ข่าวในประเทศ-เอ็มเอ็มเอส ฉลองชัยผลประกอบการปี 2557ทะลุเป้า 400 ล้านบาท พร้อมเร่งเจรจาพันธมิตรผุดสาขาเพิ่ม หวังเป้าปีนี้โต 20% ล่าสุดได้ฤกษ์เปิดสาขาบางแสนและพัทยาอย่างเป็นทางการ รับแผนขยายตลาดภาคตะวันออก รุกนิคมย่านแหลมฉบัง อีสเทิร์นซีบอร์ดเต็มตัว
นาย สุเมธ ใจโต กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MMS ผู้ให้บริการศูนย์รถยนต์ครบวงจร สำหรับรถที่หมดระยะรับประกัน "เอ็มเอ็มเอส บ๊อชคาร์เซอร์วิส" ในเครือบริษัทมาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด เปิดเผยนโยบายและแผนการดำเนินงานปี 2558 ว่า ในปีนี้บริษัทเน้นการสานต่อนโยบายขยายสาขาที่ได้เคยวางไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อสามารถรุกตลาดได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเน้นกลยุทธ์สร้างการรับรู้และวางตำแหน่งของสินค้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ในการเป็นทางเลือกสำหรับการบริการรถยนต์ที่หมดระยะประกัน ในราคาคุ้มค่า แต่คุณภาพได้มาตรฐานสากล พร้อมตั้งเป้าการขยายตัวราว 20% หลังจากผลประกอบการในปีที่ผ่านมาสามารถบรรลุเป้า 400 ล้านบาท
โดยล่าสุดนั้นบริษัทได้ทำการเปิดศูนย์บริการ MMS สาขาบางแสนและพัทยาอย่างเป็นทางการซึ่งจะส่งผลให้สามารถรองรับการบริการกลุ่มลูกค้าทั้งแบบรายบุคคลและในรูปแบบบริ๋ษัท ในพื้นที่ภาคตะวันออกหรืออีสเทิร์นซีบอร์ดได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นย่านเศรษฐกิจการลงทุนอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ โดยสาขา บางแสน มีพื้นที่ทั้งสิ้น400 ตารางเมตร มีจำนวนช่องซ่อม 5 ช่องซ่อม พร้อม1 ช่องตั้งศูนย์
ส่วนที่สาขาพัทยามีพื้นที่ขนาด 600 ตารางเมตร มีช่องจอดซ่อม 5 ช่อง พร้อม 1 ช่องตั้งศูนย์และ 1 ช่องเครื่องมือทดสอบระบบการทำงานของรถ หรือ Tester Bay โดยในสาขาพัทยานี้ จะมีแผนปรับเพิ่มรูปแบบเพื่อรองรับการขยายไลน์สินค้าสู่อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ในอนาคตอันใกล้ รวมไปถึงการค้าส่งสินค้าอะไหล่ พร้อมทั้งเปิดให้บริการล้างและเคลือบสีรถ โดยทั้งสองสาขานี้สามารถรองรับการให้บริการได้แห่งละประมาณ 450 คันต่อเดือน
“เขตภาคตะวันออกถือเป็นอีกยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เพราะนอกจากจะมีสถานที่การค้าการท่องเที่ยวมากมายแล้ว ยังเป็นย่านเศรษฐกิจการลงทุนที่สำคัญ มีนิคมอุตสาหกรรมหลากหลายแขนงตั้งอยู่ที่นี่ มีมูลค่าการลงทุนรวมร่วม 2 ล้านล้านบาท เป็นศูนย์กลางของระบบโลจิสติคส์การคมนาคมขนส่ง และมีการจ้างงานถึงกว่า 180,000 คน มีการใช้รถยนต์เกิดขึ้นมากมายในพื้นที่สำคัญดังกล่าวนี้ และมีแนวโน้มจะขยายตัวมากขึ้นตามทิศทางการลงทุนจากภาครัฐและเอกชนที่จะเกิดขึ้นอีกหลายโครงการในอนาคตอันใกล้ ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทมีสาขาในพื้นที่นี้ที่จังหวัดระยองเพียงแห่งเดียว ดังนั้นการเปิดสาขาใหม่ทั้ง 2 แห่งนี้จึงเป็นการตอบสนองความต้องการและอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี และสามารถรองรับการบริการได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ล่าสุดยังคงมีการเจรจากลุ่มนักลงทุนจากหลากหลายธุรกิจในการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทอีกหลายราย อาทิ กลุ่มบริษัทผู้ค้าน้ำมัน และกลุ่มกิจการคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ ซึ่งในไตรมาสที่สองนี้ บริษัทมีแผนเปิดให้บริการที่สาขาอุบลราชธานีอย่างเป็นทางการอีกแห่งซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญในการขยายพื้นที่ยุทธศาสตร์การค้าของประเทศไทยในการเปิดประตูสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ที่กำลังจะมีผลในช่วงปลายปีพ.ศ. 2558 นี้
คาดว่าภายในสิ้นปี 2016หน้านี้ จะสามารถเปิดสาขาได้ทั้งสิ้น ครบ 24แห่งตามที่ได้มีการวางแผนไว้จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นดังกล่าวนี้เป็นผลให้บริษัทต้องเร่งพัฒนาบุคลากรรองรับ โดยได้ร่วมกับบริษัทมาสเตอร์ ออโต้โมทีฟ เทรนนิ่ง เซนเตอร์ (MAT) ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์แบบครบวงจร ในเครือ เอ็มจีซี-เอเชียดำเนินการเตรียมความพร้อมดังกล่าวพร้อมทั้งรับบุคคลากรที่มีความชำนาญจากต่างประเทศเข้ามาเสริมทัพสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจการบริการ
เอ็มเอ็มเอส ยังคงเน้นไปที่ธุรกิจ 4 กลุ่มหลัก คือ ศูนย์บริการ บ๊อชคาร์เซอร์วิส , จูนนิ่งเซ็นเตอร์ , ธุรกิจจำหน่ายอะไหล่ และ ธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือสำหรับศูนย์บริการ โดยปัจจุบันนี้มีศูนย์บริการ บ๊อชคาร์เซอร์วิส จำนวนสาขาทั้งสิ้น 11 แห่ง มีกลุ่มลูกค้าทั้งรายบุคคลและรูปแบบบริษัทเข้าใช้บริการเฉลี่ยปีละประมาณ 45,000 -50,000 คัน
ปัจจุบันนอกจากให้บริการซ่อมรถยนต์ทั่วไปแล้ว MMS ยังเปิดให้บริการ Exclusive service by TECHART ให้บริการรถยนต์ปอร์เช่ ที่สาขาพระราม 4(เอ สแควร์) บนพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร ซึ่งประกอบด้วยศูนย์บริการและโชว์รูมของชุดแต่ง TECHARTและ เอ ซี ชนิตเซอร์ โดยในปีนี้บริษัทได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์เพิ่มขึ้น เช่น Kw, ST, Akrapovik, Capristo, Nutex เพื่อตอบสนองและเพิ่มความหลากหลายให้แก่ลูกค้า
ส่วนธุรกิจศูนย์บริการดีเซลเซอร์วิสในปีนี้จะมีการเสริมระบบโมบายเซอร์วิสเพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการลูกค้านอกฟื้นที่ รวมทั้งเพิ่มบริการซ่อมบำรุงเชิงป้องกันระบบเครื่องยนต์ดีเซลระบบคอมมอนเรล ซึ่งมั่นใจจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
เช่นเดียวกับธุรกิจอะไหล่ ที่มีการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า โดยมีคู่ค้าและซัพพลายเออร์หลายรายติดต่อให้ MMS ไปเยี่ยมชมโรงงาน พร้อมร่วมชมงาน เซี่ยงไฮ้ ออโต้แมคคานิกา( Shanghai Automechanika) ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอะไหล่ด้านบริการหลังการขายที่ใหญ่สุดในเอเชียในเดือนที่ผ่านมา เพื่อจัดหาสินค้ามาตอบสนองความต้องการของตลาดและลูกค้าได้มากยิ่งถึง
พร้อมกันนี้ในโอกาสฉลองการเปิดศูนย์MMS สาขาบางแสน และพัทยาอย่างเป็นทางการ บริษัทได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการ จะได้สิทธิ์รับแพ็จเกจลดราคาน้ำมันหล่อลื่น 50% (ยี่ห้อโมบิล) พร้อมรับสิทธิ์ซื้อผลิตภัณฑ์ Bosch อาทิผ้าเบรค แบตเตอรี่ และใบปัดน้ำฝนในราคาลดพิเศษ 50% ,พร้อมรับสิทธิ์ซื้อยาง คอนติเนลตันในโปรแกรมซื้อ 2 แถม 2 (ขนาด 15 - 18 นิ้ว) รวมทั้งโช้คอัพ TOKICO ซื้อ 1 คู่แถม 1 คู่ และมีโปรแกรมแนะนำลูกค้าใหม่ที่เข้ามารับบริการ
