ตลาดรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวีกำลังมาแรง ยอดขายในปีที่ผ่านมาพุ่งสวนตลาดเติบโต 37% ค่ายฮอนด้ามั่นใจเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 30-35% หลังจากเปิดตัว “ฮอนด้า บีอาร์-วี” เสริมทัพรุ่นพี่ เอชอาร์-วี และซีอาร์-วี จับกลุ่มลูกค้าครอบคลุมตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงกลุ่มบนของรถเอสยูวีตลาด
ตลาดรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวีกำลังมาแรง ยอดขายในปีที่ผ่านมาพุ่งสวนตลาดเติบโต 37% ค่ายฮอนด้ามั่นใจเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 30-35% หลังจากเปิดตัว “ฮอนด้า บีอาร์-วี” เสริมทัพรุ่นพี่ เอชอาร์-วี และซีอาร์-วี จับกลุ่มลูกค้าครอบคลุมตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงกลุ่มบนของรถเอสยูวีตลาด
“ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจเลือกซื้อรถที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ หรือการใช้งานที่อเนกประสงค์มากขึ้น ทำให้รถกลุ่มเอสยูวีมีการขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา และจะเห็นในปีที่แล้วกลุ่มเอสยูวีเป็นตลาดเดียว ที่มีอัตราการเติบโตสวนภาพรวมตลาดรถโดยรวมของไทย หรือขยายตัวมากถึง 37%”
นั่นเป็นคำกล่าวของ “พิทักษ์ พฤทธิสาริกร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในงานเปิดตัวรถเอสยูวีรุ่นใหม่ “ฮอนด้า บีอาร์-วี” พร้อมกับชี้แจงว่า การเปิดตัวบีอาร์-วีเป็นการเสริมทางเลือกให้ผู้บริโภครอบคลุมมากขึ้น จากปัจจุบันฮอนด้ามีเอสยูวีจำหน่าย 2 รุ่น โดยรุ่นซีอาร์-วีจะรองรับลูกค้ากลุ่มบน รองลงมาเป็นรุ่นเอชอาร์-วี และเล็กสุดจะเป็นรุ่นบีอาร์-วี เหมือนกับในรถเก๋งที่ฮอนด้ามีรถรุ่นแอคคอร์ดจับตลาดบน ต่อมาก็เป็นซีวิคและรุ่นซิตี้ตามลำดับ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าในทุกกลุ่ม
“การเปิดตัวบีอาร์-วี จะผลักดันให้ยอดขายเอสยูวีฮอนด้าเติบโตต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมามีรุ่นซีอาร์-วีและเอชอาร์-วี สามารถทำยอดขายรวม 3.4 หมื่นคัน หรือเป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของยอดขายรถฮอนด้าทั้งหมด และเมื่อแนะนำบีอาร์-วีสู่ตลาดทำให้สัดส่วนจะอยู่ระดับ 30-35% จากยอดขายรถฮอนด้ารวมปีนี้ประมาณ 1.1 แสนคัน และจะผลักดันให้ภาพรวมตลาดเอสยูวีในไทยขยายตัว ตลอดจนกลุ่มรถซับคอมแพ็กต์ หรือบี-เอสยูวี มีสัดส่วนเพิ่มด้วย” พิทักษ์กล่าว
ตลาดรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวีกำลังมาแรง ยอดขายในปีที่ผ่านมาพุ่งสวนตลาดเติบโต 37% ค่ายฮอนด้ามั่นใจเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 30-35% หลังจากเปิดตัว “ฮอนด้า บีอาร์-วี” เสริมทัพรุ่นพี่ เอชอาร์-วี และซีอาร์-วี จับกลุ่มลูกค้าครอบคลุมตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงกลุ่มบนของรถเอสยูวีตลาด
“ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสนใจเลือกซื้อรถที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ หรือการใช้งานที่อเนกประสงค์มากขึ้น ทำให้รถกลุ่มเอสยูวีมีการขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา และจะเห็นในปีที่แล้วกลุ่มเอสยูวีเป็นตลาดเดียว ที่มีอัตราการเติบโตสวนภาพรวมตลาดรถโดยรวมของไทย หรือขยายตัวมากถึง 37%”
นั่นเป็นคำกล่าวของ “พิทักษ์ พฤทธิสาริกร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในงานเปิดตัวรถเอสยูวีรุ่นใหม่ “ฮอนด้า บีอาร์-วี” พร้อมกับชี้แจงว่า การเปิดตัวบีอาร์-วีเป็นการเสริมทางเลือกให้ผู้บริโภครอบคลุมมากขึ้น จากปัจจุบันฮอนด้ามีเอสยูวีจำหน่าย 2 รุ่น โดยรุ่นซีอาร์-วีจะรองรับลูกค้ากลุ่มบน รองลงมาเป็นรุ่นเอชอาร์-วี และเล็กสุดจะเป็นรุ่นบีอาร์-วี เหมือนกับในรถเก๋งที่ฮอนด้ามีรถรุ่นแอคคอร์ดจับตลาดบน ต่อมาก็เป็นซีวิคและรุ่นซิตี้ตามลำดับ เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าในทุกกลุ่ม
“การเปิดตัวบีอาร์-วี จะผลักดันให้ยอดขายเอสยูวีฮอนด้าเติบโตต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมามีรุ่นซีอาร์-วีและเอชอาร์-วี สามารถทำยอดขายรวม 3.4 หมื่นคัน หรือเป็นสัดส่วนประมาณ 30% ของยอดขายรถฮอนด้าทั้งหมด และเมื่อแนะนำบีอาร์-วีสู่ตลาดทำให้สัดส่วนจะอยู่ระดับ 30-35% จากยอดขายรถฮอนด้ารวมปีนี้ประมาณ 1.1 แสนคัน และจะผลักดันให้ภาพรวมตลาดเอสยูวีในไทยขยายตัว ตลอดจนกลุ่มรถซับคอมแพ็กต์ หรือบี-เอสยูวี มีสัดส่วนเพิ่มด้วย” พิทักษ์กล่าว