ตอนนี้ดูเหมือนว่า “มาสด้า” มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากการเปิดตัว SUV ซับคอมแพ็กต์อย่าง CX-3 ออกมาสู่ตลาดแล้ว พวกเขายังจัดการปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์รถยนต์อีก 2 รุ่นคือ มาสด้า CX-5 และรุ่น 6
มาสด้า CX-5 เป็นการปรับโฉมที่เน้นไปที่รายละเอียดของรูปลักษณ์ภายนอก และเป็นการปรับโฉมครั้งแรกนับจากเปิดตัวในปี 2012 ซึ่งงานนี้ลูกค้าสามารถสัมผัสความแตกต่างได้ ตั้งแต่ด้านหน้า ซึ่งมีการเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่ที่มีการเปลี่ยนลวดลายและมากับสี Metallic Gray ไฟหน้าและไฟท้ายมีการออกแบบลวดลายข้างในใหม่ และในรุ่น Technology Package มีการใช้หลอดแบบ LED ส่วนล้อแม็กเปลี่ยนลายเช่นเดียวกัน และมาพร้อมขนาดใหญ่สะใจถึง 19 นิ้ว
ในส่วนรายละเอียดของเครื่องยนต์ แม้ว่าทางมาสด้ายังไม่เปิดเผยออกมาในตอนนี้ แต่คาดว่าน่าจะเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยในสเปกยุโรปและต่างประเทศจะมีให้เลือกทั้งรุ่นเบนซิน 2,000 และ 2,500 ซีซี และเทอร์โบดีเซล 2,200 ซีซี 173 แรงม้า ส่วนสเปกอเมริกามีเฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน 2,000 ซีซี 155 แรงม้า และ 2,500 ซีซี 184 แรงม้า
สำหรับมาสด้า 6 ซึ่งเป็นรถยนต์ครอบครัวในกลุ่ม D-Segment เปิดตัวออกมาตั้งแต่ปี 2012 และในตอนนี้ถือว่าถึงเวลาของการปรับโฉมเพื่อรับมือกับคู่แข่งที่มีความสดใหม่กว่าอย่างฮอนด้า แอคคอร์ด และโตโยต้า คัมรี่ โดยประเด็นของความเปลี่ยนแปลงหลักอยู่ที่รายละเอียดของรูปลักษณ์ด้านหน้า ทั้งไฟหน้าใหม่ที่มาพร้อมกับไฟหน้าสไตล์ใหม่ พร้อมไฟแบบ LED ที่ได้รับการออกแบบรับกับกระจังหน้าทรงใหม่ ส่วนไฟท้ายมีการปรับรายละเอียดใหม่แต่รูปทรงยังเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนมาใช้หลอดแบบ LED ขณะที่ล้อแม็กลายใหม่ มีให้เลือกหลายขนาด โดยที่มีล้อไซส์ใหญ่สุดคือ 19 นิ้ว
สำหรับเครื่องยนต์ที่ทำตลาดยังเป็นทางเลือกเดิมคือ 4 สูบ 2,500 ซีซี พร้อมระบบไดเร็กต์ อินเจ็กชั่นในตระกูล SKYACTIV-G ทำงานร่วมกับเกียร์ในตระกูล SKYACTIV เช่นเดียวกัน มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดา หรืออัตโนมัติ ที่มีจำนวนจังหวะเท่ากันที่ 6 จังหวะ
การเปิดตัวมีขึ้นที่งานโชว์ในแอลเอ ปลายเดือนพฤศจิกายน และจะเริ่มวางขายในช่วงต้นปีหน้า
มาสด้า CX-5 เป็นการปรับโฉมที่เน้นไปที่รายละเอียดของรูปลักษณ์ภายนอก และเป็นการปรับโฉมครั้งแรกนับจากเปิดตัวในปี 2012 ซึ่งงานนี้ลูกค้าสามารถสัมผัสความแตกต่างได้ ตั้งแต่ด้านหน้า ซึ่งมีการเปลี่ยนกระจังหน้าใหม่ที่มีการเปลี่ยนลวดลายและมากับสี Metallic Gray ไฟหน้าและไฟท้ายมีการออกแบบลวดลายข้างในใหม่ และในรุ่น Technology Package มีการใช้หลอดแบบ LED ส่วนล้อแม็กเปลี่ยนลายเช่นเดียวกัน และมาพร้อมขนาดใหญ่สะใจถึง 19 นิ้ว
ในส่วนรายละเอียดของเครื่องยนต์ แม้ว่าทางมาสด้ายังไม่เปิดเผยออกมาในตอนนี้ แต่คาดว่าน่าจะเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยในสเปกยุโรปและต่างประเทศจะมีให้เลือกทั้งรุ่นเบนซิน 2,000 และ 2,500 ซีซี และเทอร์โบดีเซล 2,200 ซีซี 173 แรงม้า ส่วนสเปกอเมริกามีเฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน 2,000 ซีซี 155 แรงม้า และ 2,500 ซีซี 184 แรงม้า
สำหรับมาสด้า 6 ซึ่งเป็นรถยนต์ครอบครัวในกลุ่ม D-Segment เปิดตัวออกมาตั้งแต่ปี 2012 และในตอนนี้ถือว่าถึงเวลาของการปรับโฉมเพื่อรับมือกับคู่แข่งที่มีความสดใหม่กว่าอย่างฮอนด้า แอคคอร์ด และโตโยต้า คัมรี่ โดยประเด็นของความเปลี่ยนแปลงหลักอยู่ที่รายละเอียดของรูปลักษณ์ด้านหน้า ทั้งไฟหน้าใหม่ที่มาพร้อมกับไฟหน้าสไตล์ใหม่ พร้อมไฟแบบ LED ที่ได้รับการออกแบบรับกับกระจังหน้าทรงใหม่ ส่วนไฟท้ายมีการปรับรายละเอียดใหม่แต่รูปทรงยังเหมือนเดิม เพียงแต่เปลี่ยนมาใช้หลอดแบบ LED ขณะที่ล้อแม็กลายใหม่ มีให้เลือกหลายขนาด โดยที่มีล้อไซส์ใหญ่สุดคือ 19 นิ้ว
สำหรับเครื่องยนต์ที่ทำตลาดยังเป็นทางเลือกเดิมคือ 4 สูบ 2,500 ซีซี พร้อมระบบไดเร็กต์ อินเจ็กชั่นในตระกูล SKYACTIV-G ทำงานร่วมกับเกียร์ในตระกูล SKYACTIV เช่นเดียวกัน มีให้เลือกทั้งแบบธรรมดา หรืออัตโนมัติ ที่มีจำนวนจังหวะเท่ากันที่ 6 จังหวะ
การเปิดตัวมีขึ้นที่งานโชว์ในแอลเอ ปลายเดือนพฤศจิกายน และจะเริ่มวางขายในช่วงต้นปีหน้า
