ในที่สุดก็มาแล้ว สำหรับรุ่นปรับโฉมของฮอนด้า แอคคอร์ด ซึ่งในตอนนี้มีการเปิดเผยหน้าตาของเวอร์ชัน อเมริกันออกมา ส่วนบ้านเรารอกันได้อีกไม่นานด้วยหน้าตาที่ต่างจากนี้ไม่มากนัก เพราะยังไงแอคคอร์ด ไทย กับอเมริกา ก็ใช้ร่วมกันมานานตั้งแต่รุ่นที่ 7
การปรับโฉมครั้งนี้มีขึ้นบนพื้นฐานของแอคคอร์ดรุ่นปัจจุบันที่วางขายมาตั้งแต่ปี 2013 ได้ตั้งแต่ด้านหน้า ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าและกระจังหน้าลายใหม่ ที่ได้รับการออกแบบให้สอดรับกับกันชนหน้าอย่างลงตัว ไฟท้ายเปลี่ยนลายใหม่มาเป็นแบบลายแถบซี่ในแนวนอนถี่ๆ และใช้หลอดแบบ LED โดยทั้งรุ่นซีดาน และคูเป้มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับตัวก่อนปรับโฉม
ในด้านมิติตัวถัง รุ่นซีดานมาพร้อมกับความยาว 4,890 มิลลิเมตร กว้าง 1,850 มิลลิเมตร ส่วนรุ่นคูเป้ มากับความยาว 4,812 มิลลิเมตร กว้างเท่ากัน และแม้ว่าจะเป็นรถยนต์เจนเนอเรชั่นเดียวกัน แต่ต่างตัวถังกัน แต่ระยะฐานล้อก็ต่างกันด้วย โดยรุ่นซีดานมีตัวเลขอยู่ที่ 2,776 มิลลิเมตร และ 2,725 มิลลิเมตร
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มเข้ามาสำหรับสเป็กอเมริกัน ก็มีทั้งการพัฒนาระบบ OS ในตัวรถเพื่อรองรับกับ APP ของทั้ง Andriod และ Apple อย่าง Apple CarPlay และ Andriod Auto ซึ่งในปัจจุบันตรงนี้กลายเป็น มาตรฐานสำหรับรถยนต์ใหม่ทุกรุ่นที่วางขายที่นี่ ส่วนอุปกรณ์เพิ่มเติมก็มีทั้ง ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ผ่านทางรีโมท ระบบอุ่นเบาะให้กับเบาะหลัง ที่ปัดน้ำฝนทำงานอัตโนมัติ เบาะหลังแยกพับในอัตราส่วน 60/40 รวมถึงการตกแต่ง แผงหน้าปัดด้วยวัสดุใหม่อย่างเช่น Carbon Fiber-Style ที่ถูกนำมาใช้หุ้มแผงหน้าปัด เช่นเดียวกับวัสดุที่หุ้มเบาะ
ทางเลือกของเครื่องยนต์ยังมี 2 แบบเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เริ่มจากเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,400 ซีซี i-VTEC ทวินแคม 16 วาล์วแบบ Di ที่มีกำลังสูงสุด 185 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 25.1 กก.-ม. ที่ 3,900 รอบ/นาที หรือจะเพิ่มเป็น 189 แรงม้าเมื่ออยู่ในรุ่นย่อยแบบ Sport ตามด้วยรุ่นวี6 3,500 ซีซี 278 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 34.7 กก.-ม. ที่ 4,900 รอบ/นาที และรุ่นไฮบริดยังต้องรอไปก่อนจนถึงปี 2016 กว่าจะเปิดตัวให้เห็นหน้าตา
ส่วนระบบส่งกำลังในรุ่น 4 สูบมีแค่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และ CVT ส่วนรุ่นวี6 ใช้เกียร์ธรรมดา หรืออัตโนมัติที่มี 6 จังหวะเท่ากัน
ในสหรัฐอเมริกาจะเริ่มวางขายภายในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนบ้านเรายังต้องรอกันไปก่อน อย่างเร็วที่สุด อาจจะได้เห็นหน้าตากันในงานมอเตอร์โชว์ปลายปีนี้ก็เป็นได้
การปรับโฉมครั้งนี้มีขึ้นบนพื้นฐานของแอคคอร์ดรุ่นปัจจุบันที่วางขายมาตั้งแต่ปี 2013 ได้ตั้งแต่ด้านหน้า ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าและกระจังหน้าลายใหม่ ที่ได้รับการออกแบบให้สอดรับกับกันชนหน้าอย่างลงตัว ไฟท้ายเปลี่ยนลายใหม่มาเป็นแบบลายแถบซี่ในแนวนอนถี่ๆ และใช้หลอดแบบ LED โดยทั้งรุ่นซีดาน และคูเป้มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับตัวก่อนปรับโฉม
ในด้านมิติตัวถัง รุ่นซีดานมาพร้อมกับความยาว 4,890 มิลลิเมตร กว้าง 1,850 มิลลิเมตร ส่วนรุ่นคูเป้ มากับความยาว 4,812 มิลลิเมตร กว้างเท่ากัน และแม้ว่าจะเป็นรถยนต์เจนเนอเรชั่นเดียวกัน แต่ต่างตัวถังกัน แต่ระยะฐานล้อก็ต่างกันด้วย โดยรุ่นซีดานมีตัวเลขอยู่ที่ 2,776 มิลลิเมตร และ 2,725 มิลลิเมตร
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มเข้ามาสำหรับสเป็กอเมริกัน ก็มีทั้งการพัฒนาระบบ OS ในตัวรถเพื่อรองรับกับ APP ของทั้ง Andriod และ Apple อย่าง Apple CarPlay และ Andriod Auto ซึ่งในปัจจุบันตรงนี้กลายเป็น มาตรฐานสำหรับรถยนต์ใหม่ทุกรุ่นที่วางขายที่นี่ ส่วนอุปกรณ์เพิ่มเติมก็มีทั้ง ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ผ่านทางรีโมท ระบบอุ่นเบาะให้กับเบาะหลัง ที่ปัดน้ำฝนทำงานอัตโนมัติ เบาะหลังแยกพับในอัตราส่วน 60/40 รวมถึงการตกแต่ง แผงหน้าปัดด้วยวัสดุใหม่อย่างเช่น Carbon Fiber-Style ที่ถูกนำมาใช้หุ้มแผงหน้าปัด เช่นเดียวกับวัสดุที่หุ้มเบาะ
ทางเลือกของเครื่องยนต์ยังมี 2 แบบเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เริ่มจากเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,400 ซีซี i-VTEC ทวินแคม 16 วาล์วแบบ Di ที่มีกำลังสูงสุด 185 แรงม้า ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 25.1 กก.-ม. ที่ 3,900 รอบ/นาที หรือจะเพิ่มเป็น 189 แรงม้าเมื่ออยู่ในรุ่นย่อยแบบ Sport ตามด้วยรุ่นวี6 3,500 ซีซี 278 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 34.7 กก.-ม. ที่ 4,900 รอบ/นาที และรุ่นไฮบริดยังต้องรอไปก่อนจนถึงปี 2016 กว่าจะเปิดตัวให้เห็นหน้าตา
ส่วนระบบส่งกำลังในรุ่น 4 สูบมีแค่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และ CVT ส่วนรุ่นวี6 ใช้เกียร์ธรรมดา หรืออัตโนมัติที่มี 6 จังหวะเท่ากัน
ในสหรัฐอเมริกาจะเริ่มวางขายภายในเดือนสิงหาคมนี้ ส่วนบ้านเรายังต้องรอกันไปก่อน อย่างเร็วที่สุด อาจจะได้เห็นหน้าตากันในงานมอเตอร์โชว์ปลายปีนี้ก็เป็นได้