ค่าย “ปอร์เช่” เผยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ ที่ติดตั้งใน911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) และ 911ทาร์ก้า 4 (911 Targa 4) รุ่นใหม่ พร้อมติดตั้งระบบช่วงล่างอัตโนมัติ PASM ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน และความมั่นใจในการขับขี่ รองรับขุมพลังเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ ที่ให้พละกำลังเพิ่มขึ้น และอัตราเร่งสุดจี๊ด แต่ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม 12%
ทั้งนี้ 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) และ 911ทาร์ก้า 4 (911 Targa 4) รุ่นใหม่ ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่มากยิ่งขึ้น โดยมาพร้อมเอกลักษณ์แห่งยานยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูง แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบาย เพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยนวัตกรรมเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ ที่ให้พละกำลังเพิ่มขึ้นแต่ประหยัดน้ำมันกว่าเดิม ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน และความมั่นใจในการขับขี่ ติดตั้งระบบช่วงล่างอัตโนมัติ PASM (Porsche Active Suspension Management) ซึ่งลดระดับความสูงของตัวรถลง 10 มิลลิเมตร เป็นอุปกรณ์มาตรฐานรองรับทุกรูปแบบการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่อย่างจริงจังในสนามแข่งขัน หรือการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างความสะดวกสบาย สำหรับระบบช่วยเลี้ยวล้อหลัง (Rear-axle steering) สามารถเลือกติดตั้งเป็นอุปกรณ์พิเศษเพิ่มในรุ่นคาร์เรร่า 4 เอส (Carrera 4 S) เพื่อการบังคับควบคุมที่ดียิ่งขึ้น ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารมาพร้อมกับระบบ Porsche Communication (PCM) ควบคุมการทำงานด้วยหน้าจอสัมผัส
จากประสบการณ์ยาวนานกว่า 4 ทศวรรษ ในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีเครื่องยนต์สูบนอน ติดตั้งระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบชาร์จ ทั้งในรถแข่งและรถสปอร์ตสมรรถนะสูงต่างๆ ส่งผลให้ 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) รุ่นใหม่นี้ สามารถแสดงศักยภาพและสมรรถนะออกมาได้มากขึ้น พร้อมด้วยประสิทธิภาพในการขับขี่ ต้องขอบคุณระบบอัดอากาศด้วยเทอร์โบคู่ (bi-turbocharging) ที่ได้รับการติดตั้งในเครื่องยนต์ 6 สูบนอนขนาดความจุ 3 ลิตร ทำให้ 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) และ 911 ทาร์ก้า 4 (911 Targa 4) ผลิตพละกำลังสูงสุดได้กว่า 370 แรงม้า (272 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดที่ 450 นิวตันเมตร สำหรับ 911 คาร์เรร่า 4 เอส (911 Carrera 4S) และ 911 ทาร์ก้า 4 เอส (911 Targa 4S) สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้กว่า 420 แรงม้า (309 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุดที่ 500 นิวตันเมตร ด้วยพละกำลังที่มากกว่ารุ่นเดิมถึง 20 แรงม้า (15 กิโลวัตต์) ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถสัมผัสถึงความแรงที่เพิ่มขึ้นได้อย่างชัดเจน โดยทั้งหมดนี้เกิดจากการพัฒนาระบบเทอร์โบชาร์จ ระบบระบายไอเสีย และการปรับจูนเครื่องยนต์ใหม่
ด้วยการทำงานผสมผสานกันระหว่างเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ ร่วมกับระบบช่วงล่างและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ ทำให้ 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) สามารถสร้างอัตราเร่งได้ดีกว่า 911 รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ เมื่อติดตั้งเกียร์ PDK และชุดแต่ง Sport Chrono package ส่งผลให้ 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) ใหม่เร่งออกตัวจากจุดหยุดนิ่งไปถึงความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 4.1 วินาที (เร็วกว่ารุ่นเดิม 0.4 วินาที) ขณะที่ในรุ่น S สามารถทำได้ภายใน 3.8 วินาที (เร็วกว่ารุ่นเดิม 0.3 วินาที) สำหรับรุ่นคาบริโอเลต (cabriolet S) และ 911 ทาร์ก้า 4 (911 Targa 4) ใช้เวลามากกว่าเพียง 0.2 วินาทีเท่านั้น ความเร็วสูงสุดอยู่ระหว่าง 287 – 305 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับรุ่นและอุปกรณ์พิเศษติดตั้งเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่วิศวกรผู้ออกแบบรถยนต์ปอร์เช่ 911 รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อคำนึงถึงเป็นอันดับแรก คือสมรรถนะและการยึดเกาะถนนที่เหนือชั้น รวมทั้งความสามารถในการตอบสนองครอบคลุมทุกลักษณะการขับขี่ได้อย่างครบถ้วน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังคงได้รับการสรรสร้างลงในรถยนต์ปอร์เช่ 911 รุ่นใหม่ ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อควบคุมด้วย electro-hydraulic เทคโนโลยีจากสุดยอดรถสปอร์ต 911 เทอร์โบ (Porsche 911 Turbo) ให้การตอบสนองที่แม่นยำในทุกระดับความเร็ว พร้อมประสิทธิภาพในการบังคับควบคุมทิศทางที่เที่ยงตรงทุกรูปแบบการขับขี่ จากการทำงานที่สอดคล้องกันของระบบช่วงล่าง PASM ที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ให้ลดระดับความสูงของตัวรถลง 10 มิลลิเมตร เพิ่มเสถียรภาพในการทรงตัว ร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้ความมั่นคงในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง แต่ยังคงไว้ซึ่งความนุ่มนวลในทุกสภาพถนนและตอบสนองสไตล์การขับขี่แบบสปอร์ตด้วยโช๊คอัพแบบใหม่
แน่นอนเป็นเรื่องปกติของเครื่องยนต์สมรรถนะสูงจากปอร์เช่ เมื่อให้พละกำลังที่มากกว่าเดิมย่อมมาพร้อมความประหยัดที่ดียิ่งขึ้นด้วย อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของ 911 คาร์เรร่า 4 คาบริโอเลต (911 Carrera 4 Cabriolet) เกียร์ PDK อยู่ที่ 7.9 ลิตร/100 กิโลเมตร (12.65 กิโลเมตร/ลิตร) โดยดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 0.8 ลิตร สำหรับ 911 คาร์เรร่า 4 เอส คาบริโอเลต (911 Carrera S Cabriolet) และ 911 ทาร์ก้า 4 เอส (911 Targa 4S) เกียร์ PDK มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ 8.0 ลิตร/100 กิโลเมตร (12.5 กิโลเมตร/ลิตร) ซึ่งดีขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 1.2 ลิตร
ไม่เพียงประสิทธิภาพในการขับขี่ที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) รุ่นใหม่ ยังสรรสร้างรูปลักษณ์ภายนอกที่สง่างามและแสดงออกถึงเอกลักษณ์ของ 911 มากยิ่งขึ้น ด้วยแถบคาดไฟท้ายใหม่แบบ 3 มิติ ซึ่งมองเห็นได้เด่นชัดแม้ในระยะไกล สามารถสังเกตได้ถึงความคมชัดและมิติแสงสว่าง เส้นสายจากไฟท้ายบ่งบอกถึงตัวตนของรถยนต์สายพันธุ์สปอร์ตขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมปีกหลังขยายขนาดใหญ่กว่าเดิมถึง 44 มิลลิเมตร โคมไฟหน้าใหม่ติดตั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ 4 ดวง (four-point daytime running lights) มือจับเปิดประตูและช่องระบายอากาศเครื่องยนต์แนวตั้งดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟท้ายติดตั้งสัญญาณไฟเบรกแบบ 4 ดวง
ขณะเดียวกันด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกที่งามสง่า สะท้อนความเป็นตัวตนที่ไม่เหมือนใครของ 911 ทาร์ก้า (911 Targa) จากดีไซน์ตัวถังที่ให้มุมมองระหว่างรถสปอร์ตคูเป้และรถสปอร์ตเปิดประทุน ผสมผสานความคลาสสิคด้วยแนวคิดการออกแบบที่มีสไตล์เฉกเช่นเดียวกันกับ 911 ทาร์ก้า (911 Targa) ทุกรุ่นที่ผ่านมา แนวคานขวางติดตั้งแทนเสา B ช่วยให้สามารถเปิดหลังคาได้โดยยังคงไว้ซึ่งกระจกบังลมด้านหลัง ผู้ขับขี่สามารถเปิด-ปิดหลังคาผ่านปุ่มควบคุมด้วยปลายนิ้วสัมผัส