ขั้นแรกในการเดินทางไปดวงจันทร์ของ Audi ประสบความสำเร็จแล้ว และคราวนี้เหลือเพียงแค่ผลของการแข่งขัน ที่ทำให้พวกเขารับเลือกนั้น จะทำให้ตัวเองได้สมปรารถนาตามที่ลงทุนลงแรงกันหรือไม่?
เรื่องของเรื่องคือมีการแข่งขันที่เรียกว่า Google Lunar XPRIZE ซึ่งเป็นการประกวดการพัฒนายานยนต์ สำหรับใช้สำรวจบนพื้นผิวดวงจันทร์ และมีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 16 ทีม โดยหนึ่งในนั้นมี Audi ที่ได้ผนึกกำลังกับพวกนักวิทยาศาสตร์ฟรีแลนซ์ในการสร้างผลงานขึ้นมา และใช้ชื่อว่า Audi Quattro ซึ่เรียกว่าเป็นชื่อที่ได้ทั้งการเป็นตำนานของระบบขับเคลื่อน และการประชาสัมพันธ์รวมถึงงานด้านการตลาด
ตัวรถถูกผลิตจากอะลูมิเนียมที่มีความแข็งแกร่งระดับสูง และมีน้ำหนักประมาณ 35 กิโลกรัม และเพื่อให้สามารถลัยบนพื้นผิวดวงจันทร์ได้อย่างสะดวก ทาง Audi ได้ประยุกต์ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ใช้อยู่ในรถยนต์ในสายการผลิตมาใช้กับ Lunar Quattro คันนี้ อีกทั้งตัวรถยังหมุนได้ 360 องศา และขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงสุด 3.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง
แน่นอนว่าโครงการนี้ไม่ธรรมดา เพราะนอกจากจะได้รับเงินรางวัลที่สูงถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 1,050 ล้านบาทแล้ว ต้นแบบของผู้ชนะยังจะได้รับการต่อยอด เพื่อนำไปใช้งานจริงกับโครงการที่กำลังจะเดินทางไปจริงๆ ของ NASA ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในปลายปี 2017 เป็นอย่างเร็วที่สุด
สำหรับโครงการลุยดวงจันทร์อีกครั้งของ NASA จะเป็นการลงลงจอดใกล้กับเส้นศูนย์สูตรของดวงจันทร์ ซึ่งอยู่ใกล้กับตำแหน่งที่มนุษย์คนสุดท้ายขับยานลงมาเยือนดวงจันทร์เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว
เรื่องของเรื่องคือมีการแข่งขันที่เรียกว่า Google Lunar XPRIZE ซึ่งเป็นการประกวดการพัฒนายานยนต์ สำหรับใช้สำรวจบนพื้นผิวดวงจันทร์ และมีทีมเข้าร่วมทั้งหมด 16 ทีม โดยหนึ่งในนั้นมี Audi ที่ได้ผนึกกำลังกับพวกนักวิทยาศาสตร์ฟรีแลนซ์ในการสร้างผลงานขึ้นมา และใช้ชื่อว่า Audi Quattro ซึ่เรียกว่าเป็นชื่อที่ได้ทั้งการเป็นตำนานของระบบขับเคลื่อน และการประชาสัมพันธ์รวมถึงงานด้านการตลาด
ตัวรถถูกผลิตจากอะลูมิเนียมที่มีความแข็งแกร่งระดับสูง และมีน้ำหนักประมาณ 35 กิโลกรัม และเพื่อให้สามารถลัยบนพื้นผิวดวงจันทร์ได้อย่างสะดวก ทาง Audi ได้ประยุกต์ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ใช้อยู่ในรถยนต์ในสายการผลิตมาใช้กับ Lunar Quattro คันนี้ อีกทั้งตัวรถยังหมุนได้ 360 องศา และขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงสุด 3.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง
แน่นอนว่าโครงการนี้ไม่ธรรมดา เพราะนอกจากจะได้รับเงินรางวัลที่สูงถึง 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 1,050 ล้านบาทแล้ว ต้นแบบของผู้ชนะยังจะได้รับการต่อยอด เพื่อนำไปใช้งานจริงกับโครงการที่กำลังจะเดินทางไปจริงๆ ของ NASA ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในปลายปี 2017 เป็นอย่างเร็วที่สุด
สำหรับโครงการลุยดวงจันทร์อีกครั้งของ NASA จะเป็นการลงลงจอดใกล้กับเส้นศูนย์สูตรของดวงจันทร์ ซึ่งอยู่ใกล้กับตำแหน่งที่มนุษย์คนสุดท้ายขับยานลงมาเยือนดวงจันทร์เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว