ข่าวต่างประเทศ-ค่ายรถยนต์ปอร์เช่เผยยอดส่งมอบรถใหม่ภายในระยะเวลา 3 เดือนแรกของปี 2016 ทำได้กว่า 55,974 คันทั่วโลก หรือเติบโตขึ้นประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยประเทศที่มียอดจำหน่ายเติบโตสูงสุดคือ จีน ทำได้ 16,409 คัน เพิ่มขึ้น 23.5 เปอร์เซ็นต์
รายงานจาก Porsche AG สตุ๊ดการ์ท ระบุว่า หัวใจหลักของการเติบโตด้านยอดจำหน่ายในครั้งนี้เกิดจาก ความสำเร็จของรถยนต์ปอร์เช่ มาคันน์ (Macan) และยอดจำหน่ายอันดีเยี่ยมของปอร์เช่ในประเทศจีน ที่เพิ่มขึ้น 23.5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับ Detlev von Platen สมาชิกบอร์ดบริหารฝ่ายขายและการตลาด ถือว่าตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจ และความดึงดูดในแบรนด์รถยนต์ปอร์เช่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับหลักการบริหารงาน ที่เน้นความพึงพอใจและความปลอดภัยของลูกค้า มากกว่าการมุ่งเป้าไปที่ยอดจำหน่ายแต่เพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้รถยนต์ SUV ของปอร์เช่ ถือเป็นรุ่นหลักที่ผลักดันให้เกิดการเติบโตขึ้นในไตรมาสแรกของปี จากยอดจำหน่ายถึง 21,576 คันของปอร์เช่ มาคันน์ อันเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ามาคันน์มีอัตราการเติบโตประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วยปอร์เช่ คาเยนน์ (Cayenne) จากยอดจำหน่าย 17,598 คัน เพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งความต้องการรถสปอร์ต 2 ประตูที่เพิ่มขึ้นของเคย์แมน (Cayman) และบ็อกซเตอร์ (Boxster) ถึงแม้รถทั้ง 2 รุ่นกำลังจะได้รับการแทนที่ด้วยการมาถึงของ 718 บ็อกซเตอร์ และ 718 เคย์แมนใหม่ก็ตาม รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางทั้งสองรุ่นนี้ ยังสามารถสร้างอัตราการเติบโตด้วยเปอร์เซ็นต์ตัวเลข 2 หลัก ปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ ส่งมอบถึงมือลูกค้าทั้งหมด 3,029 คัน เพิ่มขึ้น 23 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ปอร์เช่เคย์แมนมียอดส่งมอบที่ 2,822 คัน เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ ทางด้านปอร์เช่ 911 ยังคงรักษาตำแหน่งสุดยอดรถสปอร์ตที่ได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย ด้วยยอดจำหน่ายรวมถึง 7,711 คัน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมีความใกล้เคียงกับผลสำเร็จในช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว
“เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราได้ประจักษ์ถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ปอร์เช่ในตลาดประเทศจีน จากผลงานที่ยอดเยี่ยมในช่วงไตรมาสแรกของปี 2016 ด้วยตัวเลขการจำหน่ายที่สูงถึง 16,409 คัน เพิ่มขึ้น 23.5 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ยอดขายในประเทศจีนขึ้นนำหน้ายอดขายในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อย (ยอดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 12,238 คัน) สำหรับยอดจำหน่ายในทวีปยุโรป ยังคงรักษาตัวเลขที่ดีใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา มีเพียงยอดจำหน่ายในประเทศเยอรมนีเท่านั้นที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการสั่งรถยนต์ปอร์เช่ในประเทศเยอรมนี ยังคงแสดงให้เห็นถึงสัญญาณที่ดีอยู่” von Platen กล่าว
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring
รายงานจาก Porsche AG สตุ๊ดการ์ท ระบุว่า หัวใจหลักของการเติบโตด้านยอดจำหน่ายในครั้งนี้เกิดจาก ความสำเร็จของรถยนต์ปอร์เช่ มาคันน์ (Macan) และยอดจำหน่ายอันดีเยี่ยมของปอร์เช่ในประเทศจีน ที่เพิ่มขึ้น 23.5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับ Detlev von Platen สมาชิกบอร์ดบริหารฝ่ายขายและการตลาด ถือว่าตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจ และความดึงดูดในแบรนด์รถยนต์ปอร์เช่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับหลักการบริหารงาน ที่เน้นความพึงพอใจและความปลอดภัยของลูกค้า มากกว่าการมุ่งเป้าไปที่ยอดจำหน่ายแต่เพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้รถยนต์ SUV ของปอร์เช่ ถือเป็นรุ่นหลักที่ผลักดันให้เกิดการเติบโตขึ้นในไตรมาสแรกของปี จากยอดจำหน่ายถึง 21,576 คันของปอร์เช่ มาคันน์ อันเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ามาคันน์มีอัตราการเติบโตประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วยปอร์เช่ คาเยนน์ (Cayenne) จากยอดจำหน่าย 17,598 คัน เพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งความต้องการรถสปอร์ต 2 ประตูที่เพิ่มขึ้นของเคย์แมน (Cayman) และบ็อกซเตอร์ (Boxster) ถึงแม้รถทั้ง 2 รุ่นกำลังจะได้รับการแทนที่ด้วยการมาถึงของ 718 บ็อกซเตอร์ และ 718 เคย์แมนใหม่ก็ตาม รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางทั้งสองรุ่นนี้ ยังสามารถสร้างอัตราการเติบโตด้วยเปอร์เซ็นต์ตัวเลข 2 หลัก ปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ ส่งมอบถึงมือลูกค้าทั้งหมด 3,029 คัน เพิ่มขึ้น 23 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ปอร์เช่เคย์แมนมียอดส่งมอบที่ 2,822 คัน เพิ่มขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ ทางด้านปอร์เช่ 911 ยังคงรักษาตำแหน่งสุดยอดรถสปอร์ตที่ได้รับความนิยมอย่างไม่เสื่อมคลาย ด้วยยอดจำหน่ายรวมถึง 7,711 คัน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมีความใกล้เคียงกับผลสำเร็จในช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว
“เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราได้ประจักษ์ถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ปอร์เช่ในตลาดประเทศจีน จากผลงานที่ยอดเยี่ยมในช่วงไตรมาสแรกของปี 2016 ด้วยตัวเลขการจำหน่ายที่สูงถึง 16,409 คัน เพิ่มขึ้น 23.5 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ยอดขายในประเทศจีนขึ้นนำหน้ายอดขายในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่เรียบร้อย (ยอดจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 12,238 คัน) สำหรับยอดจำหน่ายในทวีปยุโรป ยังคงรักษาตัวเลขที่ดีใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา มีเพียงยอดจำหน่ายในประเทศเยอรมนีเท่านั้นที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการสั่งรถยนต์ปอร์เช่ในประเทศเยอรมนี ยังคงแสดงให้เห็นถึงสัญญาณที่ดีอยู่” von Platen กล่าว
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring