ข่าวในประเทศ-ดูคาติไทยแลนด์ชี้ตลาดบิ๊กไบค์ในประเทศไทยยังเติบโตสวนทางเศรษฐกิจ คาดปีนี้ภาพรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 20% คุยยอดขายปีก่อนทะลุ 3,000 คัน เติบโต 22% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เผยฐานลูกค้ากระจายสู่พื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น ประกาศเปิดรับตัวแทนจำหน่ายเพิ่ม 3 แห่ง ในโซนภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคใต้
อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด หรือดูคาติไทยแลนด์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่หรือบิ๊กไบค์ ในประเทศไทยยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้สภาวะเศรษฐกิจในปีนี้จะมีปัจจัยลบมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่โดยรวมคาดว่าตลาดรถบิ๊กไบค์หรือรถที่มีขนาดเครื่องยนต์เกิน 500 ซีซี จะยังมีอัตราเติบโตที่สูงขึ้นประมาณ 20%
ในช่วงปี 2555 - 2557 ดูคาติมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มรถบิ๊กไบค์ระดับพรีเมียมของประเทศไทย (Premium Motorcycle) โดยคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 45 มียอดจำหน่ายสะสมมากกว่า 9,000 คันทั่วประเทศ ขณะที่ในปี 2557 ที่ผ่านมา ดูคาติไทยแลนด์มียอดขายทั่วประเทศ จำนวน 3,057 คัน เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 22 ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจของไทยในช่วงเวลาดังกล่าว โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือรุ่น Monster (มอนสเตอร์) แบ่งเป็นสัดส่วน 50% รองลงมาคือ Ducati Scrambler (ดูคาติ สแครมเบลอร์) 25%, รุ่น Panigale (พานิกาเล่) 10%, รุ่น Hypermotard (ไฮเปอร์โมตาร์ด) 8%, รุ่น Diavel (แดเวล) 5% และรุ่น Multistrada (มัลติสตราด้า) 2%
สำหรับปีนี้ ดูคาติมีการเปิดตัวรถหลากหลายรุ่น ทั้งรถเน็กเก็ตเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง Monster 821 (มอนสเตอร์ 821), รถทัวร์ริ่งที่อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชั่นของเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง Multistrada 2015 (มัลติสตราด้า ปี 2015), รถซูเปอร์ไบค์โฉมใหม่ล่าสุดอย่าง 1299 Panigale (1299 พานิกาเล่) รวมถึง Ducati Scrambler Project Rebellion (ดูคาติ สแครมเบลอร์ โปรเจค รีเบลเลี่ยน) ขณะเดียวกันด้านบริการหลังการขายยังจัดแคมเปญ Ducati Worry Free Program ฟรีค่าบำรุงรักษาในรุ่นรถที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ Monster 821 ที่มาพร้อมแคมเปญค่าบำรุงรักษาฟรี 2 ปีหรือ 25,000 กม. และ Ducati Scrambler ที่มาพร้อมแคมเปญค่าบำรุงรักษาฟรี 4 ปี หรือ 30,000 กม. เป็นผลให้ดูคาติมียอดขายในเดือนมิถุนายน 2558 สูงถึง 364 คัน ถือเป็นยอดขายต่อเดือนในประเทศไทยที่สูงสุดในประวัติการณ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 54 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
อภิชาติ กล่าวว่า ด้านการจัดกิจกรรมร่วมกับลูกค้า ยังคงมุ่งเน้นกิจกรรมการเรียนการสอนในหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อเสริมทักษะการขี่รถใน DRE Course (Ducati Riding Experience Course) และล่าสุดได้มีการร่วมทุนสร้างสนามทดสอบรถ Motor Sport Park Suvarnabhumi ตั้งอยู่บริเวณเขตมีนบุรี มีพื้นที่กว่า 9 ไร่ สำหรับหลักสูตร Basic Course และ Intermediate Course เพื่อเป็นการรณรงค์เรื่องการขับขี่ปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่บิ๊กไบค์และผู้ที่ใช้รถใช้ถนนทั่วไป โดยไม่ได้จำกัดเฉพาะลูกค้าดูคาติเท่านั้น แต่สนับสนุนให้บุคคลทั่วไปสมัครเข้าร่วมได้ โดยจะมีรถดูคาติไว้ให้บริการแก่ผู้ที่เข้ารับการอบรมทุกคน
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการออกทริปของแต่ละตัวแทนจำหน่ายร่วมกับลูกค้า, กิจกรรมใหญ่ซึ่งเป็นการรวมตัวของชาวดูคาทิสต้าทั่วประเทศอย่าง Desmo Ride ที่จัดขึ้นประจำทุก 2 ปี เป็นต้น ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากลูกค้ามาโดยตลอด ส่งผลให้มีการขยายฐานลูกค้าดูคาติอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากที่ในอดีตยอดขายในต่างจังหวัดของดูคาติมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 30 ของยอดขายทั้งหมด แต่ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายในต่างจังหวัดขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 50
“เพื่อเป็นการรองรับความต้องการด้านการบริการหลังการขาย และให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์และการบริการระดับพรีมียมได้สะดวกและครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ รวมถึงการรองรับเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนในการดำเนินการขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายจากทางบริษัทแม่ที่ประเทศอิตาลี จึงทำให้ดูคาติไทยแลนด์เดินหน้าประกาศรับสมัครตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น 3 สาขา ในโซนภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง เช่น พิษณุโลก นครสวรรค์ และลพบุรี และในโซนภาคใต้ เช่น สุราษฎร์ธานี หรือนครศรีธรรมราช ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ดูคาติสามารถให้บริการรองรับความต้องการของลูกค้าชาวดูคาทิสต้าทั้งด้านการขายและบริการหลังการขายได้อย่างสมบูรณ์แบบและครอบคลุมพื้นที่การให้บริการทั่วประเทศไทย” อภิชาติ กล่าวและว่า
“ปัจจุบันศูนย์บริการในกรุงเทพฯ มีช่องซ่อมทั้งหมด 22 ช่องซ่อม สามารถรองรับการบริการได้มากว่า 1,200 คันต่อเดือน และศูนย์บริการในต่างจังหวัดมีช่องซ่อม 21 ช่องซ่อมรองรับการบริการได้มากกว่า 1,000 คันต่อเดือน จะมีการขยายการบริการจากการเปิดตัวแทนจำหน่ายในเขตต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น เป็นช่องซ่อม 28 ช่องซ่อม เพื่อรองรับการบริการได้มากกว่า 2,400 คันต่อเดือน และจะทำให้ดูคาติไทยแลนด์มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการหลังการขายมากที่สุดในอาเซียน”
ทั้งนี้ นโยบายการรุกตลาดบิ๊กไบค์ในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น จะทำให้ในปี 2559 ดูคาติไทยแลนด์จะมีศูนย์ดูคาติ 16 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองสำคัญในภาคเหนือ-ภาคอีสาน-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ของประเทศไทยทั้งหมด รวมถึงภาคตะวันตกในอนาคต
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
อภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด หรือดูคาติไทยแลนด์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่หรือบิ๊กไบค์ ในประเทศไทยยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้สภาวะเศรษฐกิจในปีนี้จะมีปัจจัยลบมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่โดยรวมคาดว่าตลาดรถบิ๊กไบค์หรือรถที่มีขนาดเครื่องยนต์เกิน 500 ซีซี จะยังมีอัตราเติบโตที่สูงขึ้นประมาณ 20%
ในช่วงปี 2555 - 2557 ดูคาติมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มรถบิ๊กไบค์ระดับพรีเมียมของประเทศไทย (Premium Motorcycle) โดยคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 45 มียอดจำหน่ายสะสมมากกว่า 9,000 คันทั่วประเทศ ขณะที่ในปี 2557 ที่ผ่านมา ดูคาติไทยแลนด์มียอดขายทั่วประเทศ จำนวน 3,057 คัน เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 22 ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจของไทยในช่วงเวลาดังกล่าว โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือรุ่น Monster (มอนสเตอร์) แบ่งเป็นสัดส่วน 50% รองลงมาคือ Ducati Scrambler (ดูคาติ สแครมเบลอร์) 25%, รุ่น Panigale (พานิกาเล่) 10%, รุ่น Hypermotard (ไฮเปอร์โมตาร์ด) 8%, รุ่น Diavel (แดเวล) 5% และรุ่น Multistrada (มัลติสตราด้า) 2%
สำหรับปีนี้ ดูคาติมีการเปิดตัวรถหลากหลายรุ่น ทั้งรถเน็กเก็ตเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง Monster 821 (มอนสเตอร์ 821), รถทัวร์ริ่งที่อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชั่นของเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง Multistrada 2015 (มัลติสตราด้า ปี 2015), รถซูเปอร์ไบค์โฉมใหม่ล่าสุดอย่าง 1299 Panigale (1299 พานิกาเล่) รวมถึง Ducati Scrambler Project Rebellion (ดูคาติ สแครมเบลอร์ โปรเจค รีเบลเลี่ยน) ขณะเดียวกันด้านบริการหลังการขายยังจัดแคมเปญ Ducati Worry Free Program ฟรีค่าบำรุงรักษาในรุ่นรถที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ Monster 821 ที่มาพร้อมแคมเปญค่าบำรุงรักษาฟรี 2 ปีหรือ 25,000 กม. และ Ducati Scrambler ที่มาพร้อมแคมเปญค่าบำรุงรักษาฟรี 4 ปี หรือ 30,000 กม. เป็นผลให้ดูคาติมียอดขายในเดือนมิถุนายน 2558 สูงถึง 364 คัน ถือเป็นยอดขายต่อเดือนในประเทศไทยที่สูงสุดในประวัติการณ์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 54 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
อภิชาติ กล่าวว่า ด้านการจัดกิจกรรมร่วมกับลูกค้า ยังคงมุ่งเน้นกิจกรรมการเรียนการสอนในหลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อเสริมทักษะการขี่รถใน DRE Course (Ducati Riding Experience Course) และล่าสุดได้มีการร่วมทุนสร้างสนามทดสอบรถ Motor Sport Park Suvarnabhumi ตั้งอยู่บริเวณเขตมีนบุรี มีพื้นที่กว่า 9 ไร่ สำหรับหลักสูตร Basic Course และ Intermediate Course เพื่อเป็นการรณรงค์เรื่องการขับขี่ปลอดภัยสำหรับผู้ขับขี่บิ๊กไบค์และผู้ที่ใช้รถใช้ถนนทั่วไป โดยไม่ได้จำกัดเฉพาะลูกค้าดูคาติเท่านั้น แต่สนับสนุนให้บุคคลทั่วไปสมัครเข้าร่วมได้ โดยจะมีรถดูคาติไว้ให้บริการแก่ผู้ที่เข้ารับการอบรมทุกคน
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการออกทริปของแต่ละตัวแทนจำหน่ายร่วมกับลูกค้า, กิจกรรมใหญ่ซึ่งเป็นการรวมตัวของชาวดูคาทิสต้าทั่วประเทศอย่าง Desmo Ride ที่จัดขึ้นประจำทุก 2 ปี เป็นต้น ซึ่งได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากลูกค้ามาโดยตลอด ส่งผลให้มีการขยายฐานลูกค้าดูคาติอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากที่ในอดีตยอดขายในต่างจังหวัดของดูคาติมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 30 ของยอดขายทั้งหมด แต่ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายในต่างจังหวัดขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 50
“เพื่อเป็นการรองรับความต้องการด้านการบริการหลังการขาย และให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์และการบริการระดับพรีมียมได้สะดวกและครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทั่วประเทศ รวมถึงการรองรับเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนในการดำเนินการขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายจากทางบริษัทแม่ที่ประเทศอิตาลี จึงทำให้ดูคาติไทยแลนด์เดินหน้าประกาศรับสมัครตัวแทนจำหน่ายในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น 3 สาขา ในโซนภาคเหนือตอนล่าง และภาคกลาง เช่น พิษณุโลก นครสวรรค์ และลพบุรี และในโซนภาคใต้ เช่น สุราษฎร์ธานี หรือนครศรีธรรมราช ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ดูคาติสามารถให้บริการรองรับความต้องการของลูกค้าชาวดูคาทิสต้าทั้งด้านการขายและบริการหลังการขายได้อย่างสมบูรณ์แบบและครอบคลุมพื้นที่การให้บริการทั่วประเทศไทย” อภิชาติ กล่าวและว่า
“ปัจจุบันศูนย์บริการในกรุงเทพฯ มีช่องซ่อมทั้งหมด 22 ช่องซ่อม สามารถรองรับการบริการได้มากว่า 1,200 คันต่อเดือน และศูนย์บริการในต่างจังหวัดมีช่องซ่อม 21 ช่องซ่อมรองรับการบริการได้มากกว่า 1,000 คันต่อเดือน จะมีการขยายการบริการจากการเปิดตัวแทนจำหน่ายในเขตต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น เป็นช่องซ่อม 28 ช่องซ่อม เพื่อรองรับการบริการได้มากกว่า 2,400 คันต่อเดือน และจะทำให้ดูคาติไทยแลนด์มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการหลังการขายมากที่สุดในอาเซียน”
ทั้งนี้ นโยบายการรุกตลาดบิ๊กไบค์ในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น จะทำให้ในปี 2559 ดูคาติไทยแลนด์จะมีศูนย์ดูคาติ 16 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองสำคัญในภาคเหนือ-ภาคอีสาน-ภาคกลาง-ภาคตะวันออก-ภาคใต้ของประเทศไทยทั้งหมด รวมถึงภาคตะวันตกในอนาคต
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring