ตลาดรถในบ้านเราปีนี้ดูจะไม่สวยสดงดงามสักเท่าไร โดยเฉพาะตัวเลขยอดขายของแต่ละค่าย อาจไม่เข้าเป้าดั่งใจคิด อย่างไรเรามาฟัง ค่ายอีซูซุ กันดูบ้าง ว่าคิดอย่างไร โดยสัมภาษณ์ผ่าน ฮิโรยาสุ ซาโต้ รองกรรมการผู้จัดการ รับผิดชอบงานกลุ่มขาย บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
ในช่วงต้นปีค่ายรถต่างประเมินว่าตลาดรถยนต์น่าจะมียอดขายประมาณ 700,000 คัน แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาตลาดกลับหดตัว แต่เราเชื่อว่าสิ้นปีนี้ยอดขายน่าจะอยู่ที่ 760,000-770,000 คัน ซึ่งเทียบกับปี 2558 ที่มียอดขายรถอยู่ที่ 800,000 คัน ถือว่าหดตัวไม่มากนัก
สำหรับตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ไม่ตกมากเหมือนตลาดรถเก๋ง เพราะมีปัจจัยบวกคือการขยายตัวของธุรกิจก่อสร้าง,ตลาดสินค้าบริโภคและอุตสาหกรรม ที่สำคัญช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาตลาดส่งออกเริ่มดีขึ้น สำหรับอีซูซุปีนี้ตลาดรถบรรทุก 2 ตัน โตขึ้น 4-5 % คาดยอดขายประมาณ 28,000-29,000 คัน และจะยังคงตัวไปจนถึงปีหน้าเพราะโครงการใหญ่ ๆ ยังคงมีต่อเนื่อง ตลาดนี้ไม่ผันผวนเหมือนตลาดปิกอัพ เพราะผู้ใช้คือกลุ่มธุรกิจที่ต้องเลือกรถที่แข็งแกร่งและการซ่อมบำรุงศูนย์บริการที่ดี ซึ่งในตลาดนี้เราเป็นอันดับ 1 มีส่วนแบ่งการตลาด 48 %
ปีนี้อีซูซุตั้งเป้าส่วนแบ่งในตลาดรวมอย่างน้อย 18 % และส่วนแบ่งในตลาดเพื่อการพาณิชย์ 35 % เรามั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยกลยุทธยังคงเน้นกิจกรรม Below the line เพื่อให้มีช่องทางเจอลูกค้าและเน้นคุณภาพงานบริการหลังการขายเพื่อให้ลูกค้าซื้อซ้ำ แต่สิ่งที่เราเป็นห่วงและกังวลมากสุดคือภาวะเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าของไทย ซึ่งจะกระทบส่งออก แต่ก็ยังมั่นใจโครงสร้างรถยนต์ไทยและศักยภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปแต่มั่นคง
ปีนี้ยอดส่งออกของอีซูซุได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับค่ายอื่น ๆ เพราะปัจจัยภายนอกไม่เอื้ออำนวย ยอดส่งออกต่ำกว่าที่คาดไว้ สำหรับตลาดส่งออก 3 อันดับแรกของอีซูซุรวมแล้วเกิน 50 % ได้แก่ ตะวันออกกลาง ,ยุโรป และออสเตรเลีย
สำหรับปีหน้าคาดหวังว่ารัฐบาลน่าจะมีมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจ ราคาพืชผลทางการเกษตรยังมีทิศทางที่ดีอยู่ ก็น่าจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ และส่งผลให้ตลาดมีการเติบโตกว่าปีนี้ 3-5 % แต่คงไม่ถึง 10 % ขณะเดียวกันเราต้องจับตามองจีนคู่ค้ารายใหญ่ ถ้าเศรษฐกิจจีนดี ภาพรวมอุตสาหกรรมไทยน่าจะดีตามไปด้วย
ปัจจุบันสัดส่วนรถปิกอัพเป็นที่นิยมของตลาดไทย อันดับหนึ่ง สแปซแค็บ 55-60 % ,อันดับสอง4ประตู 25-30 % และอันดับสาม ตอนเดียว 10-15 %
ในช่วงต้นปีค่ายรถต่างประเมินว่าตลาดรถยนต์น่าจะมียอดขายประมาณ 700,000 คัน แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาตลาดกลับหดตัว แต่เราเชื่อว่าสิ้นปีนี้ยอดขายน่าจะอยู่ที่ 760,000-770,000 คัน ซึ่งเทียบกับปี 2558 ที่มียอดขายรถอยู่ที่ 800,000 คัน ถือว่าหดตัวไม่มากนัก
สำหรับตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ไม่ตกมากเหมือนตลาดรถเก๋ง เพราะมีปัจจัยบวกคือการขยายตัวของธุรกิจก่อสร้าง,ตลาดสินค้าบริโภคและอุตสาหกรรม ที่สำคัญช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาตลาดส่งออกเริ่มดีขึ้น สำหรับอีซูซุปีนี้ตลาดรถบรรทุก 2 ตัน โตขึ้น 4-5 % คาดยอดขายประมาณ 28,000-29,000 คัน และจะยังคงตัวไปจนถึงปีหน้าเพราะโครงการใหญ่ ๆ ยังคงมีต่อเนื่อง ตลาดนี้ไม่ผันผวนเหมือนตลาดปิกอัพ เพราะผู้ใช้คือกลุ่มธุรกิจที่ต้องเลือกรถที่แข็งแกร่งและการซ่อมบำรุงศูนย์บริการที่ดี ซึ่งในตลาดนี้เราเป็นอันดับ 1 มีส่วนแบ่งการตลาด 48 %
ปีนี้อีซูซุตั้งเป้าส่วนแบ่งในตลาดรวมอย่างน้อย 18 % และส่วนแบ่งในตลาดเพื่อการพาณิชย์ 35 % เรามั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยกลยุทธยังคงเน้นกิจกรรม Below the line เพื่อให้มีช่องทางเจอลูกค้าและเน้นคุณภาพงานบริการหลังการขายเพื่อให้ลูกค้าซื้อซ้ำ แต่สิ่งที่เราเป็นห่วงและกังวลมากสุดคือภาวะเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าของไทย ซึ่งจะกระทบส่งออก แต่ก็ยังมั่นใจโครงสร้างรถยนต์ไทยและศักยภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปแต่มั่นคง
ปีนี้ยอดส่งออกของอีซูซุได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับค่ายอื่น ๆ เพราะปัจจัยภายนอกไม่เอื้ออำนวย ยอดส่งออกต่ำกว่าที่คาดไว้ สำหรับตลาดส่งออก 3 อันดับแรกของอีซูซุรวมแล้วเกิน 50 % ได้แก่ ตะวันออกกลาง ,ยุโรป และออสเตรเลีย
สำหรับปีหน้าคาดหวังว่ารัฐบาลน่าจะมีมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจ ราคาพืชผลทางการเกษตรยังมีทิศทางที่ดีอยู่ ก็น่าจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ และส่งผลให้ตลาดมีการเติบโตกว่าปีนี้ 3-5 % แต่คงไม่ถึง 10 % ขณะเดียวกันเราต้องจับตามองจีนคู่ค้ารายใหญ่ ถ้าเศรษฐกิจจีนดี ภาพรวมอุตสาหกรรมไทยน่าจะดีตามไปด้วย
ปัจจุบันสัดส่วนรถปิกอัพเป็นที่นิยมของตลาดไทย อันดับหนึ่ง สแปซแค็บ 55-60 % ,อันดับสอง4ประตู 25-30 % และอันดับสาม ตอนเดียว 10-15 %