เมื่อวัน 7 ตุลาคม พ.ศ. 2456 เฮนรี่ ฟอร์ด ได้ผลิกโฉมกระบวนการผลิตด้วยการคิดค้นสายการผลิตแบบเคลื่อนที่ขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก จนถึงวันนี้ นับเป็นเวลากว่า 101 ปีแล้วที่ฟอร์ดยังคงสานต่อความเป็นผู้นำด้านการบุกเบิกแนวคิดอันทันสมัยด้วยการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านการออกแบบและผลิตรถยนต์ รถกระบะ และรถเอสยูวี เพื่อมอบยานยนต์ที่มีคุณภาพสูงสุดให้แก่ผู้ขับขี่ทั่วโลก และในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 101 ปีนี้เอง ฟอร์ดจึงได้คัดเลือก 4 เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงที่ช่วยให้ทำให้รถฟอร์ดมีคุณภาพสูงสุดมาเล่าสู่กันฟัง
1.การพิมพ์ชิ้นส่วนอะไหล่และชิ้นส่วนขนาดเล็กแบบสามมิติ: เทคโนโลยีการพิมพ์แบบสามมิติช่วยให้ฟอร์ดออกแบบชิ้นส่วนในโลกดิจิทัลและพิมพ์ชิ้นส่วนออกมาเพื่อทดสอบการใช้งานจริงได้อย่างรวดเร็วและในราคาย่อมเยาว์ลงมากเมื่อเทียบกับในอดีต เทคโนโลยีการพิมพ์แบบสามมิติจึงช่วยกระตุ้นให้ทีมงานมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และขยายขอบเขตของการดีไซน์รถยนต์ออกไปได้กว้างไกลยิ่งขึ้น
2.ออกแบบรถยนต์ด้วยเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ผลิตวิดีโอเกม: การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงแบบที่ใช้ในอุตสาหกรรมการสร้างภาพเคลื่อนไหวและเกม ช่วยให้ทีมนักออกแบบและทีมวิศวกรของฟอร์ดทดสอบการออกแบบใหม่ๆ การตกแต่งรถ และความลู่ลมของรถตามหลักอากาศพลศาสตร์ได้ก่อนที่รถจะเข้าสู่กระบวนการผลิตจริง เทคโนโลยีนี้จึงช่วยย่นเวลาที่ใช้ในขั้นตอนการออกแบบ และช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญของฟอร์ดจากหลายๆ ทวีปทั่วโลกทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว
3.การสร้างโรงงานเสมือนจริง: การนำเทคโนโลยีสามมิติขั้นสูงมาใช้ ทำให้ฟอร์ดเปลี่ยนรูปแบบและจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ในสายการผลิตให้เหมาะสมได้ในโลกเสมือนจริง เพื่อช่วยพัฒนาให้กระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพของพนักงานและเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานด้วย การจำลองโรงงานแบบเสมือนจริงช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตของฟอร์ดทั่วโลกได้ถึง 90% ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 เป็นต้นมา
4.การทำงานอย่างคล่องตัวของสายการผลิตทั่วโลก: นวัตกรรมด้านการผลิตและการออกแบบที่กล่าวถึงข้างต้น ช่วยให้ฟอร์ดผลิตรถยนต์ได้มากถึง 16 คันในเวลาทุกๆ 60 วินาที ทั้งยังรักษาคุณภาพการผลิตรถจากโรงงาน 80 แห่งใน 22 ประเทศทั่วโลกให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกันได้อีกด้วย
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยีพลิกโฉมการผลิตรถยนต์ สามารถรับชมวิดีโอแสดงขั้นตอนการทำงานของโรงงานเสมือนจริงได้ที่ http://youtu.be/wOlcUKpoV7o และรับชมการทำงานของเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติที่ http://youtu.be/T3qp3UbwPrE
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
1.การพิมพ์ชิ้นส่วนอะไหล่และชิ้นส่วนขนาดเล็กแบบสามมิติ: เทคโนโลยีการพิมพ์แบบสามมิติช่วยให้ฟอร์ดออกแบบชิ้นส่วนในโลกดิจิทัลและพิมพ์ชิ้นส่วนออกมาเพื่อทดสอบการใช้งานจริงได้อย่างรวดเร็วและในราคาย่อมเยาว์ลงมากเมื่อเทียบกับในอดีต เทคโนโลยีการพิมพ์แบบสามมิติจึงช่วยกระตุ้นให้ทีมงานมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และขยายขอบเขตของการดีไซน์รถยนต์ออกไปได้กว้างไกลยิ่งขึ้น
2.ออกแบบรถยนต์ด้วยเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ผลิตวิดีโอเกม: การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงแบบที่ใช้ในอุตสาหกรรมการสร้างภาพเคลื่อนไหวและเกม ช่วยให้ทีมนักออกแบบและทีมวิศวกรของฟอร์ดทดสอบการออกแบบใหม่ๆ การตกแต่งรถ และความลู่ลมของรถตามหลักอากาศพลศาสตร์ได้ก่อนที่รถจะเข้าสู่กระบวนการผลิตจริง เทคโนโลยีนี้จึงช่วยย่นเวลาที่ใช้ในขั้นตอนการออกแบบ และช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญของฟอร์ดจากหลายๆ ทวีปทั่วโลกทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว
3.การสร้างโรงงานเสมือนจริง: การนำเทคโนโลยีสามมิติขั้นสูงมาใช้ ทำให้ฟอร์ดเปลี่ยนรูปแบบและจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ ในสายการผลิตให้เหมาะสมได้ในโลกเสมือนจริง เพื่อช่วยพัฒนาให้กระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งยังส่งผลดีต่อสุขภาพของพนักงานและเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานด้วย การจำลองโรงงานแบบเสมือนจริงช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตของฟอร์ดทั่วโลกได้ถึง 90% ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 เป็นต้นมา
4.การทำงานอย่างคล่องตัวของสายการผลิตทั่วโลก: นวัตกรรมด้านการผลิตและการออกแบบที่กล่าวถึงข้างต้น ช่วยให้ฟอร์ดผลิตรถยนต์ได้มากถึง 16 คันในเวลาทุกๆ 60 วินาที ทั้งยังรักษาคุณภาพการผลิตรถจากโรงงาน 80 แห่งใน 22 ประเทศทั่วโลกให้อยู่ในมาตรฐานเดียวกันได้อีกด้วย
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยีพลิกโฉมการผลิตรถยนต์ สามารถรับชมวิดีโอแสดงขั้นตอนการทำงานของโรงงานเสมือนจริงได้ที่ http://youtu.be/wOlcUKpoV7o และรับชมการทำงานของเทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติที่ http://youtu.be/T3qp3UbwPrE
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
