สำหรับคนรักรถ ชื่อของคามาโร่การันตีความเร้าใจตามแบบฉบับรถสปอร์ตพลังแรงสไตล์อเมริกันได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับแฟนหนัง นี่คือ หนึ่งในตัวละครที่คุ้นตาจากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Transformers และในตอนนี้ Bumblebee กำลังจะได้ร่างใหม่ เพราะทางเชฟโรเลตจัดการเผยโฉมเจนเนอเรชั่นที่ 6 ของคามาโร่ออกมาให้ยลโฉมกันแล้ว
คามาโร่ถือเป็นรถสปอร์ตในกลุ่ม Pony Car ที่มีความแรงและความเร้าใจรองจากคอร์เว็ตต์ โดยในตลาดจะมีขายทั้งรุ่นธรรมดาที่ใช้เครื่องยนต์วี6 และตัวแรงที่มีขุมพลังใหญ่ขึ้นอย่างวี8 โดย 4 รุ่นแรกทำตลาดในระหว่างปี 1967-2002 ก่อนหายหน้าไป และทางเชฟโรเลตปัดฝุ่นนำกลับมาอีกครั้ง หลังจากที่บริษัทแม่อย่าง GM สามารถผ่านพ้นมรสุมทางด้านการเงินมาได้ และรุ่นที่ 5 เปิดตัวในปี 2009 พร้อมกับการถูก Placement เข้าไปในภาพยนตร์เรื่องดังอย่าง Transformers ในฐานะตัวละคร Bumblebee
ในรุ่นล่าสุดนี้นอกจากจะมีหน้าตาที่สดใหม่และทันสมัยขึ้นแล้ว ยังถือเป็นการพัฒนาบนพื้นตัวถังที่ต่างกัน โดยเปลี่ยนจาก Zeta Platform มาเป็น Alpha Platform ร่วมกับรถยนต์ในเครืออย่างแคดิลแล็ก ATS และเมื่อบวกกับการใช้วัสดุที่มีความเบา เช่นอะลูมิเนียมมาใช้ในการผลิตตัวถังบางจุด ทำให้ตัวรถมีน้ำหนักลดลง 90 กิโลกรัม นอกจากนั้น คามาโร่ใหม่ยังถือเป็นการฉีกตำราทางด้านบัญชีและการลดต้นทุน เพราะทาง GM เปิดเผยว่ามากกว่า 70% ของชิ้นส่วนในรถยนต์รุ่นนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ในเครือ GM ได้เลย
และที่น่าสนใจคือ จะเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นรถสปอร์ตอเมริกันหันมาสวมเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง จากเดิมที่มักจะชอบจับคู่กับเครื่องยนต์บล็อกใหญ่อยู่เสมอ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ไม่แปลกเมื่อมองจากสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาด เพราะผู้ผลิตรถยนต์เริ่มหันมาใส่ใจกับการสร้างแรงม้าผ่านทางระบบอัดอากาศ และลดขนาดของเครื่องยนต์ทั้งความจุ และจำนวนกระบอกสูบลง โดยรุ่นเริ่มต้นของคามาโร่ใหม่จะมากับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี เทอร์โบ 275 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม. ใช้เวลาต่ำกว่า 6 วินาทีในการทำอัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ส่วนทางเลือกอื่นๆ สำหรับคนที่ไม่แคร์เรื่องค่าน้ำมันก็มีกับเครื่องยนต์วี6 3,600 ซีซี 335 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 39.2 กก.-ม. พร้อมระบบวาล์วแปรผัน และ Di พร้อมระบบลดจำนวนการทำงานของกระบอกสูบลงครึ่งหนึ่ง เมื่อเครื่องยนต์ไม่มี Load เกิดขึ้น หรือ AFM-Active Fuel Management โดยที่รุ่นท็อปยังเป็นขุมพลังวี8 ในรหัส LT1 ที่มีความจุ 6,200 ซีซี 455 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 62.3 กก.-ม.
นอกจากนั้น ยังเป็นครั้งแรกสำหรับคามาโร่ที่มีการติดตั้งระบบช่วงล่างแบบปรับระดับความหนืดได้ หรือ Magnetic Ride Control โดยจะมีติดตั้งในรุ่นท็อปตัวแรง Camaro SS อีกทั้งตัวรถรุ่นนี้ยังมีการติดตั้ง เทคโนโลยีใหม่ ที่เรียกว่า DMS หรือ Drive Mode Selector ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับโหมดการขับได้ถึง 8 รูปแบบ ซึ่งระบบจะปรับการทำงานของส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ลิ้นปีกผีเสื้อ พวงมาลัย ช่วงล่างให้สอดคล้องกับโหมดที่เลือก
การผลิตคามาโร่ใหม่จะอยู่ที่โรงงาน Lansing Grand River ในเมือง Lansing มลรัฐมิชิแกน และจะเริ่มวางขายในช่วงปลายปีนี้ในสหรัฐอเมริกา
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring