“ฮอนด้า” ชี้ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยยังต้องจับตามอง หลังในปีที่ผ่านถดถอยครั้งใหญ่สุด นับแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจเอเชียในปี 1997 เมื่อยอดขายลดลงถึง 15% ประเมินปีแพะน่าจะเริ่มฟื้นตัวเล็กน้อย 3% เริ่มต้นปีเร่งเดินหน้ากวาดยอดขายทันที ด้วยการส่งรถใหม่ 4 รุ่นรวด พร้อมลุยจัดกิจกรรมและขยายเครือข่ายรุกบิ๊กไบค์ หวังทำตัวเลขปีนี้ 1.39 ล้านคัน
นายโนบุฮิเดะ นางาตะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยยังอยู่ในสภาวะที่ต้องจับตาดูอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2013 ตลาดก็เริ่มปรับตัวลดลงมาจนถึงปัจจุบัน โดยยอดจดทะเบียนรวมของปี 2014 มีปริมาณทั้งสิ้น 1,701,532 คัน ปรับตัวลดลงประมาณ 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และยังคงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
“การชะลอตัวดังกล่าวหากมองในแง่ของระยะเวลาและปริมาณแล้ว ถือเป็นการถดถอยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในเอเชียเมื่อปี 1997 หรือในรอบ 17 ปี ขณะที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 1,356,749 คัน ลดลง 9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ยังคงครองตำแหน่งผู้นำตลาดเป็นปีที่ 26 ติดต่อกัน โดยแบรนด์ฮอนด้าสามารถครองแชมป์ยอดจำหน่ายสูงสุดได้ในทุกประเภทรวมถึงบิ๊กไบค์”
อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดรถจักรยานยนต์จะปรับตัวลดลง แต่กลุ่มรถแบบสปอร์ตยังคงมีการเติบโตได้ดี ล่าสุดมีสัดส่วนอยู่ที่ 11% จากตลาดรวมทั้งหมด และมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไป ซึ่งทางเอ.พี.ฮอนด้าได้เตรียมเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตอย่างเต็มที่ หลังจากที่ได้ร่วมเป็น Founder Sponsor ของสนาม CIC เมื่อปีที่ผ่านมาโดยจะนำความสนุกระดับโลกมาให้ชาวไทยได้สัมผัส เพื่อกระตุ้นตลาดรถสปอร์ตที่กำลังขยายตัวให้เติบโตยิ่งขึ้นไปอีก
ในส่วนของการจำหน่ายบิ๊กไบค์ เอ.พี.ฮอนด้ามีแผนงานที่จะขยายเครือข่าย Honda Wing Center จาก 10 สาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยการเปิดสาขาเพิ่มอีก 2-3 แห่งในภูมิภาคต่างๆภายในปีนี้ ควบคู่ไปกับการขยายเครือข่ายศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยขนาดใหญ่แห่งใหม่ ที่จังหวัดภูเก็ตและเชียงใหม่ โดยศูนย์เหล่านี้จะเป็นทั้งศูนย์กลางของการเรียนรู้ขับขี่ปลอดภัยของรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก เทคนิคการขับขี่รถบิ๊กไบค์และการขับขี่แบบออฟโรดด้วย
นางาตะเปิดเผยว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปี 2015 คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป แม้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศปรับ GDP เหลือ 4% แต่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้นั้น อยู่ที่ 81.1 ถือเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 18 เดือน และยังมีข่าวดีในเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา
“ดังนั้นแม้การฟื้นตัวของตลาดในช่วงครึ่งปีแรก อาจจะยังไม่สามารถคาดหวังได้ แต่เราน่าจะได้เห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าปีนี้ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยจะอยู่ประมาณ 1,750,000 คัน เติบโตขึ้นประมาณ 3% ในขณะที่เอ.พี.ฮอนด้าตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1,390,000 คัน”
โดยฮอนด้าได้เตรียมกระตุ้นดีมานด์ให้กับตลาดตั้งแต่ไตรมาสแรก ภายใต้แบรนด์แคมเปญมาสนุกเปลี่ยนโลกกัน หรือ Power of Fun Project ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในหลายเซกเมนท์ เริ่มจากล่าสุดวานนี้(14 ม.ค.) เปิดตัว ฮอนด้า Click125i ซึ่งถือเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ของสปอร์ตเอ.ที.ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไทย เคาะราคา 4.95 หมื่นบาท พร้อมกับส่งรุ่น Moove Limited Edition ลายกราฟฟิค Man Utd. และ Liverpool F.C. ลิขสิทธิ์แท้จากประเทศอังกฤษ รวมไปถึงออกแบบลายใหม่รุ่น CRF250L ราคาแนะนำ 134,600 บาท และ CRF250M ราคา 140,600 บาท โดยวางจำหน่ายพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.นี้เป็นต้นไป ในขณะเดียวกันยังได้เพิ่มรุ่น Zoomer-X สีฟ้าบลูชาร์คใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่น
สำหรับในปี 2015 นี้ ยังเป็นปีที่ 2 ของแผนระยะกลาง 3 ปีระหว่างปี 2014-2016 มุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน ซึ่งเอ.พี.ฮอนด้าได้เตรียมสานต่อการทำกิจกรรมเพื่อสังคม ร่วมกับเครือข่ายศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมบริจาคโลหิตทั่วไทย การรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย กิจกรรมกีฬาเพื่อเยาวชน พร้อมกับสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งมอบให้กับผู้บริโภค
นายโนบุฮิเดะ นางาตะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยยังอยู่ในสภาวะที่ต้องจับตาดูอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2013 ตลาดก็เริ่มปรับตัวลดลงมาจนถึงปัจจุบัน โดยยอดจดทะเบียนรวมของปี 2014 มีปริมาณทั้งสิ้น 1,701,532 คัน ปรับตัวลดลงประมาณ 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และยังคงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
“การชะลอตัวดังกล่าวหากมองในแง่ของระยะเวลาและปริมาณแล้ว ถือเป็นการถดถอยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในเอเชียเมื่อปี 1997 หรือในรอบ 17 ปี ขณะที่รถจักรยานยนต์ฮอนด้ามียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 1,356,749 คัน ลดลง 9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แต่ยังคงครองตำแหน่งผู้นำตลาดเป็นปีที่ 26 ติดต่อกัน โดยแบรนด์ฮอนด้าสามารถครองแชมป์ยอดจำหน่ายสูงสุดได้ในทุกประเภทรวมถึงบิ๊กไบค์”
อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดรถจักรยานยนต์จะปรับตัวลดลง แต่กลุ่มรถแบบสปอร์ตยังคงมีการเติบโตได้ดี ล่าสุดมีสัดส่วนอยู่ที่ 11% จากตลาดรวมทั้งหมด และมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไป ซึ่งทางเอ.พี.ฮอนด้าได้เตรียมเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ตอย่างเต็มที่ หลังจากที่ได้ร่วมเป็น Founder Sponsor ของสนาม CIC เมื่อปีที่ผ่านมาโดยจะนำความสนุกระดับโลกมาให้ชาวไทยได้สัมผัส เพื่อกระตุ้นตลาดรถสปอร์ตที่กำลังขยายตัวให้เติบโตยิ่งขึ้นไปอีก
ในส่วนของการจำหน่ายบิ๊กไบค์ เอ.พี.ฮอนด้ามีแผนงานที่จะขยายเครือข่าย Honda Wing Center จาก 10 สาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยการเปิดสาขาเพิ่มอีก 2-3 แห่งในภูมิภาคต่างๆภายในปีนี้ ควบคู่ไปกับการขยายเครือข่ายศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยขนาดใหญ่แห่งใหม่ ที่จังหวัดภูเก็ตและเชียงใหม่ โดยศูนย์เหล่านี้จะเป็นทั้งศูนย์กลางของการเรียนรู้ขับขี่ปลอดภัยของรถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก เทคนิคการขับขี่รถบิ๊กไบค์และการขับขี่แบบออฟโรดด้วย
นางาตะเปิดเผยว่า ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยปี 2015 คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป แม้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศปรับ GDP เหลือ 4% แต่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้นั้น อยู่ที่ 81.1 ถือเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 18 เดือน และยังมีข่าวดีในเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐอเมริกา
“ดังนั้นแม้การฟื้นตัวของตลาดในช่วงครึ่งปีแรก อาจจะยังไม่สามารถคาดหวังได้ แต่เราน่าจะได้เห็นแนวโน้มที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าปีนี้ตลาดรถจักรยานยนต์ไทยจะอยู่ประมาณ 1,750,000 คัน เติบโตขึ้นประมาณ 3% ในขณะที่เอ.พี.ฮอนด้าตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1,390,000 คัน”
โดยฮอนด้าได้เตรียมกระตุ้นดีมานด์ให้กับตลาดตั้งแต่ไตรมาสแรก ภายใต้แบรนด์แคมเปญมาสนุกเปลี่ยนโลกกัน หรือ Power of Fun Project ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในหลายเซกเมนท์ เริ่มจากล่าสุดวานนี้(14 ม.ค.) เปิดตัว ฮอนด้า Click125i ซึ่งถือเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ของสปอร์ตเอ.ที.ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไทย เคาะราคา 4.95 หมื่นบาท พร้อมกับส่งรุ่น Moove Limited Edition ลายกราฟฟิค Man Utd. และ Liverpool F.C. ลิขสิทธิ์แท้จากประเทศอังกฤษ รวมไปถึงออกแบบลายใหม่รุ่น CRF250L ราคาแนะนำ 134,600 บาท และ CRF250M ราคา 140,600 บาท โดยวางจำหน่ายพร้อมกันตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.นี้เป็นต้นไป ในขณะเดียวกันยังได้เพิ่มรุ่น Zoomer-X สีฟ้าบลูชาร์คใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่น
สำหรับในปี 2015 นี้ ยังเป็นปีที่ 2 ของแผนระยะกลาง 3 ปีระหว่างปี 2014-2016 มุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งความยั่งยืน ซึ่งเอ.พี.ฮอนด้าได้เตรียมสานต่อการทำกิจกรรมเพื่อสังคม ร่วมกับเครือข่ายศูนย์จำหน่ายและบริการ Honda Wing Center อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมบริจาคโลหิตทั่วไทย การรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย กิจกรรมกีฬาเพื่อเยาวชน พร้อมกับสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัย ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งมอบให้กับผู้บริโภค