หลังมีข่าวตามอินเตอร์เนตอยู่นาน ในที่สุดเราก็ได้เห็นหน้าตาของ BMW 5 Series โฉมใหม่กันแล้ว โดยจะมากับรหัส G30 พร้อมความเปลี่ยนแปลงมากมาย โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีที่ถูกถ่ายทอดมาจาก 7 Series เพื่อให้สามารถต่อกรกับคู่ปรับสำคัญอย่าง Mercedes-Benz E-Class ใหม่ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ
สำหรับ 5 Series ใหม่นี้จะมีขายทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและ 4 ล้อในรหัส xDrive บนตัวถังแบบ 4 ประตูซีดาน ไม่มีการเปิดตัวรุ่น GT ออกมาก่อนเหมือนกับ 2 รุ่นก่อนหน้านี้ ตัวรถเน้นความเบาเมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีที่อัดแน่นลงมา โดยมีน้ำหนักอยู่ราวๆ 1.7-1.8 ตัน พร้อมกับความโดดเด่นในด้านการกระจายน้ำหนักระหว่างด้านหน้าและหลังในระดับ 51.5/48.5%
ตัวรถมีความยาวประมาณ 4,943 มิลลิเมตร กว้าง 1,866 มิลลิเมตร สูง 1,478 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,974 มิลลิเมตร ส่วนเครื่องยนต์ที่ทำตลาดเท่าที่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้เป็น U.S. Spec ซึ่งจะทำตลาดด้วยกัน 2 รุ่น คือ 530i ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบแบบ Twin-Scroll พร้อมระบบ Di มีกำลังสูงสุด 248 แรงม้า ที่ 5,200-6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 35.6 กก.-ม. ที่ 1,450-4,800 รอบ/นาที ส่วนอีกรุ่นในรหัส 540i เป็นเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3,000 ซีซี เทอร์โบคู่ พร้อมระบบ Di มีกำลังสูงสุด 335 แรงม้า ที่ 5,500-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 45.8 กก.-ม. ที่ 1,380-5,200 รอบ/นาที ส่วนยุโรปนอกจาก 2 เครื่องยนต์นี้แล้ว คาดว่าจะมีรุ่นเทอร์โบดีเซลตามออกมาขายด้วยทั้งรุ่น 4 สูบ 2,000 ซีซี และ 6 สูบ 3,000 ซีซี
ที่จะเปิดตัวตามหลังออกมาก็จะมีทั้งรุ่น 530e Plug-in ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อน ผสานกำลังกับมอเตอร์ฟ้า สามารถรีดกำลังออกมาได้ 249 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 42.8 กก.-ม. ตามด้วยรุ่น M550i xDrive ใช้เครื่องยนต์วี8 4,400 ซีซี เทอร์โบคู่ 455 แรงม้า ใช้เวลาเพียง 4 วินาทีในการทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถือว่าเร็วกว่า M5 รุ่นปัจจุบันเสียอีก ส่วน M5 ใหม่ที่จะใช้พื้นฐานของ 5 Series รุ่นนี้จะเปิดตัวปลายปี 2017 และว่ากันว่าจะเป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และเครื่องยนต์มีกำลัง 600 แรงม้า
ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะชุดเดียวกัน ยกเว้นรุ่นพื้นฐานของเทอร์โบดีเซลอย่าง 520d ใช้เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ส่วนระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบปีกนกคู่ และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ ที่สามารถเลือกปรับความนุ่มและความแข็งของโช้กอัพได้ 4 แบบตั้งแต่ระดับมาตรฐานอย่าง Standard ไปจนถึงแบบ Super Sport
สำหรับการทำตลาดจะเริ่มขึ้นในปีหน้า ส่วนราคายังไม่เปิดเผยออกมาในตอนนี้
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring
สำหรับ 5 Series ใหม่นี้จะมีขายทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและ 4 ล้อในรหัส xDrive บนตัวถังแบบ 4 ประตูซีดาน ไม่มีการเปิดตัวรุ่น GT ออกมาก่อนเหมือนกับ 2 รุ่นก่อนหน้านี้ ตัวรถเน้นความเบาเมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีที่อัดแน่นลงมา โดยมีน้ำหนักอยู่ราวๆ 1.7-1.8 ตัน พร้อมกับความโดดเด่นในด้านการกระจายน้ำหนักระหว่างด้านหน้าและหลังในระดับ 51.5/48.5%
ตัวรถมีความยาวประมาณ 4,943 มิลลิเมตร กว้าง 1,866 มิลลิเมตร สูง 1,478 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,974 มิลลิเมตร ส่วนเครื่องยนต์ที่ทำตลาดเท่าที่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนี้เป็น U.S. Spec ซึ่งจะทำตลาดด้วยกัน 2 รุ่น คือ 530i ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบแบบ Twin-Scroll พร้อมระบบ Di มีกำลังสูงสุด 248 แรงม้า ที่ 5,200-6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 35.6 กก.-ม. ที่ 1,450-4,800 รอบ/นาที ส่วนอีกรุ่นในรหัส 540i เป็นเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3,000 ซีซี เทอร์โบคู่ พร้อมระบบ Di มีกำลังสูงสุด 335 แรงม้า ที่ 5,500-6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 45.8 กก.-ม. ที่ 1,380-5,200 รอบ/นาที ส่วนยุโรปนอกจาก 2 เครื่องยนต์นี้แล้ว คาดว่าจะมีรุ่นเทอร์โบดีเซลตามออกมาขายด้วยทั้งรุ่น 4 สูบ 2,000 ซีซี และ 6 สูบ 3,000 ซีซี
ที่จะเปิดตัวตามหลังออกมาก็จะมีทั้งรุ่น 530e Plug-in ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อน ผสานกำลังกับมอเตอร์ฟ้า สามารถรีดกำลังออกมาได้ 249 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 42.8 กก.-ม. ตามด้วยรุ่น M550i xDrive ใช้เครื่องยนต์วี8 4,400 ซีซี เทอร์โบคู่ 455 แรงม้า ใช้เวลาเพียง 4 วินาทีในการทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ถือว่าเร็วกว่า M5 รุ่นปัจจุบันเสียอีก ส่วน M5 ใหม่ที่จะใช้พื้นฐานของ 5 Series รุ่นนี้จะเปิดตัวปลายปี 2017 และว่ากันว่าจะเป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และเครื่องยนต์มีกำลัง 600 แรงม้า
ทุกรุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะชุดเดียวกัน ยกเว้นรุ่นพื้นฐานของเทอร์โบดีเซลอย่าง 520d ใช้เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ส่วนระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบปีกนกคู่ และด้านหลังแบบมัลติลิงค์ ที่สามารถเลือกปรับความนุ่มและความแข็งของโช้กอัพได้ 4 แบบตั้งแต่ระดับมาตรฐานอย่าง Standard ไปจนถึงแบบ Super Sport
สำหรับการทำตลาดจะเริ่มขึ้นในปีหน้า ส่วนราคายังไม่เปิดเผยออกมาในตอนนี้
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring
