอ็มดับเบิลยูยังเผยโฉม “ซีรีส์ 7” ปลั๊กอินรุ่นประกอบในประเทศ มาจำหน่ายเพื่อให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับลูกค้า ซึ่งจะทำให้ บีเอ็มดับเบิลยู มีรถแบบปลั๊กอิน-ไฮบริด ขายถึง 3รุ่น จากก่อนหน้ามีรุ่น เอ็กซ์ 5 และซีรีส์ 3 โดย ซีรีส์ 7 ปลั๊กอิน-ไฮบริด เปิดตัวในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์เมื่อปีที่แล้วด้วยรุ่น 740e iPerformance (มี3 ทางเลือกย่อยได้แก่ 740e มาตรฐาน/740Le ตัวถังยาว /740Le xDrive ขับเคลื่อน 4 ล้อ)
หัวใจหลักของบีเอ็มดับเบิลยู 740e iPerformance จะใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับรุ่น X5 xDrive40e ซึ่ง โรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู ที่จังหวัดระยองทำการประกอบรุ่นนี้อยู่แล้ว เพื่อป้อนตลาดในประเทศไทยและส่งออกไปขายยังประเทศจีนอีกด้วย ดังนั้นการขึ้นไลน์ประกอบ ซีรีส์ 7 จึงไม่ใช่เรื่องยากแต่ประการใด
“โรงงานประกอบรถบีเอ็มดับเบิลยู ที่จังหวัดระยองนั้นถือเป็นโรงงานที่ทันสมัยแห่งหนึ่งที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู และเป็นโรงงานเพียงแห่งเดียวในโลกที่สามารถประกอบรถทั้ง 3 แบรนด์ในเครือ ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ดังนั้นการขึ้นไลน์ประกอบรถธงอย่าง ซีรีส์ 7 จึงเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของโรงงานแห่งนี้” นายสเตฟานกล่าว
สำหรับสเปกของ 740e iPerformance ที่เปิดตัวในต่างประเทศ บรรจุเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด326 แรงม้า (รวมมอเตอร์ไฟฟ้า) แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีอัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 45.4-50 กม./ลิตร (ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของBMW) นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู อาจมีเซอร์ไพรส์ นำ ซีรีส์ 7 วี12 760 Li มาเพิ่มอีกรุ่นให้เป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับสาวกบีเอ็มดับเบิลยู ที่ชอบรถใหญ่ หรูหรา นั่งสบาย
แค่การเปิดเผยมาเพียง 3 รุ่นนี้ก็ทำให้องศาของตลาดรถยนต์หรูในบ้านเราเพิ่มความร้อนแรงขึ้นมาทันที คงต้องจับตากันให้ดีว่า เมื่อถึงเวลา ซีรีส์ 5 ,ซีรีส์ 7 และมินิ คูเปอร์ คันทรีแมน ของจริงจะพกพาทีเด็ดอะไรบ้างในการเอาใจคนไทยให้กลายมาเป็น บิมเมอร์ อย่างเต็มตัว