ข่าวในประเทศ - เผยธุรกิจรถยนต์มือสองกลับมาฟื้นตัว เหตุจำนวนรถในระบบสอดคล้องกับความต้องการขาย-ต้องการซื้อ ชี้ลูกค้าซื้อรถยนต์มือสองภายในสิ้นปีนี้จะได้ราคาดีกว่าปีหน้า จากการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ พร้อมร่วมกลุ่มสร้างความเข้มแข็ง ยกมาตรฐานให้ธุรกิจยั่งยื่น
นายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วคนใหม่ เปิดเผยว่า หลังก่อตั้งสมาคมได้ 2 ปี ปัจจุบันมีสมาชิกรวม 200 รายคิดเป็น 5% ของจำนวนผู้ประกอบการในประเทศทั้งหมด 4,000 ราย และมียอดขายรวมประมาณ 7.2 หมื่นคัน/ปี คิดเป็นสัดส่วนที่ 20% ของยอดขายทั่วประเทศ ที่มีอยู่ 3.5-4.0 แสนคันต่อปี โดยแผนงานในปี 2558-2560 ที่คณะกรรมการชุดนี้รับตำแหน่งอยู่ จะมุ่งประเด็นไปที่การสร้างมาตรฐานวิชาชีพของผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล, สร้างธุรกิจที่สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนให้กับเพื่อนสมาชิก, สร้างความเป็นธรรม และจริยธรรมที่ดีให้กับสมาชิกสมาคมฯ, ผู้บริโภค, คู่ค้า และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ในองค์รวม
สำหรับภาพรวมของตลาดรถยนต์มือสองในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เริ่มกลับเข้าสู่ภาะวะปกติ ทั้งปริมาณรถยนต์ในระบบที่เหมาะสม และมีราคาค่อนข้างนิ่ง ขณะที่เศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคหันมามองสิินค้าทดแทนอย่างรถยนต์มือสองมากขึ้น ถ้าพิจารณาจากสมาชิกในกลุ่มโดยเฉลี่ยแล้วน่าจะมียอดขายโต 15-20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะเดียวกันการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ของรัฐบาลในปีหน้า ยังมีส่วนช่วยให้ราคารถยนต์มือสองขยับขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นช่วยปลายปีนี้จึงเป็นโอกาสในการซื้อรถยนต์มือสองในราคาเดิมอยู่
อย่างไรก็ตามธุรกิจรถยนต์มือสองอาจจะโดนปัญหา จากสถาบันการเงินไม่ยอมปล่อยสินเชื่อ แต่ประเด็นนี้ทางกลุ่มได้เจรจากับสถาบันการเงินจากประเทศญี่ปุ่นให้เข้ามาลงทุนในเมืองไทยด้วยเม็ดเงินกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเข้ามาช่วยสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าในกลุ่มสมาชิกของสมาคม
ด้านนายคมสันต์ บุญย้อยหยัด กรรมการและเลขาธิการ สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย เปิดเผยว่า ทิศทางการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ในปีหน้ายังทำได้ลำบากต่อไป จากเศรษฐกิจโลกไม่ดี และหนี้ครัวเรือนในประเทศที่อยู่ในระดับสูง
“จริงๆแทบทุกสถาบันการเงินอยากได้ยอดสินเชื่อกันทั้งนั้น แต่ในปัจจุบันหนี้ครัวเรือนสูงมาก หนึ่งคนมีภาระการผ่อนสินค้าหลายอย่าง ดังนั้นมาตรการการปล่อยสินเชื่อยังต้องระมัดระวังต่อไป”นายคมสันต์กล่าว
นายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วคนใหม่ เปิดเผยว่า หลังก่อตั้งสมาคมได้ 2 ปี ปัจจุบันมีสมาชิกรวม 200 รายคิดเป็น 5% ของจำนวนผู้ประกอบการในประเทศทั้งหมด 4,000 ราย และมียอดขายรวมประมาณ 7.2 หมื่นคัน/ปี คิดเป็นสัดส่วนที่ 20% ของยอดขายทั่วประเทศ ที่มีอยู่ 3.5-4.0 แสนคันต่อปี โดยแผนงานในปี 2558-2560 ที่คณะกรรมการชุดนี้รับตำแหน่งอยู่ จะมุ่งประเด็นไปที่การสร้างมาตรฐานวิชาชีพของผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล, สร้างธุรกิจที่สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนให้กับเพื่อนสมาชิก, สร้างความเป็นธรรม และจริยธรรมที่ดีให้กับสมาชิกสมาคมฯ, ผู้บริโภค, คู่ค้า และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ในองค์รวม
สำหรับภาพรวมของตลาดรถยนต์มือสองในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เริ่มกลับเข้าสู่ภาะวะปกติ ทั้งปริมาณรถยนต์ในระบบที่เหมาะสม และมีราคาค่อนข้างนิ่ง ขณะที่เศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ผู้บริโภคหันมามองสิินค้าทดแทนอย่างรถยนต์มือสองมากขึ้น ถ้าพิจารณาจากสมาชิกในกลุ่มโดยเฉลี่ยแล้วน่าจะมียอดขายโต 15-20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะเดียวกันการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ของรัฐบาลในปีหน้า ยังมีส่วนช่วยให้ราคารถยนต์มือสองขยับขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นช่วยปลายปีนี้จึงเป็นโอกาสในการซื้อรถยนต์มือสองในราคาเดิมอยู่
อย่างไรก็ตามธุรกิจรถยนต์มือสองอาจจะโดนปัญหา จากสถาบันการเงินไม่ยอมปล่อยสินเชื่อ แต่ประเด็นนี้ทางกลุ่มได้เจรจากับสถาบันการเงินจากประเทศญี่ปุ่นให้เข้ามาลงทุนในเมืองไทยด้วยเม็ดเงินกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเข้ามาช่วยสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าในกลุ่มสมาชิกของสมาคม
ด้านนายคมสันต์ บุญย้อยหยัด กรรมการและเลขาธิการ สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย เปิดเผยว่า ทิศทางการปล่อยสินเชื่อรถยนต์ในปีหน้ายังทำได้ลำบากต่อไป จากเศรษฐกิจโลกไม่ดี และหนี้ครัวเรือนในประเทศที่อยู่ในระดับสูง
“จริงๆแทบทุกสถาบันการเงินอยากได้ยอดสินเชื่อกันทั้งนั้น แต่ในปัจจุบันหนี้ครัวเรือนสูงมาก หนึ่งคนมีภาระการผ่อนสินค้าหลายอย่าง ดังนั้นมาตรการการปล่อยสินเชื่อยังต้องระมัดระวังต่อไป”นายคมสันต์กล่าว
