ค่าย “มาสด้า” แรง! กลับมาทำสถิติยอดขายต่อเดือนสูงสุดในรอบ 2 ปี หลังจบเดือนพฤศจิกายนกวาดยอดไปกว่า 4,000 คัน และเป็นรายเดียวที่มีอัตราการเติบโตในช่วง 11 เดือนแรกที่ผ่านมา ขณะที่ในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 แรงต่อเนื่องปิดยอดจองกว่า 4,500 คัน โดยพระเอกของบูธเป็น “มาสด้า2” ใหม่ ควงคู่มากับครอสโอเวอร์ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3”
ฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหารมาสด้า บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ยอดขายในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาทะลุเกิน 4,000 คัน นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี โดยมียอดขายสูงถึง 4,197 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 66.2% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายนปี 2557 จำนวน 2,525 คัน สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 5.5% และมาสด้า2 ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องมียอดขายรวม 1,912 คัน เพิ่มขึ้น 207% ตามมาด้วยมาสด้า3 จำนวน 610 คัน มาสด้า CX-5 จำนวน 422 คัน รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 656 คัน และน้องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว ออลนิวมาสด้า CX-3 จำนวน 597 คัน
“หากนำเอาตัวเลขยอดขายรวมตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายนของปีนี้ ปรากฏว่ามาสด้ายังคงเป็นเจ้าเดียวที่เติบโตมากที่สุดสวนกระแสของตลาด โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 33,838 คัน เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 อยู่ที่ 31,527 คัน สามารถครองส่วนแบ่งตลาด 4.9% เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยแบ่งออกเป็นมาสด้า2 ขายได้มากที่สุดจำนวน 16,633 คัน เพิ่มขึ้น 148% ตามมาด้วยมาสด้า3 จำนวน 6,411 คัน มาสด้า CX-5 จำนวน 3,167 มาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 7,013 และล่าสุด CX-3 จำนวน 597 คัน นอกจากนี้ยังมีรถพรีเมียมคาร์อีกจำนวน 17 คัน”
ทาเกสึเอะกล่าวว่า ส่วนเดือนธันวาคมที่มาสด้าได้เข้าร่วมงานงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคมที่ผ่านมา ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวของมาสด้าเช่นกัน โดยเฉพาะรถยนต์ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟทุกรุ่นที่มาสด้านำมาจัดแสดง รถทุกคันต่างได้รับความสนใจอย่างมากจากลูกค้าชาวไทย สามารถคว้ายอดจองในครั้งนี้เหนือความคาดหมาย ด้วยการมียอดจองจำนวน 4,542 คัน โดยเฉพาะฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์ที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3” ที่ควงคู่มากับ “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” ใหม่ จากการเพิ่มรุ่นเข้ามาโดยการติดตั้งไฟหน้า LED และกล้องมองหลัง รวมทั้งการเพิ่ม Day Time Running Light และมีการปรับราคาขายตามโครงสร้างภาษีใหม่ที่จะเริ่มใช้ในปีหน้า เนื่องจากสามารถผ่านข้อกำหนดในเรื่องการประหยัดน้ำมัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมาตรฐานความปลอดภัย ส่งผลให้มาสด้า2 กลายเป็นรถยนต์ที่ให้ความคุ้มค่า คุ้มราคา แถมอัตราการประหยัดน้ำมันดีที่สุดถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน กลายเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับพรีเมียมหนึ่งเดียวในคลาส ด้วยราคาขายเริ่มต้นเพียง 5.29 แสนเท่านั้น
“จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคต้องตัดสินใจอย่างละเอียดในการเลือกซื้อรถที่ตอบโจทย์การใช้งานที่เหมาะสมกับความต้องการในทุกๆ ด้าน ลูกค้ามีความต้องการรถยนต์ที่มีคุณภาพสูง เครื่องยนต์พลังแรง ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน มีความปลอดภัยสูง รูปลักษณ์สวยงาม มีราคาที่เหมาะสม และสามารถตอบสนองการใช้งานที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด โดยเฉพาะรถยนต์ที่ให้ได้ทั้งความแรงและสามารถประหยัดน้ำมันในรถยนต์คันเดียวกัน” ฮิเดสึเกะ
สำหรับสาเหตุสำคัญที่ทำให้บูธมาสด้ามีคึกคักตลอดทั้งงานฯ เนื่องจากในปีนี้มาสด้ามีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ถึง 3 รุ่น และมาพร้อมการการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ของรถมาสด้า2 “น้องนาย” หรือ ณภัทร เสียงสมบุญ เพื่อสร้างการสื่อสารให้เข้าถึงลูกค้ากับมาสด้า 2 ใหม่ ซึ่งเป็นพระเอกของงานนี้ด้วยยอดจองทั้งสิ้น 2,135 คัน ตามมาด้วยดาวเด่นน้องใหม่ล่าสุด ฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์ มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 มียอดจอง 908 คัน รวมถึงครอสโอเวอร์ มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 มียอดจองรวม 454 คัน ตามมาด้วยรถยนต์นั่งคอมแพ็คคาร์มาสด้า3 มียอดจองรวมทั้งสิ้น 727 คัน และรถสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 โปร มียอดจองรวมทั้งสิ้น 308 คัน และรถสปอร์ตโรดสเตอร์ ออลนิว Mazda MX-5 จำนวน 10 คัน ส่งผลให้ยอดจองประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นผลพวงมาจากการที่ลูกค้าให้การตอบรับกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟและรูปลักษณ์การออกแบบอันสวยงามภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ ที่การันตีจากการใช้งานและลูกค้ามีการบอกต่อปากต่อปาก รวมทั้งการเดินหน้าจัดกิจกรรมด้านการตลาดอย่างต่อเนื่องของมาสด้า เพื่อสร้างการรับรู้ด้านผลิตภัณฑ์อยู่ตลอดปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่ด้านยอดขายที่ได้รับการตอบรับอย่างดี
โดยเฉพาะการเปิดตัวรถสปอร์ตโรดสเตอร์ เจนเนอเรชั่นที่ 4 (ND) All-New Mazda MX-5 เป็นรถ Iconic ของมาสด้าที่เป็นสัญลักษณ์และต้นตำรับของรถสปอร์ตน้ำหนักเบา สมรรถนะที่เน้นถึงความสนุกสนานในการขับขี่การตอบสนองได้ทันใจ ความแม่นยำในการควบคุมที่ทำได้ตามใจสั่งของผู้ขับขี่ หรือ จินบะ-อิตไต ความสมดุลการทรงตัวและเสน่ห์ของรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่มีบทพิสูจน์จากการตอบรับของผู้ใช้ทั่วโลก กับการเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขายดีที่สุดในโลกจากการบันทึกของกินเนสบุ๊คเวิร์ลออฟเรคคอร์ด มาสด้า MX-5 เจนเนอเรชั่นล่าสุด มาพร้อมกับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จี ขนาด 2000 ซีซี ระบบช่วงล่างและโครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ออกแบบด้วยแนวทางการออกแบบโคโดะ ที่ให้ความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวทั้งคันสะกดทุกสายตา เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นอย่างยาวนานของการพัฒนารถสปอร์ต ดีไซน์แบบสปอร์ต การขับขี่อย่างสนุกสนาน ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์มาสด้า
ฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหารมาสด้า บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ยอดขายในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาทะลุเกิน 4,000 คัน นับเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี โดยมียอดขายสูงถึง 4,197 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 66.2% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤศจิกายนปี 2557 จำนวน 2,525 คัน สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 5.5% และมาสด้า2 ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องมียอดขายรวม 1,912 คัน เพิ่มขึ้น 207% ตามมาด้วยมาสด้า3 จำนวน 610 คัน มาสด้า CX-5 จำนวน 422 คัน รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 656 คัน และน้องใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว ออลนิวมาสด้า CX-3 จำนวน 597 คัน
“หากนำเอาตัวเลขยอดขายรวมตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายนของปีนี้ ปรากฏว่ามาสด้ายังคงเป็นเจ้าเดียวที่เติบโตมากที่สุดสวนกระแสของตลาด โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 33,838 คัน เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 อยู่ที่ 31,527 คัน สามารถครองส่วนแบ่งตลาด 4.9% เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยแบ่งออกเป็นมาสด้า2 ขายได้มากที่สุดจำนวน 16,633 คัน เพิ่มขึ้น 148% ตามมาด้วยมาสด้า3 จำนวน 6,411 คัน มาสด้า CX-5 จำนวน 3,167 มาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 7,013 และล่าสุด CX-3 จำนวน 597 คัน นอกจากนี้ยังมีรถพรีเมียมคาร์อีกจำนวน 17 คัน”
ทาเกสึเอะกล่าวว่า ส่วนเดือนธันวาคมที่มาสด้าได้เข้าร่วมงานงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ระหว่างวันที่ 2-13 ธันวาคมที่ผ่านมา ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวของมาสด้าเช่นกัน โดยเฉพาะรถยนต์ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟทุกรุ่นที่มาสด้านำมาจัดแสดง รถทุกคันต่างได้รับความสนใจอย่างมากจากลูกค้าชาวไทย สามารถคว้ายอดจองในครั้งนี้เหนือความคาดหมาย ด้วยการมียอดจองจำนวน 4,542 คัน โดยเฉพาะฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์ที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3” ที่ควงคู่มากับ “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” ใหม่ จากการเพิ่มรุ่นเข้ามาโดยการติดตั้งไฟหน้า LED และกล้องมองหลัง รวมทั้งการเพิ่ม Day Time Running Light และมีการปรับราคาขายตามโครงสร้างภาษีใหม่ที่จะเริ่มใช้ในปีหน้า เนื่องจากสามารถผ่านข้อกำหนดในเรื่องการประหยัดน้ำมัน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมาตรฐานความปลอดภัย ส่งผลให้มาสด้า2 กลายเป็นรถยนต์ที่ให้ความคุ้มค่า คุ้มราคา แถมอัตราการประหยัดน้ำมันดีที่สุดถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน กลายเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กระดับพรีเมียมหนึ่งเดียวในคลาส ด้วยราคาขายเริ่มต้นเพียง 5.29 แสนเท่านั้น
“จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้ผู้บริโภคต้องตัดสินใจอย่างละเอียดในการเลือกซื้อรถที่ตอบโจทย์การใช้งานที่เหมาะสมกับความต้องการในทุกๆ ด้าน ลูกค้ามีความต้องการรถยนต์ที่มีคุณภาพสูง เครื่องยนต์พลังแรง ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมัน มีความปลอดภัยสูง รูปลักษณ์สวยงาม มีราคาที่เหมาะสม และสามารถตอบสนองการใช้งานที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด โดยเฉพาะรถยนต์ที่ให้ได้ทั้งความแรงและสามารถประหยัดน้ำมันในรถยนต์คันเดียวกัน” ฮิเดสึเกะ
สำหรับสาเหตุสำคัญที่ทำให้บูธมาสด้ามีคึกคักตลอดทั้งงานฯ เนื่องจากในปีนี้มาสด้ามีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ถึง 3 รุ่น และมาพร้อมการการเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์ของรถมาสด้า2 “น้องนาย” หรือ ณภัทร เสียงสมบุญ เพื่อสร้างการสื่อสารให้เข้าถึงลูกค้ากับมาสด้า 2 ใหม่ ซึ่งเป็นพระเอกของงานนี้ด้วยยอดจองทั้งสิ้น 2,135 คัน ตามมาด้วยดาวเด่นน้องใหม่ล่าสุด ฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์ มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 มียอดจอง 908 คัน รวมถึงครอสโอเวอร์ มาสด้า ซีเอ็กซ์-5 มียอดจองรวม 454 คัน ตามมาด้วยรถยนต์นั่งคอมแพ็คคาร์มาสด้า3 มียอดจองรวมทั้งสิ้น 727 คัน และรถสปอร์ตปิคอัพมาสด้า บีที-50 โปร มียอดจองรวมทั้งสิ้น 308 คัน และรถสปอร์ตโรดสเตอร์ ออลนิว Mazda MX-5 จำนวน 10 คัน ส่งผลให้ยอดจองประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง
นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น เป็นผลพวงมาจากการที่ลูกค้าให้การตอบรับกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟและรูปลักษณ์การออกแบบอันสวยงามภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ ที่การันตีจากการใช้งานและลูกค้ามีการบอกต่อปากต่อปาก รวมทั้งการเดินหน้าจัดกิจกรรมด้านการตลาดอย่างต่อเนื่องของมาสด้า เพื่อสร้างการรับรู้ด้านผลิตภัณฑ์อยู่ตลอดปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่ด้านยอดขายที่ได้รับการตอบรับอย่างดี
โดยเฉพาะการเปิดตัวรถสปอร์ตโรดสเตอร์ เจนเนอเรชั่นที่ 4 (ND) All-New Mazda MX-5 เป็นรถ Iconic ของมาสด้าที่เป็นสัญลักษณ์และต้นตำรับของรถสปอร์ตน้ำหนักเบา สมรรถนะที่เน้นถึงความสนุกสนานในการขับขี่การตอบสนองได้ทันใจ ความแม่นยำในการควบคุมที่ทำได้ตามใจสั่งของผู้ขับขี่ หรือ จินบะ-อิตไต ความสมดุลการทรงตัวและเสน่ห์ของรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่มีบทพิสูจน์จากการตอบรับของผู้ใช้ทั่วโลก กับการเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ที่ขายดีที่สุดในโลกจากการบันทึกของกินเนสบุ๊คเวิร์ลออฟเรคคอร์ด มาสด้า MX-5 เจนเนอเรชั่นล่าสุด มาพร้อมกับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-จี ขนาด 2000 ซีซี ระบบช่วงล่างและโครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ออกแบบด้วยแนวทางการออกแบบโคโดะ ที่ให้ความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวทั้งคันสะกดทุกสายตา เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นอย่างยาวนานของการพัฒนารถสปอร์ต ดีไซน์แบบสปอร์ต การขับขี่อย่างสนุกสนาน ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์มาสด้า