ข่าวในประเทศ-รอยัล เอนฟิลด์ แบรนด์รถจักรยานยนต์คลาสสิกจากอังกฤษ ประกาศเปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมเผยวิสัยทัศน์ทางธุรกิจที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2015 ภายใต้กลยุทธ์สร้างการเติบโตและมุ่งเน้นความเป็นผู้นำระดับโลกในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง
อรุณ โกปาล ประธานฝ่ายธุรกิจต่างประเทศของรอยัล เอนฟิลด์ กล่าวว่า “วงการจักรยานยนต์สำหรับผู้รักการขับขี่เป็นงานอดิเรก หรือ Leisure Motorcycling ในยุคนี้ ได้หันไปพัฒนารถที่เน้นความใหญ่และความแรงกันมาก ทำให้ผู้บริโภคเริ่มมองหารถจักรยานยนต์ที่เป็นเจ้าของได้ง่ายและดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก ซึ่งรอยัล เอนฟิลด์ เชื่อว่าเราพร้อมตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว ด้วยรถจักรยานยนต์ที่มีดีไซน์แบบโมเดิร์น คลาสสิค ซึ่งเรียบง่าย ไม่ล้าสมัย มีเสน่ห์ และขับขี่ได้สนุก เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสถึงประสบการณ์ในการขับขี่อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นบนท้องถนนในเมือง การขับขี่ไปท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน หรือการขับขี่ตามเส้นทางผจญภัย อีกทั้งยังเหมาะสำหรับทั้งผู้ขับขี่มือใหม่และผู้ที่มีความชำนาญ รถจักรยานยนต์รอยัล เอนฟิลด์ มีการผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เข้ากับคุณภาพในการผลิตที่ยอดเยี่ยม เพื่อสร้างสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างผู้ขับขี่ ตัวรถ และพื้นถนน ผู้ใช้จึงได้รับประสบการณ์ขับขี่ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร”
รอยัล เอนฟิลด์ ได้นำรถจักรยานยนต์สุดคลาสสิกหลากรุ่น พร้อมทั้งอุปกรณ์เสริมล่าสุด และเครื่องแต่งกาย มาจัดแสดงในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งนี้ ได้แก่ รุ่นบุลเล็ต 500 ซีซี. รุ่นคลาสสิก 500 ซีซี. และคลาสสิก โครม และรุ่น คอนติเนนทัล จีที
อรุณ กล่าวเสริมเกี่ยวกับความคาดหวังในประเทศไทยว่า “ที่ผ่านมา รอยัล เอนฟิลด์ ถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในอินเดีย และประสบความสำเร็จด้วยอัตราการเติบโตต่อปีสูงถึง 50% ตลอดช่วงห้าปีที่ผ่านมา เราจึงมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำที่ผลักดันตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางซึ่งยังไม่ค่อยได้รับความสนใจ ให้มีการเติบโตทั่วโลก โดยขับเคลื่อนในตลาดสำคัญทั้งอินเดีย ลาตินอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีปัจจัยบวกด้วยขนาดของตลาดและจำนวนผู้เดินทางระหว่างบ้านและที่ทำงานในแต่ละวัน สำหรับในประเทศไทยเองก็มีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการขับรถจักรยานยนต์เป็นงานอดิเรกเป็นจำนวนมาก และมีการรวมตัวเป็นชุมชนของคนที่มีความสนใจร่วมกัน จึงเหมาะอย่างยิ่งที่รอยัล เอนฟิลด์ จะเข้ามาเติมเต็มความต้องการในตลาดนี้ ด้วยหัวใจหลักของแบรนด์ก็คือการผจญภัยและการออกเดินทางเพื่อค้นหา”
“ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงเป็นตลาดที่รอยัล เอนฟิลด์ ให้ความสำคัญอย่างมาก นอกจากนี้ยังถือเป็นตลาด Leisure Motorcycling ที่ก้าวหน้ามากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญประเทศไทยยังมีผู้เดินทางระหว่างบ้านและที่ทำงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากมีทางเลือกใหม่เข้ามา ก็มีโอกาสสูงที่จะลูกค้าจะเปลี่ยนมาใช้รถจักรยานยนต์ที่มีคุณภาพดีขึ้น ซึ่งรถจักรยานยนต์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิกของรอยัล เอนฟิลด์ ก็พร้อมเข้ามาเติมเต็มความต้องการดังกล่าว และกระตุ้นความสนใจรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในไทยให้เพิ่มมากขึ้น”
สำหรับการทำตลาด รอยัล เอนฟิลด์ จะเริ่มนำรถเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ที่โชว์รูมทองหล่อ ผ่านผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการรายแรกในประเทศไทยคือ บริษัท เจเนอรัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด ซึ่งจะดูแลการพัฒนาศูนย์บริการและบริการหลังการขายของรอยัล เอนฟิลด์ ในภูมิภาคนี้ด้วย
ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ กรรมการบริหาร บริษัท เจเนอรัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และผลิตภัณฑ์รอยัลเอนฟิลด์อย่างเป็นทางการรายแรกในประเทศไทย กล่าวว่า “เรามองเห็นโอกาสที่ดีในการเปิดตัว รอยัล เอนฟิลด์ สู่กลุ่มลูกค้าชาวไทย เพราะมีฐานของผู้ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์คลาสสิคที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางระหว่างบ้านและที่ทำงานในแต่ละวันสูงถึง 1.6 ล้านคน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนมาใช้รถจักรยานยนต์ขนาดกลางของรอยัล เอนฟิลด์ เราจึงเชื่อมั่นว่ารอยัล เอนฟิลด์ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้ขับขี่ชาวไทย ด้วยรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง แต่ใช้งานง่าย รวมทั้งความพร้อมในการให้บริการอุปกรณ์เสริม เครื่องแต่งกาย อะไหล่ และบริการหลังการขายที่น่าประทับใจ”
ทั้งนี้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รอยัล เอนฟิลด์ ได้ขยายธุรกิจให้ครอบคลุมเมืองใหญ่หลายแห่งทั่วโลก ทั้งลอนดอน มาดริด ปารีส ดูไบ โบโกต้า และเมเดยิน โดยในปี 2557 ที่ผ่านมา ยอดขายของรอยัล เอนฟิลด์ มีการเติบโตสูงถึง 70% ด้วยยอดขายรวมทั่วโลกกว่า 300,000 คัน จนทำให้บริษัทแม่คือ ไอเคอร์ มอเตอร์ส ลิมิเต็ด สามารถสร้างรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนในปี 2558 รอยัล เอนฟิลด์ ตั้งเป้าที่จะผลิตรถจักรยานยนต์รวม 450,000 คัน เพื่อรองรับกลยุทธ์การขยายธุรกิจทั่วโลก และก้าวไปสู่เป้าหมายในการผลิตรถจักรยานยนต์ให้ได้ 900,000 คันภายในปี 2561 จากสายการผลิตในโรงงานสองแห่งในปัจจุบัน รวมถึงโรงงานแห่งที่สามที่มีแผนจะสร้างขึ้นที่รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย นอกจากนี้ รอยัล เอนฟิลด์ ยังเดินหน้าก่อสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาใหม่สองแห่งในอินเดียและสหราชอาณาจักร เพื่อเสริมศักยภาพและกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระยะยาว รวมทั้งก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในระดับโลก
แจกบัตร "มอเตอร์โชว์ "คนละ 2ใบ มารับได้ที่ บ้านพระอาทิตย์ เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 8.30-18.00น. ติดต่อรับได้ที่โอเปอเรเตอร์ เบอร์ 02-6294488
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
อรุณ โกปาล ประธานฝ่ายธุรกิจต่างประเทศของรอยัล เอนฟิลด์ กล่าวว่า “วงการจักรยานยนต์สำหรับผู้รักการขับขี่เป็นงานอดิเรก หรือ Leisure Motorcycling ในยุคนี้ ได้หันไปพัฒนารถที่เน้นความใหญ่และความแรงกันมาก ทำให้ผู้บริโภคเริ่มมองหารถจักรยานยนต์ที่เป็นเจ้าของได้ง่ายและดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก ซึ่งรอยัล เอนฟิลด์ เชื่อว่าเราพร้อมตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าว ด้วยรถจักรยานยนต์ที่มีดีไซน์แบบโมเดิร์น คลาสสิค ซึ่งเรียบง่าย ไม่ล้าสมัย มีเสน่ห์ และขับขี่ได้สนุก เพื่อให้ผู้ใช้ได้สัมผัสถึงประสบการณ์ในการขับขี่อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นบนท้องถนนในเมือง การขับขี่ไปท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อน หรือการขับขี่ตามเส้นทางผจญภัย อีกทั้งยังเหมาะสำหรับทั้งผู้ขับขี่มือใหม่และผู้ที่มีความชำนาญ รถจักรยานยนต์รอยัล เอนฟิลด์ มีการผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เข้ากับคุณภาพในการผลิตที่ยอดเยี่ยม เพื่อสร้างสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างผู้ขับขี่ ตัวรถ และพื้นถนน ผู้ใช้จึงได้รับประสบการณ์ขับขี่ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร”
รอยัล เอนฟิลด์ ได้นำรถจักรยานยนต์สุดคลาสสิกหลากรุ่น พร้อมทั้งอุปกรณ์เสริมล่าสุด และเครื่องแต่งกาย มาจัดแสดงในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งนี้ ได้แก่ รุ่นบุลเล็ต 500 ซีซี. รุ่นคลาสสิก 500 ซีซี. และคลาสสิก โครม และรุ่น คอนติเนนทัล จีที
อรุณ กล่าวเสริมเกี่ยวกับความคาดหวังในประเทศไทยว่า “ที่ผ่านมา รอยัล เอนฟิลด์ ถือเป็นผู้บุกเบิกตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในอินเดีย และประสบความสำเร็จด้วยอัตราการเติบโตต่อปีสูงถึง 50% ตลอดช่วงห้าปีที่ผ่านมา เราจึงมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำที่ผลักดันตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางซึ่งยังไม่ค่อยได้รับความสนใจ ให้มีการเติบโตทั่วโลก โดยขับเคลื่อนในตลาดสำคัญทั้งอินเดีย ลาตินอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีปัจจัยบวกด้วยขนาดของตลาดและจำนวนผู้เดินทางระหว่างบ้านและที่ทำงานในแต่ละวัน สำหรับในประเทศไทยเองก็มีกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการขับรถจักรยานยนต์เป็นงานอดิเรกเป็นจำนวนมาก และมีการรวมตัวเป็นชุมชนของคนที่มีความสนใจร่วมกัน จึงเหมาะอย่างยิ่งที่รอยัล เอนฟิลด์ จะเข้ามาเติมเต็มความต้องการในตลาดนี้ ด้วยหัวใจหลักของแบรนด์ก็คือการผจญภัยและการออกเดินทางเพื่อค้นหา”
“ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในตลาดรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงเป็นตลาดที่รอยัล เอนฟิลด์ ให้ความสำคัญอย่างมาก นอกจากนี้ยังถือเป็นตลาด Leisure Motorcycling ที่ก้าวหน้ามากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญประเทศไทยยังมีผู้เดินทางระหว่างบ้านและที่ทำงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากมีทางเลือกใหม่เข้ามา ก็มีโอกาสสูงที่จะลูกค้าจะเปลี่ยนมาใช้รถจักรยานยนต์ที่มีคุณภาพดีขึ้น ซึ่งรถจักรยานยนต์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิกของรอยัล เอนฟิลด์ ก็พร้อมเข้ามาเติมเต็มความต้องการดังกล่าว และกระตุ้นความสนใจรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในไทยให้เพิ่มมากขึ้น”
สำหรับการทำตลาด รอยัล เอนฟิลด์ จะเริ่มนำรถเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ที่โชว์รูมทองหล่อ ผ่านผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการรายแรกในประเทศไทยคือ บริษัท เจเนอรัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด ซึ่งจะดูแลการพัฒนาศูนย์บริการและบริการหลังการขายของรอยัล เอนฟิลด์ ในภูมิภาคนี้ด้วย
ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ กรรมการบริหาร บริษัท เจเนอรัล ออโต้ ซัพพลาย จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และผลิตภัณฑ์รอยัลเอนฟิลด์อย่างเป็นทางการรายแรกในประเทศไทย กล่าวว่า “เรามองเห็นโอกาสที่ดีในการเปิดตัว รอยัล เอนฟิลด์ สู่กลุ่มลูกค้าชาวไทย เพราะมีฐานของผู้ชื่นชอบมอเตอร์ไซค์คลาสสิคที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีผู้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการเดินทางระหว่างบ้านและที่ทำงานในแต่ละวันสูงถึง 1.6 ล้านคน ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนมาใช้รถจักรยานยนต์ขนาดกลางของรอยัล เอนฟิลด์ เราจึงเชื่อมั่นว่ารอยัล เอนฟิลด์ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้ขับขี่ชาวไทย ด้วยรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง แต่ใช้งานง่าย รวมทั้งความพร้อมในการให้บริการอุปกรณ์เสริม เครื่องแต่งกาย อะไหล่ และบริการหลังการขายที่น่าประทับใจ”
ทั้งนี้ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รอยัล เอนฟิลด์ ได้ขยายธุรกิจให้ครอบคลุมเมืองใหญ่หลายแห่งทั่วโลก ทั้งลอนดอน มาดริด ปารีส ดูไบ โบโกต้า และเมเดยิน โดยในปี 2557 ที่ผ่านมา ยอดขายของรอยัล เอนฟิลด์ มีการเติบโตสูงถึง 70% ด้วยยอดขายรวมทั่วโลกกว่า 300,000 คัน จนทำให้บริษัทแม่คือ ไอเคอร์ มอเตอร์ส ลิมิเต็ด สามารถสร้างรายได้สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนในปี 2558 รอยัล เอนฟิลด์ ตั้งเป้าที่จะผลิตรถจักรยานยนต์รวม 450,000 คัน เพื่อรองรับกลยุทธ์การขยายธุรกิจทั่วโลก และก้าวไปสู่เป้าหมายในการผลิตรถจักรยานยนต์ให้ได้ 900,000 คันภายในปี 2561 จากสายการผลิตในโรงงานสองแห่งในปัจจุบัน รวมถึงโรงงานแห่งที่สามที่มีแผนจะสร้างขึ้นที่รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย นอกจากนี้ รอยัล เอนฟิลด์ ยังเดินหน้าก่อสร้างศูนย์วิจัยและพัฒนาใหม่สองแห่งในอินเดียและสหราชอาณาจักร เพื่อเสริมศักยภาพและกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ในระยะยาว รวมทั้งก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถจักรยานยนต์ขนาดกลางในระดับโลก
แจกบัตร "มอเตอร์โชว์ "คนละ 2ใบ มารับได้ที่ บ้านพระอาทิตย์ เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 8.30-18.00น. ติดต่อรับได้ที่โอเปอเรเตอร์ เบอร์ 02-6294488
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring