เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ รุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไป ถือเป็นการไมเนอร์เชนจ์ค่อนข้างเยอะพอสมควร ทั้งหน้าตา-ภายใน- เครื่องยนต์-และอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยอีกเพียบ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เป็นไปตามคอนเซ็ปต์ในการดีไซน์สไตล์อเมริกัน 7 ที่นั่ง คือ ความหรูหรา สะดวกสบาย เทคโนโลยี สมรรถนะ ซึ่งถือว่ารุ่นนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ลงตัวมากหากเทียบกับรุ่นเดิม
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเริ่มจากรูปลักษณ์ภายนอกมาพร้อมกระจังหน้าใหม่ ฝากระโปรงใหม่ ล้ออัลลอยใหม่ขนาด 18 นิ้ว และไฟหน้าใหม่ ซึ่งรวมถึงไฟส่องสว่างขณะขับขี่เวลากลางวัน ด้วยหากดูรวม ๆ แล้วหน้าตาก็ดูบึกบึน ทันสมัย มากขึ้น ขณะที่ภายในแผงแดชบอร์ดและคอนโซลด้านหน้าได้รับการปรับดีไซน์ให้สวยงามมาพร้อมหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ระบบอินโฟเทนเมนต์ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Siri Eyes Free ที่สามารถสั่งงานด้วยเสียงที่สะดวกสบายโดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย แถมยังเช็กลมยางผ่านจอได้ด้วย บวกกับภายในจะใช้วัสดุที่มีผิวสัมผัสนุ่มนวล สบายตา ไม่แข็งกระด้าง ขณะเดียวกันปุ่มต่าง ๆ ก็มีการจัดเรียงใหม่ ใช้งานได้ง่ายขึ้น เบาะที่นั่งฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง แต่ฝั่งผู้โดยสารแถวหน้าปรับด้วยมือเหมือนเดิม อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามาทำให้ภายในดูหรูหราขึ้นมากทีเดียว
อีกจุดหนึ่งที่สัมผัสได้หลังลองขับอยู่ 2 วัน และถือเป็นจุดเด่นของ เทรลเบลเซอร์ คือความเงียบ ถือว่าทำได้ดี ทั้งนี้เกิดจากการปรับปรุงซีลกระจกหน้าต่าง กระจกบังลมหน้า แผงประตูและแนวหลังคาใหม่เพื่อขจัดเสียงรบกวน ขณะที่กระจกหน้าต่างซ้าย-ขวา เพิ่มความหนาขึ้น 10 % ทำให้เงียบขึ้นขณะขับขี่มากกว่าเดิม 8 % และยังติดตั้งวัสดุซับเสียงรบกวนบริเวณหัวฉีดเพื่อให้ทำงานได้เงียบขึ้น ทั้งยังมาพร้อมยางรองตัวถังและยางรองแท่นเครื่องยนต์แบบใหม่ ซึ่งช่วยลดแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ ทำให้มีระดับเสียงและแรงสั่นสะเทือนภายในห้องโดยสารลดลง ทำให้ห้องโดยสารเงียบลง 2-4 เดซิเบล ซึ่งในขณะขับทดสอบ รู้สึกได้ถึงความเงียบในห้องโดยสาร เสียงจากพื้นถนน เสียงลมปะทะ รวมถึงเสียงเครื่องยนต์ ลดลงไปจากเดิมมาก
และอีกหนี่งจุดเด่นคือ ฟังก์ชันรีโมตสตาร์ท ซึ่งมีประโยชน์ตรงที่ว่า ผู้ขับขี่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้จากกุญแจและเปิดแอร์เพื่อให้ห้องโดยสารมีอุณหภูมิที่เย็นสบายก่อนขึ้นรถ ตรงที่ถูกใจมาก ขณะที่กระจกหน้าต่างคู่หน้าเลื่อนลงเล็กน้อยเพื่อช่วยในการปิดประตูให้ง่ายขึ้น
ขณะที่เครื่องยนต์ก็นำ 2.5 มาพัฒนาใหม่ให้แรง และประหยัด มากขึ้น จากเดิมที่มีเครื่อง 2.8 ลิตรให้เลือก แต่สำหรับ 2.5 เป็นแบบ 4 สูบเรียง ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบแปรผัน VGT ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิด 45 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบพาร์ตไทม์ที่ทันสมัย
จากการทดสอบไม่ทำให้รู้สึกว่ากำลังเครื่องยนต์ถดถอยแต่อย่างใด เวลาเคลื่อนตัวรู้สึกได้ถึงพละกำลังจากเครื่องยนต์ที่ถูกส่งออกมาได้ค่อนข้างทันใจ ดีกว่ารุ่นที่ผ่านมาพอสมควร การทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ทำงานได้ต่อเนื่อง นุ่มนวล ขับสบาย กำลังเครื่องยนต์ขณะเร่งแซงก็ตอบได้ทันท่วงที วิ่งทางยาวความเร็วก็ไต่ลำดับได้ไม่ยาก ขับแบบไม่ปรู๊ดปราด บวกกับความกว้างขวางของห้องโดยสาร สไตล์รถครอบครัวถือว่าสอบผ่านนะ
นอกจากนี้ เทรลเบลเซอร์ ยังติดตั้งพวงมาลัยไฟฟ้า (EPS) ที่ทำให้การบังคับควบคุมสะดวกสบายและแม่นยำมากขึ้นทั้งความเร็วสูงและต่ำ ขับใช้งานในเมืองเบาสบายคล่องตัวขึ้น เวลาจอดพวงมาลัยก็ควบคุมง่าย และเมื่อขับโดยใช้ความเร็วสูงก็มั่นใจ ไม่เบา-หนักเกินไป ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของพวงมาลัยคือช่วยในเรื่ององศาของถนน เมื่อองศาของถนนมีความลาดเอียง พวงมาลัยจะช่วยให้รถอยู่ในสภาพตรงไม่เอนตามองศาของถนนด้วย
ส่วนระบบช่วงล่างมีการปรับเซตมาใหม่ เน้นความนุ่มนวล นั่งสบายทุกสภาพถนน ตอนขับรู้สึกได้ถึงความนุ่มสบายของช่วงล่าง มีความยืดหยุ่นและซับแรงสะเทือนได้ดีกว่ารุ่นเดิมที่โคลงค่อนข้างมาก ช่วงที่เปลี่ยนมานั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลัง รู้สึกถึงความนุ่มสบาย อาจจะมีความกระด้างก็บ้างเล็กน้อย แต่ไม่ได้มากมายนักพอรับได้
ทริปนี้ นอกจากการขับขี่แบบธรรมดาแล้ว เชฟโรเลตยังให้พวกเราได้เรียนรู้ฟังก์ชั่นต่าง ๆ โดยมีสถานีที่จัดเตรียมไว้ให้อาทิ สถานีทดสอบแรงบิดและพละกำลังของเครื่องยนต์ สถานีทดสอบระบบพวงมาลัยระบบไฟฟ้าและระบบช่วงล่าง สถานีทดสอบการแจ้งเตือนการจราจรขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert ) สถานที่ทดสอบระบบแจ้งเตือนเมื่อออกจากช่องจราจร (Lane Departure Warning ) สถานีทดสอบระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา (Side Blind Zone Alert) สถานีทดสอบระบบเตือนการชนด้านหน้า(Forward Collision Alert ) และสถานีทดสอบระบบช่วยเหลือการจอดด้านหลัง(Rear Park Assist ) ทำให้เข้าใจระบบ-เทคโนโลยีใหม่ ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้มีระบบความปลอดภัยด้านอื่นเสริมอีกเพียบ
เทรลเบลเซอร์ ใหม่ มี 3 รุ่นย่อยให้เลือกรุ่น 2.5 L VGT 4X2 AT 1,244,000 บาท , รุ่น 2.5L VGT 4X2 AT LTZ 1,379,000 บาท และ รุ่น 2.5L VGT 4X4 AT LTZ 1,479,000 บาท
ถึงบรรทัดนี้ก็ต้องบอกว่า เทรลเบลเซอร์ เป็นรถเอสยูวี 7 ที่นั่ง ที่คุ้มค่า-คุ้มราคา ที่จ่ายไป ณ วันนี้ หากเทียบกับคู่แข่งที่มีอยู่ในตลาด ด้วยค่าตัวไม่ถึงล้านสี่ แต่มาพร้อมออปชั่นและระบบความปลอดภัยเพียบ ช่างล่าง การขับขี่ ถือเป็นตัวเลือกที่คุณมองข้ามไม่ได้เลย ...
