ปอร์เช่ เสริมทัพรุ่นพิเศษ จับ คาเยนน์ เอส มาแต่งชุดหล่อ “แพทตินั่ม อิดิชั่น” (Platinum Edition) สร้างความแตกต่างจากรุ่นปกติ ด้วยอุปกรณ์ที่ได้รับการติดตั้งเพิ่มเติมเป็นมาตรฐาน ได้แก่ ล้ออัลลอยด์ลาย Sport Edition ขนาด 21 นิ้ว สี Platinum ตัดด้วยขอบสี satin , เบาะนั่งสปอร์ตหนังแท้ ปรับระดับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมหุ้มวัสดุ Alcantara บริเวณกึ่งกลางเบาะเช่นเดียวกับ คาเยนน์ จีทีเอส (Cayenne GTS) และยังมีอุปกรณ์พิเศษอื่นๆ เพิ่มอีกหลายรายการ
ทั้งนี้ การเปิดตัวดังกล่าวส่งผลให้ปอร์เช่มีเวอร์ชั่นพิเศษ Platinum Edition ออกมารวมทั้งสิ้น 4 รุ่น โดยอีก 3 รุ่นที่เปิดตัวก่อนหน้าแล้วคือ คาเยนน์ ดีเซล (Cayenne Diesel) คาเยนน์ เอส ดีเซล (Cayenne S Diesel) และ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid)
คาเยนน์ แพทตินั่ม อิดิชั่น (Cayenne Platinum Edition) สะท้อนให้เห็นถึงงานออกแบบดีไซน์ตัวถังภายนอกที่มีภาพลักษณ์แตกต่าง นอกเหนือจากสีตัวถังมาตรฐานอันได้แก่สีดำและสีขาวแล้ว สามารถเลือกสีเมทัลลิกพิเศษเพิ่มเติมได้อีกถึง 5 สี ซึ่งประกอบด้วย: Jet Black, Mahogany, Purpurite, Carrara White และ Rhodium Silver ชุดตกแต่งตัวถังภายนอกเสริมความหรูหราและความสปอร์ตด้วยสี high-gloss black กระจกประตูแบบ privacy glass เพิ่มความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ดุดัน แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยขอบซุ้มล้อสีเดียวกับตัวรถ
คาเยนน์ แพทตินั่ม อิดิชั่น เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการทำงานเพื่อสมรรถนะของสปอร์ต SUV เต็มรูปแบบ ไฟหน้าแบบ Bi-Xenon พร้อมระบบปรับตั้งการทำงานอัตโนมัติ Porsche Dynamic Light System (PDLS) ระบบพวงมาลัย Power Steering Plus ระบบอำนวยความสะดวกช่วยเหลือในขณะจอด Park-Assist ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กระจกมองข้างและกระจกมองหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ทั้งหมดนี้เพื่อสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะไกลหรือการใช้งานในตัวเมือง
การตกแต่งภายในห้องโดยสารของ คาเยนน์ แพทตินั่ม อิดิชั่น จะได้รับการติดตั้งนาฬิกาแบบเข็มสไตล์สปอร์ต ตรงบริเวณแผงคอนโซล , ตัวอักษรบ่งบอกชื่อรุ่นอยู่บนแผงประตู, หมอนรองศรีษะมีตราสัญลักษณ์ปอร์เช่, เบาะนั่งคู่หน้าติดตั้งระบบทำความอุ่น และระบบความบันเทิง Porsche Communication Management (PCM) ซึ่งมีระบบนำทางผ่านดาวเทียม, ระบบ Connect Plus module และระบบเสียงรอบทิศทางจาก BOSE® รวมอยู่ด้วย
ในส่วนของสมรรถนะความแรงและประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ ยังคงความสมบูรณ์เช่นเดิม ด้วยพละกำลังสูงสุด 420 แรงม้า จากเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ไบเทอร์โบ ขนาดความจุ 3.6 ลิตร ที่ประจำการใน คาเยนน์ เอส (Cayenne S) รุ่นปกติ ซึ่งอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงระหว่าง 10.2-10.5 กิโลเมตร/ลิตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของยางรถยนต์ที่ติดตั้ง
ทั้งนี้ การเปิดตัวดังกล่าวส่งผลให้ปอร์เช่มีเวอร์ชั่นพิเศษ Platinum Edition ออกมารวมทั้งสิ้น 4 รุ่น โดยอีก 3 รุ่นที่เปิดตัวก่อนหน้าแล้วคือ คาเยนน์ ดีเซล (Cayenne Diesel) คาเยนน์ เอส ดีเซล (Cayenne S Diesel) และ คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid)
คาเยนน์ แพทตินั่ม อิดิชั่น (Cayenne Platinum Edition) สะท้อนให้เห็นถึงงานออกแบบดีไซน์ตัวถังภายนอกที่มีภาพลักษณ์แตกต่าง นอกเหนือจากสีตัวถังมาตรฐานอันได้แก่สีดำและสีขาวแล้ว สามารถเลือกสีเมทัลลิกพิเศษเพิ่มเติมได้อีกถึง 5 สี ซึ่งประกอบด้วย: Jet Black, Mahogany, Purpurite, Carrara White และ Rhodium Silver ชุดตกแต่งตัวถังภายนอกเสริมความหรูหราและความสปอร์ตด้วยสี high-gloss black กระจกประตูแบบ privacy glass เพิ่มความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ดุดัน แข็งแกร่งยิ่งขึ้นด้วยขอบซุ้มล้อสีเดียวกับตัวรถ
คาเยนน์ แพทตินั่ม อิดิชั่น เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชั่นการทำงานเพื่อสมรรถนะของสปอร์ต SUV เต็มรูปแบบ ไฟหน้าแบบ Bi-Xenon พร้อมระบบปรับตั้งการทำงานอัตโนมัติ Porsche Dynamic Light System (PDLS) ระบบพวงมาลัย Power Steering Plus ระบบอำนวยความสะดวกช่วยเหลือในขณะจอด Park-Assist ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กระจกมองข้างและกระจกมองหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ทั้งหมดนี้เพื่อสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางระยะไกลหรือการใช้งานในตัวเมือง
การตกแต่งภายในห้องโดยสารของ คาเยนน์ แพทตินั่ม อิดิชั่น จะได้รับการติดตั้งนาฬิกาแบบเข็มสไตล์สปอร์ต ตรงบริเวณแผงคอนโซล , ตัวอักษรบ่งบอกชื่อรุ่นอยู่บนแผงประตู, หมอนรองศรีษะมีตราสัญลักษณ์ปอร์เช่, เบาะนั่งคู่หน้าติดตั้งระบบทำความอุ่น และระบบความบันเทิง Porsche Communication Management (PCM) ซึ่งมีระบบนำทางผ่านดาวเทียม, ระบบ Connect Plus module และระบบเสียงรอบทิศทางจาก BOSE® รวมอยู่ด้วย
ในส่วนของสมรรถนะความแรงและประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ ยังคงความสมบูรณ์เช่นเดิม ด้วยพละกำลังสูงสุด 420 แรงม้า จากเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบ ไบเทอร์โบ ขนาดความจุ 3.6 ลิตร ที่ประจำการใน คาเยนน์ เอส (Cayenne S) รุ่นปกติ ซึ่งอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงระหว่าง 10.2-10.5 กิโลเมตร/ลิตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของยางรถยนต์ที่ติดตั้ง
