ข่าวในประเทศ - “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” ประกาศยกระดับแผนกวิจัยและพัฒนาในไทย เจียดเงิน 500 ล้านบาทสร้างสนามทดสอบรถยนต์แห่งใหม่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งถือเป็นแห่งแรกที่มิตซูบิชิออกมาตั้งนอกประเทศญี่ปุ่น เล็งเพิ่มกำลังผลิตที่โรงงานแหลมฉบังเป็น 3.6 แสนคัน รองรับการส่งออก ขณะที่ยอดขายในประเทศยังซึม
นายริวโกะ นาคาโอะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น รับผิดชอบส่วนงานกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า บริษัทลงทุน 500 ล้านบาท สร้างสนามทดสอบรถยนต์แห่งใหม่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานเสริมสร้างความแข็งแกร่งของหน่วยงานวิจัยและพัฒนา(R&D)ในประเทศไทย เพื่อรองรับการพัฒนาและการทดสอบคุณภาพของรถยนต์ที่เตรียมผลิตขายเป็นจำนวนมาก (Mass Production) ทั้งแบบไมเนอร์เชนจ์และโมเดลเชนจ์ ซึ่งบริษัทหวังว่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาทำตลาดจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
“เรายังเตรียมจ้างงาน-สร้างทีมวิศวกร อีก 100 คน ในจำนวนนี้ 65% เป็นคนไทย เพื่อขยายการลงทุนด้านงานวิจัยและพัฒนาในไทย ดังนั้นจะเห็นว่าเราให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เสมือนเป็นหนึ่งในเสาหลักของมิตซูบิชิ มอเตอร์สที่พร้อมจะเติบโตไปกับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยอย่างยั่งยืน”
สำหรับสนามทดสอบรถยนต์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศไทย ก่อสร้างบนพื้นที่ 95 ไร่ (ประมาณ 152,000 ตารางเมตร) แบ่งการทดสอบออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ สนามทดสอบอเนกประสงค์ การทดสอบเสียงรบกวน-การสั่นสะเทือน-ความกระด้าง การทดสอบเชิงวิเคราะห์ และ สนามขับขี่รูปวงรีความยาว 1,500 เมตร นอกจากนี้ยังมีการจำลองพื้นผิวถนนรูปแบบต่างๆ เพื่อการทดสอบด้านความรู้สึกในการขับขี่ ขณะที่ฟังก์ชั่นการทดสอบเชิงวิเคราะห์นั้น มีรูปแบบเดียวกับสนามทดสอบรถของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ผลการทดสอบของทั้งสองที่มีมาตรฐานเดียวกัน
นายโมะริคาซุ ชกคิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยทำเลอันเป็นจุดยุทธศาสตร์ และองค์ประกอบที่เหมาะสม สนามทดสอบรถยนต์แห่งนี้จะถูกใช้เพื่อการผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น สำหรับจำหน่ายในประเทศไทย และการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน และตลาดอื่นๆ ทั่วโลก ตอกย้ำถึงความสำคัญของประเทศไทยในฐานะแกนหลักของกลุ่มประเทศอาเซียน
“ถึงวันนี้เราได้พิสูจน์แล้วว่าประเทศไทย เป็นฐานการผลิตและส่งออกเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เทียบเท่าประเทศญี่ปุ่น การเปิดสนามทดสอบรถยนต์ในวันนี้ เป็นความก้าวหน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ในแผนงานการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของหน่วยงานวิจัยและพัฒนาของมิตซูบิชิ”
นายชกคิยังกล่าวถึงสถานการณ์ตลาดและธุรกิจรถยนต์ของมิตซูบิชิว่า ถึงแม้ยอดขายภายในประเทศจะยังไม่ค่อยดี แต่บริษัทยังมีตลาดส่งออกมาชดเชย อย่างปีงบประมาณ 2557 (เม.ย.2557- มี.ค.2558) โรงงานผลิตรถยนต์ที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีมีกำลังการผลิตรวม (3 โรงงาน) 3.4 แสนคัน แต่ปีนี้ตั้งเป้าผลิตเพิ่มเป็น 3.6 แสนคัน ไม่รวมชิ้นส่วนน็อคดาวน์อีก 50,000 คัน ขณะที่ตลาดในประเทศตั้งเป้าหมายการขายให้มากกว่าปีที่แล้วที่ทำได้กว่า 60,000 คัน หวังเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 8%
“การคาดการณ์ตลาดช่วงครึ่งปีหลังยังทำได้ยาก แต่เชื่อว่าตลาดจะค่อยๆ ฟื้นตัว ด้วยปัจจัยบวกอย่างการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐบาลในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบกับภาคการส่งออกน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นจากการที่ค่าเงินบาทอ่อนตัว ส่วนปัจจัยลบที่ยังห่วงคือการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน และราคาพืชผลทางการเกษตร”นายชกคิ กล่าว
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
นายริวโกะ นาคาโอะ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น รับผิดชอบส่วนงานกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า บริษัทลงทุน 500 ล้านบาท สร้างสนามทดสอบรถยนต์แห่งใหม่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานเสริมสร้างความแข็งแกร่งของหน่วยงานวิจัยและพัฒนา(R&D)ในประเทศไทย เพื่อรองรับการพัฒนาและการทดสอบคุณภาพของรถยนต์ที่เตรียมผลิตขายเป็นจำนวนมาก (Mass Production) ทั้งแบบไมเนอร์เชนจ์และโมเดลเชนจ์ ซึ่งบริษัทหวังว่ารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ออกมาทำตลาดจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
“เรายังเตรียมจ้างงาน-สร้างทีมวิศวกร อีก 100 คน ในจำนวนนี้ 65% เป็นคนไทย เพื่อขยายการลงทุนด้านงานวิจัยและพัฒนาในไทย ดังนั้นจะเห็นว่าเราให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เสมือนเป็นหนึ่งในเสาหลักของมิตซูบิชิ มอเตอร์สที่พร้อมจะเติบโตไปกับอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยอย่างยั่งยืน”
สำหรับสนามทดสอบรถยนต์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ในประเทศไทย ก่อสร้างบนพื้นที่ 95 ไร่ (ประมาณ 152,000 ตารางเมตร) แบ่งการทดสอบออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่ สนามทดสอบอเนกประสงค์ การทดสอบเสียงรบกวน-การสั่นสะเทือน-ความกระด้าง การทดสอบเชิงวิเคราะห์ และ สนามขับขี่รูปวงรีความยาว 1,500 เมตร นอกจากนี้ยังมีการจำลองพื้นผิวถนนรูปแบบต่างๆ เพื่อการทดสอบด้านความรู้สึกในการขับขี่ ขณะที่ฟังก์ชั่นการทดสอบเชิงวิเคราะห์นั้น มีรูปแบบเดียวกับสนามทดสอบรถของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ผลการทดสอบของทั้งสองที่มีมาตรฐานเดียวกัน
นายโมะริคาซุ ชกคิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยทำเลอันเป็นจุดยุทธศาสตร์ และองค์ประกอบที่เหมาะสม สนามทดสอบรถยนต์แห่งนี้จะถูกใช้เพื่อการผลิตรถยนต์มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น สำหรับจำหน่ายในประเทศไทย และการส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน และตลาดอื่นๆ ทั่วโลก ตอกย้ำถึงความสำคัญของประเทศไทยในฐานะแกนหลักของกลุ่มประเทศอาเซียน
“ถึงวันนี้เราได้พิสูจน์แล้วว่าประเทศไทย เป็นฐานการผลิตและส่งออกเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เทียบเท่าประเทศญี่ปุ่น การเปิดสนามทดสอบรถยนต์ในวันนี้ เป็นความก้าวหน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ในแผนงานการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของหน่วยงานวิจัยและพัฒนาของมิตซูบิชิ”
นายชกคิยังกล่าวถึงสถานการณ์ตลาดและธุรกิจรถยนต์ของมิตซูบิชิว่า ถึงแม้ยอดขายภายในประเทศจะยังไม่ค่อยดี แต่บริษัทยังมีตลาดส่งออกมาชดเชย อย่างปีงบประมาณ 2557 (เม.ย.2557- มี.ค.2558) โรงงานผลิตรถยนต์ที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรีมีกำลังการผลิตรวม (3 โรงงาน) 3.4 แสนคัน แต่ปีนี้ตั้งเป้าผลิตเพิ่มเป็น 3.6 แสนคัน ไม่รวมชิ้นส่วนน็อคดาวน์อีก 50,000 คัน ขณะที่ตลาดในประเทศตั้งเป้าหมายการขายให้มากกว่าปีที่แล้วที่ทำได้กว่า 60,000 คัน หวังเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 8%
“การคาดการณ์ตลาดช่วงครึ่งปีหลังยังทำได้ยาก แต่เชื่อว่าตลาดจะค่อยๆ ฟื้นตัว ด้วยปัจจัยบวกอย่างการใช้จ่ายและการลงทุนของภาครัฐบาลในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ประกอบกับภาคการส่งออกน่าจะมีแนวโน้มดีขึ้นจากการที่ค่าเงินบาทอ่อนตัว ส่วนปัจจัยลบที่ยังห่วงคือการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน และราคาพืชผลทางการเกษตร”นายชกคิ กล่าว
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring