กลับมาเปิดตัวได้สวยงามอีกครั้ง กับเก๋งเล็ก “มาสด้า2 SKYACTIV G1.3” หรือรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน เมื่อได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดี หลังจากเปิดตัวในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2015 และยังช่วยดันรุ่นดีเซล SKYACTIV D1.5 ให้ขยับตามด้วย แต่ใช่ว่าหลังจากปล่อยทีเด็ดออกไปแล้ว มาสด้าในประเทศไทยจะไม่มีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีก เพราะในปีงบประมาณนี้ยังมีรถใหม่เตรียมบุกตลาดไทยอีกหลายรุ่น...
“ในปีงบประมาณนี้ หรือตั้งแต่เมษายน 2558 - มีนาคม 2559 เราจะมีรถรุ่นใหม่สู่ตลาดอีก 4 รุ่น นอกจากมาสด้า2 ใหม่ จึงมั่นใจว่าจะทำให้มาสด้าสามารถทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 50,000 คัน ในปีงบประมาณนี้ หรือมากกว่าปีที่ผ่านมา 20%”
นั่นเป็นคำกล่าวของ “ฮิเดซึเกะ ทาเกซึเอะ” ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งหากแกะรอยรถใหม่ 4 รุ่นที่เปิดตัวปีงบประมาณนี้ ตามการให้สัมภาษณ์ของนายใหญ่คนใหม่มาสด้าในประเทศไทย แน่นอน 1 ในนั้นย่อมต้องต้องมีโมเดลใหม่ที่ไม่เคยทำตลาดในไทย...
จากรายงานข่าวของมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย รถโมเดลใหม่ที่จะเข้ามาทำตลาดในไทย คือรถครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3” (Mazda CX-3) ซึ่งไม่ใช่เพียงเหตุผลเป็นรถโมเดลใหม่ในตลาดที่กำลังมาแรงเท่านั้น แต่รถรุ่นนี้ใช้โครงสร้างพื้นฐานตัวถังร่วมกับ “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” ที่มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ลงทุนไปจำนวนมากกว่าหมื่นล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นไลน์การผลิต โรงงานผลิตเครื่องยนต์ และเกียร์อัตโนมัติ
มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 เป็นอีกโมเดลที่ใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ(SKYACTIV) ทั้งคัน โดยขุมพลังที่ทำตลาดในต่างประเทศปัจจุบัน มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2000 ซีซี ในตระกูล SKYACTIV-G และยังมีอีกตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D ที่มีความจุ 1500 ซีซี ซึ่งเป็นบล็อกที่วางใน มาสด้า2 สกายแอคทีฟ และเครื่องบล็อกนี้ยังผลิตในไทยด้วย โดยมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้งแบบล้อหน้า และ 4 ล้อตลอดเวลา AWD
ตามแผนมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 จะเปิดตัวทำตลาดในช่วงต้นปี 2559 ซึ่งยังอยู่ในช่วงปีงบประมาณนี้ (เม.ย. 2558 - มี.ค. 2559) ของมาสด้า แต่อาจจะได้เห็นภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2015 ปลายปีนี้ เพราะมาสด้ากำลังพิจารณาความเป็นไปได้ ขยับขึ้นมาให้สามารถเผยโฉมได้ภายในปีปฏิทินนี้(ม.ค.-ธ.ค.2558)
สำหรับรถใหม่อีกรุ่นที่จะได้เห็นแน่ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2015 เป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ระดับตำนานและได้รับความนิยมอย่างมากในทั่วโลก “มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5” (Mazda MX-5)โฉมใหม่ หรือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 ซึ่งได้พัฒนารูปลักษณ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “โคโดะ ดีไซน์” (KODO Design) เช่นเดียวกับรถรุ่นอื่นๆ ที่ใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟเปิดตัวก่อนหน้านี้
มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 ใหม่ ยังคงคอนเซ็ปต์ของความเป็นสปอร์ตที่มีขนาดกะทัดรัด และมีน้ำหนักเบา ขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยการที่พัฒนาตัวรถให้มีน้ำหนักเพียง 1,000 กิโลกรัมเท่านั้น หรือเบากว่ารุ่นเดิมร่วมๆ 100 กิโลกรัม ส่วนความยาวสั้นลง 105 มิลลิเมตรอยู่ที่ 3,915 มิลลิเมตร เตี้ยลง 20 มิลลิเมตร อยู่ที่ 1,235 มิลลิเมตร และกว้างขึ้น 10 มิลลิเมตรเป็น 1,730 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อมีความยาว 2,315 มิลลิเมตร
ในต่างประเทศติดตั้งขุมพลังมีให้เลือก 2 ขนาด เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2000 ซีซี 160 แรงม้า และอีกรุ่น 1500 ซีซี 131 แรงม้า โดยในไทยจะนำมาทำตลาดเป็นรุ่น SKYACTIV-G 2.0 ซึ่งเป็นบล็อกใหญ่น่าจะถูกในแฟนๆ ชาวไทยมากกว่า
แต่รุ่นที่จะพบในเร็วๆ นี้ ย่อมต้องเป็นปิกอัพ “มาสด้า บีที-50 โปร” (Mazda BT-50 Pro) ใหม่ ซึ่งจะไมเนอร์เชนจ์เปิดตัววางจำหน่ายในช่วงกลางปีนี้ หรือเจอแน่ในงานบิ๊ก มอเตอร์ เซล 2015 ต้นเดือนสิงหาคมนี้ ไม่เพียงเป็นช่วงครบระเวลาของการกำหนดปรับโฉม แต่ยังเป็นจังหวะส่งมารับมือกับเจ้าตลาดปิกอัพ “โตโยต้า ไฮลักซ์” โฉมใหม่ ที่จะเปิดตัวในวันที่ 21
พฤษภาคมนี้อีกด้วย
การปรับโฉมรูปลักษณ์ของมาสด้า บีที-50 โปร จะเพิ่มรูปลักษณ์ให้มีความดุดันแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งจากรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ระบุว่าจะมีการนำแนวทางการออกแบบโคโดะ ดีไซน์ มาใช้ในการปรับโฉมครั้งนี้ด้วย ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าจะปรับคล้ายๆ กับรถยนต์เอสยูวีรุ่นใหม่ของมาสด้า ที่ทยอยออกมาช่วง 1-2 ปีนี้
ในส่วนรายงานข่าวจากมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ระบุว่าปิกอัพบีที-50 โปรใหม่ จะมีการปรับให้ดุดันขึ้น โดยรูปลักษณ์จะใกล้เคียงกับรุ่น THRILLING50 ที่นำมาแต่งโชว์ในงานไทยแลนด์ ออโต้ ซาลอน เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ขณะที่ภายในไม่ได้ปรับยกแผงเหมือนฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ แต่จะมีการเพิ่มอุปกรณ์ทันสมัยเข้าไป อย่างระบบ MZD Connect แทนหน้าจอแบบเดิม เป็นต้น
ส่วนรุ่นสุดท้ายจะเป็นการไมเนอร์เชนจ์ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-5” คอมแพ็กต์ครอสโอเวอร์ ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งในต่างประเทศได้มีการปรับโฉมไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ด้วยการปรับเปลี่ยนภายนอกอย่างกระจังหน้า และรายละเอียดภายในกรอบไฟหน้า ขณะที่ภายในห้องโดยสารไม่ได้ปรับนัก นอกจากระบบ Mazda Connect เช่นเดียวกับรถใหม่รุ่นอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการปรับสมรรถนะการขับขี่ให้ดีขึ้นด้วย ส่วนรุ่นไมเนอร์เชนจ์ในไทยมีรายงานว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่ปรับเปลี่ยนมากกว่านี้ จึงต้องรอปรับอีกครั้งเพื่อเปิดตัวในช่วงต้นปี 2559
ทั้งหมดเป็น 4 ทีเด็ดของค่ายมาสด้า ที่จะถูกส่งลงมาเสริมทัพ “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” เพื่อทำตลาดในปีงบประมาณนี้ จึงไมแปลกที่มาสด้าจะตั้งเป้าไว้กว่า 50,000 คัน...
“ในปีงบประมาณนี้ หรือตั้งแต่เมษายน 2558 - มีนาคม 2559 เราจะมีรถรุ่นใหม่สู่ตลาดอีก 4 รุ่น นอกจากมาสด้า2 ใหม่ จึงมั่นใจว่าจะทำให้มาสด้าสามารถทำยอดขายได้ไม่ต่ำกว่า 50,000 คัน ในปีงบประมาณนี้ หรือมากกว่าปีที่ผ่านมา 20%”
นั่นเป็นคำกล่าวของ “ฮิเดซึเกะ ทาเกซึเอะ” ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งหากแกะรอยรถใหม่ 4 รุ่นที่เปิดตัวปีงบประมาณนี้ ตามการให้สัมภาษณ์ของนายใหญ่คนใหม่มาสด้าในประเทศไทย แน่นอน 1 ในนั้นย่อมต้องต้องมีโมเดลใหม่ที่ไม่เคยทำตลาดในไทย...
จากรายงานข่าวของมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย รถโมเดลใหม่ที่จะเข้ามาทำตลาดในไทย คือรถครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3” (Mazda CX-3) ซึ่งไม่ใช่เพียงเหตุผลเป็นรถโมเดลใหม่ในตลาดที่กำลังมาแรงเท่านั้น แต่รถรุ่นนี้ใช้โครงสร้างพื้นฐานตัวถังร่วมกับ “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” ที่มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ลงทุนไปจำนวนมากกว่าหมื่นล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นไลน์การผลิต โรงงานผลิตเครื่องยนต์ และเกียร์อัตโนมัติ
มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 เป็นอีกโมเดลที่ใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ(SKYACTIV) ทั้งคัน โดยขุมพลังที่ทำตลาดในต่างประเทศปัจจุบัน มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2000 ซีซี ในตระกูล SKYACTIV-G และยังมีอีกตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D ที่มีความจุ 1500 ซีซี ซึ่งเป็นบล็อกที่วางใน มาสด้า2 สกายแอคทีฟ และเครื่องบล็อกนี้ยังผลิตในไทยด้วย โดยมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้งแบบล้อหน้า และ 4 ล้อตลอดเวลา AWD
ตามแผนมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 จะเปิดตัวทำตลาดในช่วงต้นปี 2559 ซึ่งยังอยู่ในช่วงปีงบประมาณนี้ (เม.ย. 2558 - มี.ค. 2559) ของมาสด้า แต่อาจจะได้เห็นภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2015 ปลายปีนี้ เพราะมาสด้ากำลังพิจารณาความเป็นไปได้ ขยับขึ้นมาให้สามารถเผยโฉมได้ภายในปีปฏิทินนี้(ม.ค.-ธ.ค.2558)
สำหรับรถใหม่อีกรุ่นที่จะได้เห็นแน่ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2015 เป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์ระดับตำนานและได้รับความนิยมอย่างมากในทั่วโลก “มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5” (Mazda MX-5)โฉมใหม่ หรือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 ซึ่งได้พัฒนารูปลักษณ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “โคโดะ ดีไซน์” (KODO Design) เช่นเดียวกับรถรุ่นอื่นๆ ที่ใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟเปิดตัวก่อนหน้านี้
มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 ใหม่ ยังคงคอนเซ็ปต์ของความเป็นสปอร์ตที่มีขนาดกะทัดรัด และมีน้ำหนักเบา ขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยการที่พัฒนาตัวรถให้มีน้ำหนักเพียง 1,000 กิโลกรัมเท่านั้น หรือเบากว่ารุ่นเดิมร่วมๆ 100 กิโลกรัม ส่วนความยาวสั้นลง 105 มิลลิเมตรอยู่ที่ 3,915 มิลลิเมตร เตี้ยลง 20 มิลลิเมตร อยู่ที่ 1,235 มิลลิเมตร และกว้างขึ้น 10 มิลลิเมตรเป็น 1,730 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อมีความยาว 2,315 มิลลิเมตร
ในต่างประเทศติดตั้งขุมพลังมีให้เลือก 2 ขนาด เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2000 ซีซี 160 แรงม้า และอีกรุ่น 1500 ซีซี 131 แรงม้า โดยในไทยจะนำมาทำตลาดเป็นรุ่น SKYACTIV-G 2.0 ซึ่งเป็นบล็อกใหญ่น่าจะถูกในแฟนๆ ชาวไทยมากกว่า
แต่รุ่นที่จะพบในเร็วๆ นี้ ย่อมต้องเป็นปิกอัพ “มาสด้า บีที-50 โปร” (Mazda BT-50 Pro) ใหม่ ซึ่งจะไมเนอร์เชนจ์เปิดตัววางจำหน่ายในช่วงกลางปีนี้ หรือเจอแน่ในงานบิ๊ก มอเตอร์ เซล 2015 ต้นเดือนสิงหาคมนี้ ไม่เพียงเป็นช่วงครบระเวลาของการกำหนดปรับโฉม แต่ยังเป็นจังหวะส่งมารับมือกับเจ้าตลาดปิกอัพ “โตโยต้า ไฮลักซ์” โฉมใหม่ ที่จะเปิดตัวในวันที่ 21
พฤษภาคมนี้อีกด้วย
การปรับโฉมรูปลักษณ์ของมาสด้า บีที-50 โปร จะเพิ่มรูปลักษณ์ให้มีความดุดันแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งจากรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ระบุว่าจะมีการนำแนวทางการออกแบบโคโดะ ดีไซน์ มาใช้ในการปรับโฉมครั้งนี้ด้วย ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าจะปรับคล้ายๆ กับรถยนต์เอสยูวีรุ่นใหม่ของมาสด้า ที่ทยอยออกมาช่วง 1-2 ปีนี้
ในส่วนรายงานข่าวจากมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย ระบุว่าปิกอัพบีที-50 โปรใหม่ จะมีการปรับให้ดุดันขึ้น โดยรูปลักษณ์จะใกล้เคียงกับรุ่น THRILLING50 ที่นำมาแต่งโชว์ในงานไทยแลนด์ ออโต้ ซาลอน เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ขณะที่ภายในไม่ได้ปรับยกแผงเหมือนฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ แต่จะมีการเพิ่มอุปกรณ์ทันสมัยเข้าไป อย่างระบบ MZD Connect แทนหน้าจอแบบเดิม เป็นต้น
ส่วนรุ่นสุดท้ายจะเป็นการไมเนอร์เชนจ์ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-5” คอมแพ็กต์ครอสโอเวอร์ ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งในต่างประเทศได้มีการปรับโฉมไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ด้วยการปรับเปลี่ยนภายนอกอย่างกระจังหน้า และรายละเอียดภายในกรอบไฟหน้า ขณะที่ภายในห้องโดยสารไม่ได้ปรับนัก นอกจากระบบ Mazda Connect เช่นเดียวกับรถใหม่รุ่นอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการปรับสมรรถนะการขับขี่ให้ดีขึ้นด้วย ส่วนรุ่นไมเนอร์เชนจ์ในไทยมีรายงานว่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่ปรับเปลี่ยนมากกว่านี้ จึงต้องรอปรับอีกครั้งเพื่อเปิดตัวในช่วงต้นปี 2559
ทั้งหมดเป็น 4 ทีเด็ดของค่ายมาสด้า ที่จะถูกส่งลงมาเสริมทัพ “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” เพื่อทำตลาดในปีงบประมาณนี้ จึงไมแปลกที่มาสด้าจะตั้งเป้าไว้กว่า 50,000 คัน...
