xs
xsm
sm
md
lg

เปิดใจกระบี่มือหนึ่ง "เชลล์" ต่อตลาดไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

การเยือนสนามเซปัง ประเทศมาเลเซีย ครั้งนี้มิเพียงชมการแข่งขันมอเตอร์ไซค์สำหรับเยาวชนรายการ “เชลล์ แอ๊ดว๊านซ์ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ” ที่บริษัท เชลล์ ประเทศไทย เชิญ และเป็นผู้สนับสนุนหลักแล้ว ผู้สื่อข่าวเอเอสทีวี ผู้จัดการมอเตอริ่ง ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ นายแอนดรูว์ เฮปเปอร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เชลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล ปิโตรเลียม จำกัด กระบี่มือหนึ่งของเชลล์ ถึงเป้าหมายการรุกมอเตอร์สปอร์ตสำหรับเยาวชนเอเชีย และทิศทางในการทำตลาดน้ำมันหล่อลื่นมอเตอร์ไซค์ในไทย

-วัตถุประสงค์ในการเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลัก

เราอยากให้การแข่งขันนี้เสมือนเป็นรากฐานในการสร้างนักแข่งหน้าใหม่ และถือเป็นเวที การโชว์ การปลดปล่อยศักยภาพของนักแข่งในสนามแบบเต็มที่อีกทางหนึ่งเราก็สามารถพัฒนาน้ำมันผ่านการทดสอบบนสนามแข่งจริง เพราะที่ผ่านมาอย่างรายการ มอเตอร์ จีพี ดูจะไกลไปสำหรับบางตลาด บางประเทศ เช่นเชลล์เป็นผู้สนับสนุนหลักให้กลับทีม ดูคาติ ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้จัก เข้าไม่ถึง หรือได้แค่กลุ่มเล็ก ๆ ทางเรามองว่าการจัดรายการ “เชลล์ แอ๊ดว๊านซ์ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ “ และแข่งในภูมิภาคเอเชีย น่าจะสามารถสร้างความน่าสนใจให้กับคนเอเชียหันมาดูการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตเพิ่มขึ้น และเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่จะทำให้เชลล์ขึ้นเป็นผู้นำในวงการมอเตอร์สปอร์ตในอนาคต

-ปีแรกที่เชลล์จัดการแข่งขัน คาดว่าจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน

ถือว่าประสบความสำเร็จมากเราได้นักแข่งเยาวชนหน้าใหม่ถึง 22 คน และจากการที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ร่วมฝึกฝน-แข่งขันไปพร้อมกัน เราได้เห็นว่านักแข่งมีการพัฒนาทักษะในการขับมากขึ้น ที่สำคัญมันไม่ใช่แค่เรื่องทักษะ แต่การที่เข้าใช้ชีวิตด้วยกัน เจอเหตุการณ์หลากหลาย ทั้งดีใจ-เสียใจ ล้มบ้าง เจ็บบ้าง สิ่งเหล่านี้ช่วยพัฒนาชีวิตของเขาให้มีประสบการณ์ดี ๆ ที่พวกเขาไม่สามารถหาจากที่อื่นได้
นายแอนดรูว์ เฮปเปอร์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เชลล์  อินเตอร์เนชั่นแนล ปิโตรเลียม จำกัด
-คิดว่านักแข่งเยาวชนหน้าใหม่จะมีโอกาสไต่เต้าสู่ มอเตอร์ 3 / มอตอร์2/ มอเตอร์จีพี ไหม

การแข่งขัน รายการ “เชลล์ แอ๊ดว๊านซ์ เอเชีย ทาเลนต์ คัพ” น่าจะเป็นบันไดที่จะค่อย ๆ ก้าวไปสู่เวทีระดับโลก แต่กว่าคนเอเชียจะเข้าไปสู่รายการมอเตอร์ จีพี คงไม่ง่ายนัก น่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้คนเอเชียมากกว่า

-เชลล์ได้อะไรจากการเป็นสปอนเซอร์

สิ่งที่ได้อย่างแรก คือ เราได้โปรโมตแบรนด์ เชลล์ และหากปีหน้ามีสปอนเซอร์หน้าใหม่เข้ามาทำงานร่วมกัน หลาย ๆ เจ้า น่าจะช่วยกันสร้างเกมการแข่งขันนี้ดีขึ้นจนไปถึงปี 2016 ถามว่าคุ้มค่าไหม...มองว่าคุ้มค่า โดยเฉพาะการโปรโมตแบรนด์ให้กับเด็กได้รู้จัก คือเราไปเจาะกลุ่มเด็ก ให้เขารู้จักองค์กรของเรา แบรนด์ของเรา และนี่คือจุดประสงค์หลักของเชลล์
เรียงแถวเข้าสู่สนาม
-ไม่คิดจะสนับสนุนเยาวชนในยุโรปบ้าง

จริง ๆ แล้วตลาดหลักในการจำหน่ายน้ำมันของเชลล์อยู่ที่เอเชีย เราจึงพุ่งเป้ามาแถบนี้ บวกกับเด็กในยุโรป มีโอกาสในการเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตมากว่าเด็กเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นสนาม กิจกรรม มีความพร้อมสำหรับเด็กในแถบนั้น ดังนั้นเราจึงโฟกัสมาที่เอเชียมากกว่า

-มองตลาดน้ำมันเครื่องในเอเชีย

ในเอเชียเราโตประมาณ 3-4 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ตลาดโลกทรงตัว ส่วนประเทศที่น้ำมันเครื่องโตมากสุด น่าจะเป็น มาเลเซีย รองลงมา ไทย จีน ฟิลิปปินส์ แต่ไม่สามารถบอกว่าแบรนด์เชลล์มียอดขายอยู่อันดับที่เท่าไรในแต่ละประเทศ เพราะว่าแต่ละตลาดไม่เหมือนกัน ส่วนสินค้าที่มีอัตราการเติบโตส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าระดับพรีเมียม
โฉมหน้านักบิดเยาวชนทั้ง 22 คน
-แผนสำหรับตลาดไทยในปีหน้า

เชลล์ เตรียมจะเปิดตัวสินค้าระดับพรีเมียม เป็นเชลล์ แอ๊ดว๊านซ์ อัลตร้า ที่มาพร้อมเพียวพลัส เทคโนโลยี น้ำมันเครื่องสังเคราะห์สำหรับรถจักรยานยนต์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเราได้เปิดตัวน้ำมันเครื่องสังเคราะห์สำหรับรถยนต์นั่งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล คือ เชลล์ เฮลิกส์ อัลตร้า พร้อม เพียวพลัส เทคโนโลยีไปแล้ว ซึ่งใช้เทคโนโลยีการผลิตน้ำมันสังเคราะห์เดียวกัน คือ เพียวพลัส เทคโนโลยี ผลิตจากธรรมชาติมีความบริสุทธิ์สูงเมื่อเทียบกับน้ำมันดิบทั่วไป

คุณสมบัติของเพียวพลัส เทคโนโลยี 1. ความหนืดต่ำทนได้ในสภาวะอุณหภูมิสุดขั้ว (เช่นต่ำมาก-สูงมาก) 2.แรงเสียดทานต่ำ ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง 3.การระเหยต่ำ ช่วยประหยัดการเติมพร่องของน้ำมันเครื่อง

นอกจากนี้เตรียมกิจกรรมสำหรับลูกค้า โดยใช้เน็ตเวิร์กเรื่องปั๊มน้ำมันที่มีอยู่ทั่วประเทศเป็นตัวเชื่อมโยงสู่ผู้ใช้รถ เช่น การตรวจเช็กสภาพรถฟรี เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรกให้กับมอเตอร์ไซค์ หรือ การจัดกิจกรรมที่เข้าถึงผู้บริโภค ทั้งนี้เพราะว่าไทยมีความแข็งแรงในเรื่องปั๊มน้ำมันมาก จึงอยากใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วให้เป็นประโยชน์
ลีลาแต่ละคน
พอใจการทำตลาดไทย อยากให้ไทยโตเท่าไรในปีหน้า

พอใจ และไทยเป็นตลาดที่สำคัญมาก จึงอยากให้โตประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญน้ำมันเครื่องตัวใหม่ที่จะเปิดตัวปีหน้า จะใช้ไทยเป็นฐานในการผลิตและส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศด้วย
นั่งรอ เจ้าหน้าที่เรียกประจำที่
รุ่นเด็ก ไม่มีสาวถือร่มให้ มีแต่พี่เลี้ยงอะ
ไกโตะ โตบะ (อายุ 14ปี)  โฉมหน้าผู้ชนะเลิศ
ทากูมะ คูมินิเนะ อายุ 15 ปี  วันอาทิตย์ สามารถเข้าเป็นที่  1 ได้
ร้อน -เหนื่อย ก็ยังยิ้มได้
เด็กญี่ปุ่นเข้ามาแข่งเยอะ
ซาซากิ อายุแค่  14 ปี ล้ม บาดเจ็บแต่ก็ยังยิ้มได้
ซาซากิ อายุแค่  14 ปี ล้ม บาดเจ็บแต่ก็ยังยิ้มได้
ช่วยเพื่อนถอดชุด หลังแข่งเสร็จ
หลบร้อน

หลังแจ่งต้องมาคุยกันถึง ข้อบกพร่อง ความผิดพลาด




อุปกรณ์เยอะมาก เพื่อความปลอดภัย
ไกโตะ โตบะ (อายุ 14ปี)
รถนำขบวน เท่มาก

ฝีมือแต่ละคนไม่รุ่นใหญ่เหมือนกันนะเนี่ย

กำลังโหลดความคิดเห็น