ทุกความเสียหายใหญ่มักจะเริ่มจากจุดเล็กๆ เสมอ รถยนต์ก็เช่นกัน ก่อนที่จะอะไหล่จะเสียหายหนักจนใช้การไม่ได้ มักจะมีสัญญาณเตือนมาก่อนเสมอ ผู้จัดการมอเตอริ่ง รวบรวมลักษณะเสียงต่างๆ ที่บ่งชี้จุดที่กำลังจะเสียหาย เพื่อให้เราดำเนินการแก้ไขได้ทันก่อน พาหนะจะกลายเป็นภาระ จากการเสียระหว่างเดินทาง มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. เสียงแก๊กๆ ยาวตอนสตาร์ท - ลักษณะคือการบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์นานกว่าปกติ คือรถส่งสัญญาณว่า แบตเตอรี่ ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว หากแบตเตอรี่ยังใหม่ก็ให้ไปดูว่ามีขี้เกลือเกาะขั้วแบตหรือไม่ หากแบตเตอรี่สมบูรณ์ สุดท้ายก็จะเป็นเรื่องของถ่านไดสตาร์ท หรือไม่ก็ตัวไดสตาร์ทกำลังจะกลับบ้านเก่า
2. เสียงคล้ายจิ้งหรีดร้องจากเครื่องยนต์ - เกิดขึ้นเมื่อจอดติดเครื่องยนต์ สาเหตุมักจะเกิดจากลูกรอกหรือสายพานหมดอายุการใช้งาน
3. เสียงฟี่ๆ ด้านหน้ารถ - เสียงลักษณะลมจะได้ยินตอนจอดติดเครื่องหลังวิ่งมาสักระยะ ซึ่งจะเป็นเรื่องของหม้อน้ำรั่ว หรือฝาหม้อน้ำหมดอายุการใช้งาน ส่งผลให้น้ำในระบบหล่อเย็นสูญหาญ สุดท้ายจะกลายหายนะถึงขั้นเปลี่ยนเครื่องยนต์ทั้งตัวเลยทีเดียวแม้เพียงจุดรั่วเล็กๆ แต่ไม่ควรปล่อยผ่าน
4. เสียงดังกึกกัก ขณะเปลี่ยนเกียร์ -หากมีเสียงแปลกๆ เมื่อเกียร์เปลี่ยนนั่นหมายความว่า เกียร์คุณควรถึงเวลาซ่อมบำรุง บางรุ่นอาจจะแค่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ บางรุ่นอาจจะถึงขั้นต้องเปลี่ยนเกียร์ใหม่ทั้งชุด สุดแท้แต่สเปครถที่คุณใช้
5. เสียงเอี้ยดแม้เบรกเบาๆ - ผ้าเบรกหมด คือสิ่งแรกที่ต้องตรวจ แต่ไหนๆก็รื้อแล้วควรเชคระบบเบรกทั้งหมดไปพร้อมกันเลยในคราวเดียว สำคัญที่สุดเพราะรถถ้าวิ่งแล้วเบรกไม่อยู่ นั่นหมายถึงชีวิตคุณตกอยู่ในอันตรายทันที
6. เสียงกึกๆ ที่คอพวงมาลัย - มักจะเกิดจากลูกปืนคอพวงมาลัยแตก อาจจะดูเหมือนไม่เป็นอะไรมาก แต่หากปล่อยไว้แล้วเราควบคุมพวงมาลัยไม่ได้ดังใจ คงไม่ต้องบอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น
7. เสียงกุ๊กๆ จากล้อเวลาเลี้ยว - เชคช่วงล่าง ทั้งลูกหมากปีกนก คันส่งคันชัก แรคพวงมาลัย ซึ่งมักจะเสียหายจากการกระแทกหรือหมดอายุการใช้งาน
8. เสียงหอนวุ้งๆ ขณะขับ - เสียงนี้ ถ้ายิ่งขับเร็วแล้วยิ่งดังขึ้น มี 3 สาเหตุหลักต้องไล่เชคคือ ยางหมดอายุหรือลูกปืนล้อแตก และหนักที่สุด เพลาขับพัง ฟังที่มาให้ดีว่ามาจากล้อใด แล้วตรวจเชคล้อนั้น
9. เสียงปังแถวซุ้มล้อเมื่อขับผ่านหลุมหรือลูกระนาด - เสียงแบบนี้บ่งชี้ว่าโช้คอัพของคุณถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว เพราะไม่สามารถดูดซับแรงกระแทกได้อีกต่อไป นั่นหมายถึงการทรงตัวที่ดีเวลาขับอีกด้วย
10.เสียงครูดคราด ใต้ท้องรถ - จะเป็นลักษณะของเสียงเหล็กโดนหรือสีกัน ซึ่งมักจะเกิดจากเพลากลางหรือท่อไอเสีย มีการขยับได้ หมายความว่า จุดยึดต้องได้รับการตรวจเชคโดยทันที
ทั้ง 10 เสียงนี้คือแนวทางในการดูแลป้องกันก่อนการเสียหายหนักจนใช้การไม่ได้ ลองกลับไปฟังอย่างตั้งใจดูถ้าคุณได้ยินเสียงใดควรรีบดำเนินการนะ เดี้ยวจะหาว่าหล่อไม่เตือน
อรรครินท์ ห้องดอกไม้ - เรียบเรียง
1. เสียงแก๊กๆ ยาวตอนสตาร์ท - ลักษณะคือการบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์นานกว่าปกติ คือรถส่งสัญญาณว่า แบตเตอรี่ ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว หากแบตเตอรี่ยังใหม่ก็ให้ไปดูว่ามีขี้เกลือเกาะขั้วแบตหรือไม่ หากแบตเตอรี่สมบูรณ์ สุดท้ายก็จะเป็นเรื่องของถ่านไดสตาร์ท หรือไม่ก็ตัวไดสตาร์ทกำลังจะกลับบ้านเก่า
2. เสียงคล้ายจิ้งหรีดร้องจากเครื่องยนต์ - เกิดขึ้นเมื่อจอดติดเครื่องยนต์ สาเหตุมักจะเกิดจากลูกรอกหรือสายพานหมดอายุการใช้งาน
3. เสียงฟี่ๆ ด้านหน้ารถ - เสียงลักษณะลมจะได้ยินตอนจอดติดเครื่องหลังวิ่งมาสักระยะ ซึ่งจะเป็นเรื่องของหม้อน้ำรั่ว หรือฝาหม้อน้ำหมดอายุการใช้งาน ส่งผลให้น้ำในระบบหล่อเย็นสูญหาญ สุดท้ายจะกลายหายนะถึงขั้นเปลี่ยนเครื่องยนต์ทั้งตัวเลยทีเดียวแม้เพียงจุดรั่วเล็กๆ แต่ไม่ควรปล่อยผ่าน
4. เสียงดังกึกกัก ขณะเปลี่ยนเกียร์ -หากมีเสียงแปลกๆ เมื่อเกียร์เปลี่ยนนั่นหมายความว่า เกียร์คุณควรถึงเวลาซ่อมบำรุง บางรุ่นอาจจะแค่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ บางรุ่นอาจจะถึงขั้นต้องเปลี่ยนเกียร์ใหม่ทั้งชุด สุดแท้แต่สเปครถที่คุณใช้
5. เสียงเอี้ยดแม้เบรกเบาๆ - ผ้าเบรกหมด คือสิ่งแรกที่ต้องตรวจ แต่ไหนๆก็รื้อแล้วควรเชคระบบเบรกทั้งหมดไปพร้อมกันเลยในคราวเดียว สำคัญที่สุดเพราะรถถ้าวิ่งแล้วเบรกไม่อยู่ นั่นหมายถึงชีวิตคุณตกอยู่ในอันตรายทันที
6. เสียงกึกๆ ที่คอพวงมาลัย - มักจะเกิดจากลูกปืนคอพวงมาลัยแตก อาจจะดูเหมือนไม่เป็นอะไรมาก แต่หากปล่อยไว้แล้วเราควบคุมพวงมาลัยไม่ได้ดังใจ คงไม่ต้องบอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น
7. เสียงกุ๊กๆ จากล้อเวลาเลี้ยว - เชคช่วงล่าง ทั้งลูกหมากปีกนก คันส่งคันชัก แรคพวงมาลัย ซึ่งมักจะเสียหายจากการกระแทกหรือหมดอายุการใช้งาน
8. เสียงหอนวุ้งๆ ขณะขับ - เสียงนี้ ถ้ายิ่งขับเร็วแล้วยิ่งดังขึ้น มี 3 สาเหตุหลักต้องไล่เชคคือ ยางหมดอายุหรือลูกปืนล้อแตก และหนักที่สุด เพลาขับพัง ฟังที่มาให้ดีว่ามาจากล้อใด แล้วตรวจเชคล้อนั้น
9. เสียงปังแถวซุ้มล้อเมื่อขับผ่านหลุมหรือลูกระนาด - เสียงแบบนี้บ่งชี้ว่าโช้คอัพของคุณถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว เพราะไม่สามารถดูดซับแรงกระแทกได้อีกต่อไป นั่นหมายถึงการทรงตัวที่ดีเวลาขับอีกด้วย
10.เสียงครูดคราด ใต้ท้องรถ - จะเป็นลักษณะของเสียงเหล็กโดนหรือสีกัน ซึ่งมักจะเกิดจากเพลากลางหรือท่อไอเสีย มีการขยับได้ หมายความว่า จุดยึดต้องได้รับการตรวจเชคโดยทันที
ทั้ง 10 เสียงนี้คือแนวทางในการดูแลป้องกันก่อนการเสียหายหนักจนใช้การไม่ได้ ลองกลับไปฟังอย่างตั้งใจดูถ้าคุณได้ยินเสียงใดควรรีบดำเนินการนะ เดี้ยวจะหาว่าหล่อไม่เตือน
อรรครินท์ ห้องดอกไม้ - เรียบเรียง