รายงานจาก ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ประกาศเปิดสายการผลิตรถกระบะสายเรนเจอร์ ณ โรงงานฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จังหวัดระยอง หรือ เอฟทีเอ็ม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีอยู่สูงมากทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก
ทั้งนี้ ฟอร์ดยังคงมีการผลิตกระบะเรนเจอร์ ที่โรงงานร่วมทุนออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย หรือ เอเอที ซึ่งจะยังคงเป็นโรงงานหลักในการผลิตรถฟอร์ด เรนเจอร์เพื่อส่งออกในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก
จากที่มีการคาดการณ์ว่าโรงงานเอเอทีจะดำเนินการผลิตใกล้เต็มกำลังการผลิตในอนาคตอันใกล้นี้ ฟอร์ดจึงได้ลงทุนจำนวน 186 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 6,269 ล้านบาทที่โรงงานเอฟทีเอ็มเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตรถกระบะเพิ่มเติม
ฟอร์ด เรนเจอร์ เป็นรถกระบะที่ขายดีที่สุดของฟอร์ดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก รวมถึงเป็นรถกระบะที่ขายดีที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ เวียดนาม ไต้หวัน กัมพูชา และเมียนมาร์ และเป็นรถกระบะที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับสองในประเทศออสเตรเลีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
ฟอร์ด เรนเจอร์ ครองอันดับรถกระบะที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับสามในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งการตลาดในเซ็กเมนต์รถกระบะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่มีการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ไปเมื่อปี พ.ศ. 2554 โดยฟอร์ดมีส่วนแบ่งการตลาดรถกระบะในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาสูงกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดที่ฟอร์ดเคยมีมา
ทั้งนี้ ฟอร์ดยังคงมีการผลิตกระบะเรนเจอร์ ที่โรงงานร่วมทุนออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย หรือ เอเอที ซึ่งจะยังคงเป็นโรงงานหลักในการผลิตรถฟอร์ด เรนเจอร์เพื่อส่งออกในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก
จากที่มีการคาดการณ์ว่าโรงงานเอเอทีจะดำเนินการผลิตใกล้เต็มกำลังการผลิตในอนาคตอันใกล้นี้ ฟอร์ดจึงได้ลงทุนจำนวน 186 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 6,269 ล้านบาทที่โรงงานเอฟทีเอ็มเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตรถกระบะเพิ่มเติม
ฟอร์ด เรนเจอร์ เป็นรถกระบะที่ขายดีที่สุดของฟอร์ดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก รวมถึงเป็นรถกระบะที่ขายดีที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์ เวียดนาม ไต้หวัน กัมพูชา และเมียนมาร์ และเป็นรถกระบะที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับสองในประเทศออสเตรเลีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
ฟอร์ด เรนเจอร์ ครองอันดับรถกระบะที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับสามในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งการตลาดในเซ็กเมนต์รถกระบะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่มีการเปิดตัวฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ไปเมื่อปี พ.ศ. 2554 โดยฟอร์ดมีส่วนแบ่งการตลาดรถกระบะในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาสูงกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดที่ฟอร์ดเคยมีมา