xs
xsm
sm
md
lg

สนุกไปกับ “ฟอร์ด โฟกัส” เส้นทางใน ออสเตรเลีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สัญลักษณ์ที่บ่งบอกประเทศเลย
ฟอร์ด ประเทศไทย เชื้อเชิญนักข่าวจากไทยเข้าร่วมทริป “Ford Focus: Eat, Play, Drive Australia และ เอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง เป็น 1 ใน 3 ฉบับ ร่วมเดินทางในครั้งนี้ด้วย สำหรับเส้นทางที่พวกเราจะขับพร้อมกับนักข่าวอีกหลายประเทศที่ได้รับเชิญเช่นกัน มีทั้งการขับขี่ในเมือง นอกเมือง ขึ้นเขา-ลงเขา หรือพูดได้ว่ามีครบรสเพื่อให้ลองสมรรถนะของ ฟอร์ด โฟกัส อีกทั้งยังมีจุดแวะพักแต่ละช่วงของการเดินทางที่สร้างความประทับใจไม่น้อยไปกว่าตัวรถ
ธีม ทริปนี้
หลังจากนอนพักหนึ่งคืน ณ โรงแรม QT Bondi ที่ตั้งอยู่ใกล้กับชาดหาด Bondi เช้าตรู่ม๊ากก ประมาณ ตี 5 ทางเจ้าหน้าที่ฟอร์ด เชิญนักข่าวที่ร่วมทริปมาถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมหาดบอนไดกับรถฟอร์ด โฟกัส ที่จอดเรียงรายเป็นนายแบบให้อยู่หลายสิบคัน เนื่องจากทริปนี้เป็นการขับขี่ในเชิงไลฟ์สไตล์ จึงมีการแข่งขันประกวดรูปถ่าย ที่สะท้อนแนวคิด Eat, Play, Drive ด้วย แน่นอนเราไม่ได้ชนะค่ะ ห้าห้า
ตื่นแต่ตี  5 เพื่อมาถ่ายรูปรถฟอร์ด
ก่อนออกเดินทางในวันแรก เจ้าหน้าที่ของฟอร์ด ทอม เฮอร์รอน ได้อธิบายคราว ๆถึงเส้นทางที่จะไป พร้อมให้ทุกคนทำตามกฎจราจรด้วย และให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ห้ามถ่ายภาพขณะขับรถ ให้ขับตามความเร็วที่ป้ายบอกข้างทาง และจากที่ขับผ่านมา ความเร็วสูงสุดที่กฎหมายกำหนด ไม่เกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ยิ่งขับผ่านในเมือง โรงเรียน ความเร็วต้องลดลงมา เหลือ 50-40-30 กิโลเมตร/ชั่วโมง การขับขี่ในทริปนี้จึงเป็นไปแบบชิล ชิล ไปเรื่อย ๆ ไม่รีบร้อน เพราะถ้าตำรวจจับเรื่องใหญ่และค่าปรับที่นี้แพงมาก 200-300เหรียญ ขึ้นอยู่ว่าเราขับเกินลิมิตกี่กิโล ถ้าเกินมากก็เสียมาก
ก่อนออกเดินทางก็ต้องมาพูดคุยกันก่อน
มุมหนึ่งในที่หาด  Bondi

โชคดี วันแรกที่ไปถึงแดดออก เลยเห็นคนที่นี้ออกจากบ้านมาชาดหาด เต็มไปหมด เลย
เริ่มขับออกนอกเมือง
เส้นทางที่วิ่งมีทั้งชมธรรมชาติและวิ่งตามแนวชาดหาด รวมถึงเส้นทางคดเคี้ยว เพื่อทดสอบสมรรถนะของรถ พวกเรามีกัน 3 คน แต่รถ 1 คันให้นั่งได้ 2 คน จึงมีน้องจากเว็บสนุกดอดคอมแยกนั่งไปกับนักข่าวจากเวียดนามซึ่งมา 3 คน เหมือนกับพวกเรา หลังจากได้เข้าประจำทีในรถแต่ละคันแล้ว เจ้าหน้าที่ของฟอร์ด ขอให้กลุ่มเราขับตามกันมา แต่ก่อนที่จะออกเดินทางเจ้าหน้าที่ได้มาเซ็ทเส้นทางให้โดยผ่านการพูด หรือระบบสั่งงานด้วยเสียง ซิงค์ 3 แต่ด้วยสำเนียงของเราอาจจะไม่คุ้นหูระบบเท่าไร พูดไปก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบ เลยต้องให้ฝรั่งมาพูดแทน รถจึงเคลื่อนออกไปได้
ระบบนำทางของเขาแม่นยำมาก ไม่มีโอกาสหลงเลย ชอบมาก
จุดแรกพวกเราขับจากในเมืองวิ่งออกนอกเมือง แม้ปริมาณรถจะไม่มากนักแต่ก็ต้องประกบติดคันหน้า เพราะถ้าหลงเรื่องใหญ่ บวกกับความที่ยังไม่คุ้นชินกับรถ-ถนน-เส้นทาง เลยต้องขับกันอย่างระมัดระวัง ไม่รีบแต่ต้องทิ้งระยะคันหน้าไม่มากนัก แม้บางช่วงจะจี้ติดมากไป แต่ฟอร์ด โฟกัส มีระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำ (Active City Stop) ก็ทำงานได้มีประสิทธิภาพ ช่วยไม่ให้ทิ่มตูดคันหน้าได้หลายครั้งอยู่
จุดแรกที่แวะ
น้ำตกเล็ก ๆ
จากหาดบอนได มายังหาด Wattamolla เราสลับกันขับ และแวะให้ชมน้ำตกเล็ก ๆ แถวนั้น และมุ่งหน้าต่อๆไปยังหาด Coledale ซึ่งไฮไลท์ช่วงนี้คือการับรถข้ามสะพาน Sea Cliff ที่สวยงามมาก และที่นี้เราได้หยุดพักดื่มน้ำชาริมชาดหาด พร้อมฟอร์ด ได้จัดอุปกรณ์ประกอบสำหรับการถ่ายภาพไว้ให้ มีทั้งเต้นท์ อุปกรณ์กีฬา มาเป็นพร็อบให้ถ่ายรูปด้วย หลังจากนั้นเราขับขึ้นเขา ซึ่งเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวมาก แต่ด้วยกำลังที่เหลือเฟือยของเครื่องยนต์อีโค่บูสท์อันทรงพลัง 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบที่สามารถมอบกำลังได้สูงถึง 132 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตร จึงทำให้การขับเป็นไปอย่างสนุกสนาน ผ่านมาอย่างฉลุยในทุกโค้ง
น้ำมันไหลลงทะเล มั้ง
ไฮไลท์ในช่วงเช้า คือการขับรถข้ามสะพาน Sea Cliff  ที่สวยงามมาก
สะพาน Sea Cliff
สะพาน Sea Cliff  สวยมาก
จุดแวะจิบกาแฟ-ชา และฟอร์ด เตรียมอุปกรณ์ให้ถ่ายภาพด้วย
นักข่าวเวียดนาม สนุกสนานกับกิจกรรมฟอร์ด
 2 นักข่าว สาวสวย
เส้นทางที่เราวิ่งมา สะพาน Sea Cliff
มื้อกลางวันเราแวะกินอาหารที่นี้
หลังจากนั้นลงมารับประทานอาหารเป็นแซนวิส พร้อมซุปฝักทอง ท่ามกลางอากาศที่หนาวมาก มือไม้แข็งไปหมด หลังจากนั้นก็เดินไปจุดวิว ที่มีชื่อว่า Mt Kiera Summit และขับยังฐานที่ Macquarie Pass ขับต่อไป...จุดหมายปลายทางของวันแรกเราอยู่ที่ Peppers Manor House ซึ่งเป็นบ้านพักนอกเมืองที่น่ารักมากแต่ เราไม่มีเวลาชื่นชม เพราะตารางกิจกรรมแน่นมาก
อาหารกลางวันของพวกเรา
 3 นักข่าวไทย  กินท่ามกลางอากาศหนาวม๊ากกก  มือแข็งเลย
ไปต่อ
จุดชมวิว  เส้นทางที่เราขับมา
ขับผ่านทุ่มหญ้าด้วย สวยดี
ก่อนที่จะเข้าห้องพัก ฟอร์ดได้จัดเตรียบ รถฟอร์ด โฟกัส ให้ 1 คัน เพื่อให้นักข่าวได้ทดลองขับการจอดรถแบบ Hand Free Parking โดยรถคันดังกล่าว ปิดกระจกแบบมิดชัด ดำไปทั้งคัน คนนั่งข้างในไม่สามารถมองเห็นข้างนอก แต่ก็มีเจ้าหน้าที่นั่งประกบคอยบอกให้เหยียบเบรก -คันเร่ง ตามเจ้าหน้าที่ด้านนอกบอกอีกที โดยที่ผู้ขับไม่ได้จับพวงมาลัยเลย หรือเรียกว่าระบบช่วยถอยจอดเข้าซอง (Perpendicular Park Assist) พูดง่าย ๆคือ เมื่อเปิดการทำงาน ระบบจะสแกนหาพื้นที่จอดรถว่างระหว่างรถยนต์คันอื่น ๆ เมื่อระบบพบพื้นที่จอด ระบบก็จะทำการควบคุมพวงมาลัยรถยนต์ และนำรถเข้าจอด โดยที่ผู้ขับขี่จะควบคุมเพียงแค่การเปลี่ยนเกียร์ การเบรก และการเหยียบคันเร่ง
ก่อนเข้าที่พัก มีการลองจอดรถแบบ Hand Free Parking  ภายในรถจะดำสนิท มองไม่เห็นข้างนอกเลย
ที่พัก คืนที่สอง
เช้าออกเดินทางกันต่อ
วันรุ่นขึ้นก่อนพวกเราจะขับกลับไปยังจุดเดิม ทางฟอร์ดได้ให้มีการแข่งขับประหยัดน้ำมัน ในช่วงเช้า และในช่วงบ่ายจะเป็นการทดสอบสมรรถ นะการขับขี่ เล็กน้อย ๆ ก่อนจะปล่อยให้พวกเราขับกลับมายังโรงแรมด้วยตัวเองแบบไม่มีรถนำ โดยเซทเนวิเกเตอร์ให้เรียบร้อย ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ชอบมากที่สุด เพราะ แผนที่มันแม่นยำมาก ไม่มีโอกาสเลี้ยวผิดเลย ทุกอย่างแปะปัง ทำให้การขับขี่ในทุกเส้นทางที่ไปไร้กังวล ไม่กลัวหลง หลังเรียนรู้กับมันในช่วงแรกชอบ แต่ถ้าในเมืองไทยมันอาจะไม่แม่นขนาดนี้
จุดแวะแรก เป็นห้องสมุด และขายกาแฟด้วย
มีรถจอดให้ถ่ายรูปทุกจุด
ลุยกันต่อ
มีให้เห็นตลอดเส้นทาง ห้ามวิ่งเกินตัวเลขที่กำหนดเด็ดขาด
วิ่งบนน้ำสวย สวย
ก่อนลงไปขับก็ต้องใส่หมวกให้เรียบร้อยก่อน
ไปต่อ
จอดเท่เลย
ถึงบรรทัดนี้ก็สรุปได้ว่า ฟอร์ด โฟกัส ยังเป็นรถที่ขับสนุก ขับง่าย คล่องตัว ไม่ว่าจะไปขับ ณ ที่ใดในโลก บวกกับมีเทคโนโลยีทันสมัยใส่เข้ามามาก ทำให้การขับขี่ง่าย สะดวกสบาย และปลอดภัย เมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัย..... “สนุก ทุกครั้งที่ขับ” .....
ถึงที่หมายโดยปลอดภัย

กำลังโหลดความคิดเห็น