xs
xsm
sm
md
lg

ถนนครึ่งโลกไม่พอวิ่ง...บทสรุปคาราวาน“โตโยต้า รีโว่”กรุงเทพ-อิตาลี 20,156 กม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เริ่มต้นด้วยการจราจรหนาแน่นย่านสีลม มุ่งสู่สภาพอากาศร้อน 50 องศา ฝ่าพายุทะเลทรายแถวเมืองจีนและอุซเบกิซสถาน ทุรกันดารการกินย่านอิหร่าน ผ่านช่องแคบข้ามทวีปเอเชีย-ยุโรปที่ตุรกี มุ่งสู่แม่น้ำดานูบ ชื่นชมมนต์ขลังแห่งบูดาเปสต์ จากนั้นเลียบเลาะเทือกเขาแอลป์ที่เยอรมนี ออสเตรีย โดนฝนเทกระหน่ำ พร้อมตอกย้ำความโหดด้วยลูกเห็บและหิมะกับอุณหภูมิหนาว 1 องศา เย็นจับใจแต่สุดท้ายก็แหวกทางนำพาไปถึงเมือง “เวนิส” ประเทศอิตาลีจนได้

คาราวานประวัติศาสตร์ “โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ พิสูจน์โลก” พิสูจน์แล้วว่า สมรรถนะอันยอดเยี่ยมของปิกอัพที่ผลิตจากเมืองไทยและความใจถึงของบริษัทโตโยต้า บวกความมุ่งมั่นของทีมงานและสื่อมวลชนร่วม 70 ชีวิต สามารถขับไปถึงจุดหมายนครเวนิส ด้วยระยะทาง 20,156 กิโลเมตร(เกินกว่าที่คาดหมายไว้ตอนแรก 19,250 กิโลเมตร) หรือย้อนรอย“มาร์โคโปโล”ได้สำเร็จ โดยแบ่งการขับ(นักขับ)เป็น 5 ช่วง ตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน ถึง 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ช่วงที่ 1 กรุงเทพ - ตุนหวง ประเทศจีน
ช่วงที่ 2 ตุนหวง - ทัชเค้นท์ ประเทศอุซเบกิสถาน
ช่วงที่ 3 ทัชเค้นท์ - เตหะราน ประเทศอิหร่าน
ช่วงที่ 4 เตหะราน - อิสตันบูล ประเทศตุรกี
ช่วงที่ 5 อิสตันบูล - เวนีส ประเทศอิตาลี ที่ผมรับไม่ต่อก็ช่วยขับไป 3,410 กิโลเมตร

ในการขับสเตจสุดท้ายนั้น ต้องขอบคุณเพื่อนๆที่ตะลุยกันมาก่อนหน้า ฝ่าฟันอุปสรรคด้วยระยะทางรวมน่าจะเกิน 16,000 กิโลเมตร ผลัดเปลี่ยนเวียนมือช่วยดูแลรักษารถเป็นอย่างดี จนมาถึงอิสตันบูล เมืองที่มีดินแดนอยู่ทั้งฝั่งเอเชียและยุโรป

ผมลงเครื่องที่สนามบินอตาเติร์ก เช้าวันที่ 7 กรกฎาคม ซึ่งก่อนหน้านั้นเพิ่งมีการก่อการร้ายและระเบิดฆ่าตัวตายมาหมาดๆ แต่ไม่ทันได้เหยียบแผ่นดินนาน ช่วงสายๆก็รับกุญแจขับต่อจากเพื่อนสเตจที่4 ทันที โดยมีจุดหมายแรกอยู่ที่ประเทศบัลกาเรีย
ข้ามช่องแคบบอสฟอรัสที่เชื่อมระหว่างเอเชีย-ยุโรป ที่ตุรกี

สำหรับไฮไลต์ในวันนั้นอยู่ในช่วงเช้าที่คาราวานต้องขับผ่าน สะพาน"บอสฟอรัส" เพื่อข้ามช่องแคบชื่อเดียวกันจากทวีปเอเชียไปฝั่งยุโรป คะเนความยาวน่าจะประมาณ 2 กิโลเมตร ซ้ายเป็นทะเลมาร์มะราที่เชื่อมต่อไปทะเลเมดิเตอเรเนียน ส่วนด้านขวาไปสู่ทะเลดำ ซึ่งถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยในการขับเชื่อมทวีป และผ่าทางไปครึ่งโลก โดยคาราวานไฮลักซ์ รีโว่ 9 คันจากเมืองไทย (และฟอร์จูนเนอร์อีกหนึ่งคัน)

ผมได้พาหนะเป็นรีโว่รุ่นท็อป ตัวถังดับเบิลแค็บ เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร 177 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (เบอร์ 03) เดินทางร่วมกับ “คุณบอม อัษฎาวุธ อาสาสรรพกิจ” จากนิตยสาร AUTOCAR และเป็นผู้จัดรายการทีวี-วิทยุชื่อดัง พร้อมสัมภาระเต็มรถทั้งเบาะนั่งแถวหลังและกระบะท้าย

ขับสบายครับไม่ต้องทำความคุ้นเคยกันนาน ยิ่งรับรู้ว่ารีโว่คันนี้แม้จะลุยหนักมาหลายประเทศ เพราะเห็นสภาพกระจกบังลมหน้าร้าวไปหนึ่งจุดและมีรอยวิ่งด่านล่างประมาณหนึ่งฟุต ริ้วรอยตัวถังผ่านสมรภูมิมาพอตัว แต่วิ่งจริงๆยังสัมผัสได้ถึงความแน่นของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง เรี่ยวแรงอัดได้เหลือๆ อัตราเร่งดี จังหวะเปลี่ยนเกียร์เนียนๆ กับเส้นทางออกนอกเมืองตุรกีมาชายแดนบัลกาเรีย เป็นถนนไฮเวย์ถนนกว้างหลายเลน แต่การจราจรก็หนาแน่นพอสมควร เพราะเห็นว่าเป็นวันหยุดยาวหลังผ่านเทศกาลถือศีลอดของศาสนาอิสลาม

จนขับมาถึงด่านขาออกประเทศตุรกี เพื่อเข้าประเทศบัลกาเรียที่เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป คาราวาน ไฮลักซ์ รีโว่เสียเวลาไปเยอะครับ จากคิดว่าสบายๆ แต่สุดท้ายกว่าจะผ่านด่านของสองประเทศได้รวมเวลากว่า 5 ชั่วโมง (รอกันตั้งแต่บ่ายโมงยัน 6 โมงเย็น) ดังนั้นกว่ามาถึงที่เมืองพรอฟดิฟ ที่พักคืนแรกก็เป็นเวลา 4 ทุ่ม (คาราวานไม่ได้ขับเข้าเมืองหลวงโซเฟีย)

อย่างไรก็ตาม อีกสองสามวันจากนั้นพวกเราก็ใช้ชีวิตอยู่ในบัลกาเรียและโรมาเนียนี่ละครับ สัมผัสบรรยากาศชนบทที่เน้นความเรียบง่าย ขณะที่สองฝั่งข้างทางเน้นปลูกไร่ดอกทานตะวัน น่าจะนำเมล็ดมาสกัดเป็นน้ำมันเข้าสู่กระบวนการอุตสาหกรรมใหญ่ (ไม่เห็นมีไร่ไหนเก็บตังถ่ายรูปเหมือนบ้านเรา)

รีโว่เบอร์03 คู่ใจ
เมืองปูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
คาราวาน ไฮลักซ์ รีโว่ เริ่มเข้ามาสัมผัสความศิวิไลซ์ของยุโรปอย่างจริงจัง เมื่อเข้าสู่กรุงบูดาเปสต์ประเทศฮังการี ที่นี่มีฉายาว่า “ประเทศของชาวแมกยาร์” (Country of the Magyars) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ทิศเหนือติดกับสโลวาเกีย และยูเครน ทิศใต้ติดกับโครเอเชีย เซอร์เบีย และมอนเตเนโกร ทิศตะวันออกติดกับโรมาเนีย ทิศตะวันตกติดกับออสเตรีย และสโลวีเนีย

ประเทศฮังการีมีพื้นที่ 93,000 ตารางกิโลเมตร เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดคือ “บูดาเปสต์” มีแม่น้ำดานูบไหลผ่าน ดังนั้นเมืองจึงแบ่งเป็นสองฝั่ง(เหมือนฝั่งพระนครและฝั่งธนบุรี) คือฝั่ง “บูดา” ที่เป็นเมืองเก่าเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมโบราณ พวกวัง ปราสาท และป้อมปราการ ขณะที่ฝั่ง“เปสต์”จะเป็นเมืองใหม่ที่เน้นความทันสมัย เป็นย่านธุรกิจการค้า (แต่ก็มีสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่และสวยงามอยู่เช่นกัน)

ที่นี่กลางวันอากาศร้อนระดับ 35 องศาแต่บรรยากาศดี เพราะผู้คนจะแต่งตัวกันอย่างเปิดเผย สบายๆ มาเดินเล่นและพักผ่อนกันทั่วเมือง ซึ่งเราค้างที่บูดาเปสต์เพียงคืนเดียว เสียดายไม่มีโอากาสได้เที่ยวชมมรดกที่งดงามของเมืองนี้มากนัก

รุ่งขึ้นคาราวาน ไฮลักซ์ รีโว่ เริ่มออกเดินทางทันที วันนี้น่าสนใจเพราะจะต้องผ่านหลายประเทศ นับรวมได้ 5 ประเทศเริ่มจากฮังการี สโลวาเกีย สาธารณรัฐเชค ออสเตรีย และเยอรมนี ด้วยระยะทางประมาณ 700 กิโลเมตร (บางประเทศก็ขับผ่านไม่ถึง 100 กิโลเมตร) เพื่อไปปิดท้ายครึ่งทางที่เมืองเบอช์เทสกาเดน ประเทศเยอรมัน

แต่กระนั้นก็ถึงด้วยความทุลักทุเล ผ่านฝนตกหนักบนทางหลวงระหว่างเมือง ซึ่งรถท้องถิ่นหลายคันตัดสินใจจอดข้างทาง ตั้งแต่รถบ้านทั่วไป ไล่ไปถึงปอร์เช่ 911 เทอร์โบ ต่างจากปิกอัพ ไฮลักซ์ รีโว่ ของไทยที่ยังเดินหน้าลุย ด้วยความระมัดระวัง ทั้งทิ้งระยะห่างเพิ่มขึ้น รักษาความเร็วต่ำแบบคงที่(ไม่เกิน 60 กม./ชม.)

จริงๆต้องชมสมรรถนะตั้งแต่ตอนถนนแห้งแล้วละครับ ทั้งเรื่องช่วงล่างการทรงตัว พร้อมการควบคุมที่แน่นหนึบมั่นใจ ยิ่งผ่านอุปสรรคอย่างฝนตกถนนเปียก อาการแฉลบไถลไม่มีให้เห็น

สำหรับเมืองเบอช์เทสกาเดน เป็นเมืองเล็กๆที่เน้นธุรกิจท่องเที่ยว มีแม่น้ำไหลผ่านและเป็นเมืองอยู่ตีนเทือกเขาแอลป์ ซึ่งจะเป็นจุดพักก่อนที่คาราวานไฮลักซ์ รีโว่จะขับผ่านเส้นทาง “กรอสก์ล็อกเนอร์” (Grossglocner) ซึ่งเป็นภูเขาสูง ข้ามไปยังฝั่งประเทศออสเตรียในวันถัดไป


ผ่านฝนตกหนักช่วงออสเตรีย-เยอรมนี

จุดถ่ายรูปสวยๆบนเส้นทางกรอสก์ล็อกเนอร์


ผมมีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศบนเส้นทาง “กรอสก์ล็อกเนอร์” อยู่สองวัน วันแรกต้องบอกว่ามืดฟ้ามัวดินด้วยฝนและลูกเห็บ อีกวันก็ขับ"โตโยต้า รีโว่" ขึ้นไปโดนหิมะ อุณหภูมิลดลงเหลือ 1 องศา(ตามหน้าจอของรีโว่) ด้วยตั้งใจขึ้นไปที่จุดดูยอดเขา“กรอสก์ล็อกเนอร์” ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,798 เมตร แต่ด้วยสภาพอากาศแบบนี้ก็ไม่เห็นยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศออสเตรียครับ ได้แต่เพียงเข้าร้านขายของที่ระลึก ซื้อเสื้อเก็บไว้ในความทรงจำ

…ใครชอบบรรยากาศของเทือกเขาแอลป์ที่สวิสเซอร์แลนด์ลองเปลี่ยนมาเที่ยวแถวนี้ น่าจะประทับใจเช่นกันครับ

หลังฝ่าฝน ลูกเห็บ หิมะ ครบสามกษัตริย์ ผมเพิ่งจะเห็นว่าตอนนี้ กระจกหน้าร้าวไปสามจุด และวิ่งกระจายมากขึ้นแล้ว(จากตอนแรกที่มีจุดเดียว) แต่ได้ทีมงานเซอร์วิสของโตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย ที่เดินทางไปด้วยมาช่วยดูแลหยอดกาวใจ พร้อมตรวจสอบสภาพรถในจุดอื่นๆเป็นอย่างดีทุกๆคันครับ

หันหลังให้ “กรอสก์ล็อกเนอร์” เพื่อมุ่งหน้าสู่สวิสเซอร์แลนด์ และเข้าสู่อิตาลีเป้าหมายสุดท้าย ช่วงนี้ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น เพียงแต่สูดอากาศบริสุทธิ์ ชมภูมิทัศน์สองข้างทางเป็นเนินเขา สลับภูเขาสูงใหญ่ที่ยังเหลือคราบไคลของหิมะปกคลุม รวมถึงทะเลสาบน้ำสีฟ้า ที่แต่ละประเทศร่วมมือกันทำเขื่อนสร้างฝ่าย เพื่อประโยชน์ด้านการชลประทานอย่างน่าชื่นชม














สรุปในสเตจที่ 5 คาราวาน ไฮลักซ์ รีโว่ ขับผ่าน 10 ประเทศ (มากที่สุดในทุกสเตจ)ไล่ตั้งแต่ตุรกี บัลกาเรีย โรมาเนีย ฮังการี สโลวาเกีย สาธารณรัฐเชค ออสเตรีย เยอรมนี สวิสเซอร์แลนด์ และอิตาลี พร้อมปิดฉากอย่างยิ่งใหญ่ที่เกาะเวนิส

...ผู้คร่ำหวดในการท่องเที่ยวเดินทางบอกว่า ถ้าคุณมาอิตาลี ไม่ไปโรมก็ได้ ไม่ไปมิลาน หรือ ฟรอเรนซ์ก็ได้ แต่คุณต้องมาที่ “เวนิส” แบบไม่มีเงื่อนไข ซึ่งผมก็เห็นจริงตามนั้น กับมหานครแห่งสายน้ำ ที่มีมนต์ขลังคลาสสิกแบบหาตัวจับได้ยาก

ส่วนพิธีเฉลิมฉลองการเดินทาง ประกาศความสำเร็จมีขึ้นที่เกาะจิออจิโอ แมกกิออเร (เกาะหนึ่งในเวนิส) นำโดย “วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่เดินทางมาขับช่วงสุดท้าย พร้อมสื่อมวลชนอาวุโสมาร่วมต้อนรับกันอย่างอบอุ่น

ปิดฉากการเดินทางที่น่าประทับใจ ต้องขอบคุณสมรรถนะของโตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ อันแกร่งกล้าที่พาทุกชีวิตให้เดินทางอย่างปลอดภัย บรรลุตามเป้าหมายของการพิสูจน์โลกด้วยปิกอัพที่ผลิตจากเมืองไทยคันนี้





ตารางการเดินทางในสเตจที่5

วันเส้นทางระยะทาง(กม.)
1อิสตันบูล ตุรกี - พรอฟดิฟ บัลกาเรีย444
2พรอฟดิฟ บัลกาเรีย - รูเซ บัลกาเรีย308
3รูเซ บัลกาเรีย - บูคาเรสต์ โรมาเนีย - บราชอฟ โรมาเนีย277
4บราชอฟ โรมาเนีย - ออราเดีย โรมาเนีย427
5ออราเดีย โรมาเนีย - บูดาเปสต์ ฮังการี316
6บูดาเปสต์ ฮังการี - เบอช์เทสกาเดน เยอรมนี694
7เบอช์เทสกาเดน เยอรมนี - กรอสสล็อกเนอร์ ออสเตรีย - เลียนซ์ ออสเตรีย202
8เลียนซ์ ออสเตรีย - กรอสสล็อกเนอร์ ออสเตรียวันพักไม่นับระยะทาง
9เลียนซ์ ออสเตรีย - ลิวิกโน อิตาลี345
10ลิวิกโน อิตาลี - เวนิส อิตาลี397
11เวนิส อิตาลีพิธีปิดอย่างเป็นทางการ

คลิปจากรายการ Motoring Onair ออกอากาศเมื่อวันเสาร์ที่ 23 กรกรฎาคมที่ผ่านมา





วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้บริหารโตโยต้า กับบรรดาสื่อมวลชนอาวุโสร่วมแสดงความยินดีที่เวนิส
ส่วนหนึ่งของมือขับสเตจสุดท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น