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
นาย สุเมธ ใจโต กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ MMS ผู้ให้บริการศูนย์รถยนต์ครบวงจร สำหรับรถที่หมดระยะรับประกัน "เอ็มเอ็มเอส บ๊อชคาร์เซอร์วิส" ในเครือบริษัทมาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด เปิดเผยนโยบายและแผนการดำเนินงานปี 2558 ว่า ในปีนี้บริษัทเน้นการสานต่อนโยบายขยายสาขาที่ได้เคยวางไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อสามารถรุกตลาดได้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และเน้นกลยุทธ์สร้างการรับรู้และวางตำแหน่งของสินค้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ในการเป็นทางเลือกสำหรับการบริการรถยนต์ที่หมดระยะประกัน ในราคาคุ้มค่า แต่คุณภาพได้มาตรฐานสากล พร้อมตั้งเป้าการขยายตัวราว 20% หลังจากผลประกอบการในปีที่ผ่านมาสามารถบรรลุเป้า 400 ล้านบาท
โดยล่าสุดนั้นบริษัทได้ทำการเปิดศูนย์บริการ MMS สาขาบางแสนและพัทยาอย่างเป็นทางการซึ่งจะส่งผลให้สามารถรองรับการบริการกลุ่มลูกค้าทั้งแบบรายบุคคลและในรูปแบบบริ๋ษัท ในพื้นที่ภาคตะวันออกหรืออีสเทิร์นซีบอร์ดได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นย่านเศรษฐกิจการลงทุนอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ โดยสาขา บางแสน มีพื้นที่ทั้งสิ้น400 ตารางเมตร มีจำนวนช่องซ่อม 5 ช่องซ่อม พร้อม1 ช่องตั้งศูนย์
ส่วนที่สาขาพัทยามีพื้นที่ขนาด 600 ตารางเมตร มีช่องจอดซ่อม 5 ช่อง พร้อม 1 ช่องตั้งศูนย์และ 1 ช่องเครื่องมือทดสอบระบบการทำงานของรถ หรือ Tester Bay โดยในสาขาพัทยานี้ จะมีแผนปรับเพิ่มรูปแบบเพื่อรองรับการขยายไลน์สินค้าสู่อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ในอนาคตอันใกล้ รวมไปถึงการค้าส่งสินค้าอะไหล่ พร้อมทั้งเปิดให้บริการล้างและเคลือบสีรถ โดยทั้งสองสาขานี้สามารถรองรับการให้บริการได้แห่งละประมาณ 450 คันต่อเดือน
“เขตภาคตะวันออกถือเป็นอีกยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เพราะนอกจากจะมีสถานที่การค้าการท่องเที่ยวมากมายแล้ว ยังเป็นย่านเศรษฐกิจการลงทุนที่สำคัญ มีนิคมอุตสาหกรรมหลากหลายแขนงตั้งอยู่ที่นี่ มีมูลค่าการลงทุนรวมร่วม 2 ล้านล้านบาท เป็นศูนย์กลางของระบบโลจิสติคส์การคมนาคมขนส่ง และมีการจ้างงานถึงกว่า 180,000 คน มีการใช้รถยนต์เกิดขึ้นมากมายในพื้นที่สำคัญดังกล่าวนี้ และมีแนวโน้มจะขยายตัวมากขึ้นตามทิศทางการลงทุนจากภาครัฐและเอกชนที่จะเกิดขึ้นอีกหลายโครงการในอนาคตอันใกล้ ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทมีสาขาในพื้นที่นี้ที่จังหวัดระยองเพียงแห่งเดียว ดังนั้นการเปิดสาขาใหม่ทั้ง 2 แห่งนี้จึงเป็นการตอบสนองความต้องการและอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี และสามารถรองรับการบริการได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น”
ทั้งนี้ล่าสุดยังคงมีการเจรจากลุ่มนักลงทุนจากหลากหลายธุรกิจในการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทอีกหลายราย อาทิ กลุ่มบริษัทผู้ค้าน้ำมัน และกลุ่มกิจการคอมมูนิตี้มอลล์ต่างๆ ซึ่งในไตรมาสที่สองนี้ บริษัทมีแผนเปิดให้บริการที่สาขาอุบลราชธานีอย่างเป็นทางการอีกแห่งซึ่งถือเป็นก้าวที่สำคัญในการขยายพื้นที่ยุทธศาสตร์การค้าของประเทศไทยในการเปิดประตูสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ที่กำลังจะมีผลในช่วงปลายปีพ.ศ. 2558 นี้
คาดว่าภายในสิ้นปี 2016หน้านี้ จะสามารถเปิดสาขาได้ทั้งสิ้น ครบ 24แห่งตามที่ได้มีการวางแผนไว้จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นดังกล่าวนี้เป็นผลให้บริษัทต้องเร่งพัฒนาบุคลากรรองรับ โดยได้ร่วมกับบริษัทมาสเตอร์ ออโต้โมทีฟ เทรนนิ่ง เซนเตอร์ (MAT) ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์แบบครบวงจร ในเครือ เอ็มจีซี-เอเชียดำเนินการเตรียมความพร้อมดังกล่าวพร้อมทั้งรับบุคคลากรที่มีความชำนาญจากต่างประเทศเข้ามาเสริมทัพสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจการบริการ
เอ็มเอ็มเอส ยังคงเน้นไปที่ธุรกิจ 4 กลุ่มหลัก คือ ศูนย์บริการ บ๊อชคาร์เซอร์วิส , จูนนิ่งเซ็นเตอร์ , ธุรกิจจำหน่ายอะไหล่ และ ธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือสำหรับศูนย์บริการ โดยปัจจุบันนี้มีศูนย์บริการ บ๊อชคาร์เซอร์วิส จำนวนสาขาทั้งสิ้น 11 แห่ง มีกลุ่มลูกค้าทั้งรายบุคคลและรูปแบบบริษัทเข้าใช้บริการเฉลี่ยปีละประมาณ 45,000 -50,000 คัน
ปัจจุบันนอกจากให้บริการซ่อมรถยนต์ทั่วไปแล้ว MMS ยังเปิดให้บริการ Exclusive service by TECHART ให้บริการรถยนต์ปอร์เช่ ที่สาขาพระราม 4(เอ สแควร์) บนพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร ซึ่งประกอบด้วยศูนย์บริการและโชว์รูมของชุดแต่ง TECHARTและ เอ ซี ชนิตเซอร์ โดยในปีนี้บริษัทได้ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์เพิ่มขึ้น เช่น Kw, ST, Akrapovik, Capristo, Nutex เพื่อตอบสนองและเพิ่มความหลากหลายให้แก่ลูกค้า
ส่วนธุรกิจศูนย์บริการดีเซลเซอร์วิสในปีนี้จะมีการเสริมระบบโมบายเซอร์วิสเพื่ออำนวยความสะดวกในการให้บริการลูกค้านอกฟื้นที่ รวมทั้งเพิ่มบริการซ่อมบำรุงเชิงป้องกันระบบเครื่องยนต์ดีเซลระบบคอมมอนเรล ซึ่งมั่นใจจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี
เช่นเดียวกับธุรกิจอะไหล่ ที่มีการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า โดยมีคู่ค้าและซัพพลายเออร์หลายรายติดต่อให้ MMS ไปเยี่ยมชมโรงงาน พร้อมร่วมชมงาน เซี่ยงไฮ้ ออโต้แมคคานิกา( Shanghai Automechanika) ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอะไหล่ด้านบริการหลังการขายที่ใหญ่สุดในเอเชียในเดือนที่ผ่านมา เพื่อจัดหาสินค้ามาตอบสนองความต้องการของตลาดและลูกค้าได้มากยิ่งถึง
พร้อมกันนี้ในโอกาสฉลองการเปิดศูนย์MMS สาขาบางแสน และพัทยาอย่างเป็นทางการ บริษัทได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการ จะได้สิทธิ์รับแพ็จเกจลดราคาน้ำมันหล่อลื่น 50% (ยี่ห้อโมบิล) พร้อมรับสิทธิ์ซื้อผลิตภัณฑ์ Bosch อาทิผ้าเบรค แบตเตอรี่ และใบปัดน้ำฝนในราคาลดพิเศษ 50% ,พร้อมรับสิทธิ์ซื้อยาง คอนติเนลตันในโปรแกรมซื้อ 2 แถม 2 (ขนาด 15 - 18 นิ้ว) รวมทั้งโช้คอัพ TOKICO ซื้อ 1 คู่แถม 1 คู่ และมีโปรแกรมแนะนำลูกค้าใหม่ที่เข้ามารับบริการ
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring